ศูนย์ข่าวศรีราชา-ตำรวจภูธรภาค 2 จับ เครือข่ายยาเสพติดสั่งจากเรือนจำคลองเปรม ได้ผู้ต้องหา 1 คน พร้อมยาบ้าจำนวน 82,000 เม็ด และทรัพย์สินจำนวนมากมูลค่าประมาณ 11 ล้านบาท
วานนี้ ( 7 มี.ค.) ที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 2 อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี พล.ต.ท. ไถง ปราศจากศัตรู ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2(ผบช.2) เปิดแถลงข่าว การจับกุมเครือข่ายยาเสพติดที่สั่งซื้อจากเรือนจำคลองเปรม ได้ผู้ต้องหา 1 คน คือ นายอัมพล หรือโก้ นิ่มสกุล อายุ 33 ปี บ้านเลขที่ 89/72 หมู่บ้านนิรันดร์วิลล์ ซอยศรีด่าน 22 ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
พล.ต.ท.ไถง กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับข้อมูลเบาะแสยาเสพติดจากพลเมืองดีผ่านทางตู้ ปณ. 2 ว่า ผู้ต้องหาคนดังกล่าวมีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายยาบ้ารายใหญ่ในเขตจ.ชลบุรี และใกล้เคียง จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำการสืบสวนติดตามเพื่อจับกุม จนทราบว่า ผู้ต้องหาจะนำยาเสพติดมาส่งให้ลูกค้าบริเวณ ปั๊มน้ำมันปิโตรนาส ม.4 ต.หนองไม้แดง อ.เมือง จ.ชลบุรี จึงเฝ้าติดตามเพื่อดำเนินการจับกุม
ในเวลาต่อมาพบนายอัมพล ขับรถยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า CRV สีขาว หมายเลขทะเบียน ญช 3139 กรุงเทพฯ เข้ามาภายในปั๊มดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าแสดงตัวตรวจค้น พบยาบ้า จำนวน 80,000 เม็ด บริเวณพื้นรถเบาะนั่งข้างคนขับ ซึ่งกำลังจะนำมาส่งให้ลูกค้าในจ.ชลบุรี และยังมียาเสพติดซุกซ่อนอยู่ที่หมู่บ้านนิรันดร์วิลล์ จ.สมุทรปราการ จึงไปค้นพบยาบ้าอีก 2,000 เม็ด จึงยึดไว้เป็นของกลาง
พล.ต.ท. ไถง กล่าวต่อไปว่า จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้สั่งซื้อยาบ้าจากผู้ต้องหาในเรือนจำคลองเปรม มาส่งให้แก่ลูกค้าดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายผิดกฎหมาย และ พ.ร.บ.ยึดทรัพย์สินทั้งหมด ที่คาดว่าได้มาจากการค้ายาบ้า ประกอบด้วย รถยนต์ CRV สีขาว รถยนต์บรรทุกเล็ก ยี่ห้อซูซูกิ สีขาว ทะเบียน ถท.3521 กรุงเทพฯ และเครื่องใช้ไฟฟ้าอีกหลายรายการ มูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดประมาณ 11 ล้านบาท
ด้านนายอัมพล ผู้ต้องหา กล่าวว่า ยาบ้าดังกล่าวตนจะได้รับค่าจ้างครั้งละ 30,000 บาท โดยจะนำเงินที่ได้ไปเที่ยวเท่านั้น ส่วนยาเสพติดเหล่านี้ตนจะไม่เข้ายุ่งเกี่ยวหรือเสพติดอย่างเด็ดขาด เนื่องจากทราบว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดี เพียงแต่ต้องการมีรายได้นำเงินไปเที่ยวเตร่อย่างสนุกสนาน
ขณะนี้จ.ชลบุรีเป็นแหล่งพักยาและจำหน่ายยาบ้ามากที่สุดในพื้นที่ภาคตะวันออก โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ประมาณ 3,000 ราย ซึ่งเป็นผู้ค้า จำนวน 2,300 ราย และยาบ้าที่จับกุมได้กว่า 2 แสนเม็ด โดยเรื่องนี้ตำรวจภูธรภาค 2 จะดำเนินการกวาดล้างยาเสพติดตามนโยบายของรัฐบาลอย่างต่อเนื่องและเข้มงวดต่อไป