xs
xsm
sm
md
lg

พท.ท้าปชป.ลงสัตยาบัน ไม่ชนะต้องเป็นฝ่ายค้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายนพดล ปัทมะ ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ได้ส่งจดหมายชี้แจงจากกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ที่กล่าวหาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ผิดหวัง ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ แต่พยายามทำให้รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ บริหารงานไม่ได้ว่า ตนฟังแล้วรู้สึกสะท้อนใจในการพูดว่าร้าย และโยนความผิดให้คนอื่น ตนยังจำภาพการขย่มรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช และรัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ โดยม็อบจัดตั้ง และ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ไปขึ้นเวทีพันธมิตรฯ และรัฐมนตรีบางคนในรัฐบาลนี้ ก็เคยไปชุมนุมปิดสนามบินสุวรรณภูมิ นายอภิสิทธิ์ เข้าไปเยี่ยมปลอบขวัญผู้ชุมนุมที่ยึดทำเนียบฯ โดยผิดกฎหมาย และขอถามว่าพรรคใดไม่ยอมรับกติกา พรรคใดบอยคอตการเลือกตั้ง พรรคใดแพ้การเลือกตั้งทุกครั้งในรอบสิบกว่าปีที่ผ่านมา และพรรคใดที่ แม้จำนวน ส.ส.น้อยกว่าพรรคอื่น แต่ก็ทำทุกวิถีทางให้ตัวเองจัดตั้งรัฐบาลได้
นายนพดลยังยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เคารพกติกา และเดินเข้าสู่การเลือกตั้งตามกติกาที่คนอื่นเขียนทุกครั้ง และชนะพรรคปชป. ทุกครั้ง และอยากเห็นความยุติธรรม ความปรองดอง และรัฐบาลที่สามารถแก้ปัญหาให้กับประชาชนได้ แต่รัฐบาลล้มเหลวในหลายๆเรื่อง ส่วนพรรคเพื่อไทยก็เจียมเนื้อเจียมตัวว่าไม่มีเส้น ไม่มีตัวช่วย มีแต่พี่น้องประชาชนที่รักความเป็นธรรม และรักประชาธิปไตยคอยเป็นกำแพงสนับสนุน และการชุมนุมของพี่น้องประชาชนในขณะนี้ก็เป็นไปอย่างสันติ มีวินัย ไม่ได้ป่วนเพื่อล้มรัฐบาลตามที่กล่าวหา
" ผมอยากถามไปยังนายสุเทพว่า พรรคปชป. กล้าที่จะลงสัตยาบันก่อนการเลือกตั้งหรือไม่ว่า พรรคที่ได้ที่นั่ง ส.ส. มากที่สุดหลังการเลือกตั้งครั้งหน้า ต้องได้สิทธิ์ในการจัดตั้งรัฐบาลก่อน และห้ามมิให้ใช้ตัวช่วย หรืออำนาจนอกระบบไปบังคับพรรคเล็กหรือไปทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริต และเที่ยงธรรม" นายนพดล กล่าว

** จี้พท.สั่งเสื้อแดงหยุดป่วน
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย เรียกร้องนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กำหนดวันยุบสภาให้ชัดเจนว่า ขณะนี้หากดูสถานการณ์ทางการเมืองถือว่ายังอยู่ในภาวะไม่ปกติเท่าที่ควร ยังเห็นการลงพื้นที่ของนายกฯ ถูกขัดขวางจากกลุ่มคนเสื้อแดงบ่อยๆ ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่มีพัฒนาการเคลื่อนไหวรุนแรงมากยิ่งขึ้นหลังจาก 7 แกนนำ นปช. ได้รับประกันตัวออกมา และยังมีการเคลื่อนไหวในลักษณะเลี้ยงกระแสคนเสื้อแดง เพื่อไม่ให้ตกกระแสการเมืองไป ทั้งที่เป้าหมายการเคลื่อนไหวเปลี่ยนข้อเสนอไปมาตลอด และเป้าหมายสำคัญในการเรียกร้องให้ปล่อยแกนนำคนเสื้อแดง ก็ได้รับการสนองตอบตามข้อเรียกร้องแล้ว จึงไม่ทราบว่าการเคลื่อนไหวในขณะนี้ มีเป้าประสงค์ใดกันแน่
อย่างไรก็ตาม นอกจากการเคลื่อนไหวในลักษณะชุมนุมใหญ่ แล้วยังมีความเคลื่อนไหวในลักษณะดาวกระจาย จัดตั้งคนเป็นกลุ่มๆ เพื่อต่อต้านนายกฯ ในช่วงลงพื้นที่ต่างๆ โดยล่าสุดการที่มีคนยกป้ายต่อต้านนายกฯ และตะโกนด่าในระหว่างการบรรยายในงาน 100 ปี สภาสตรีไทย รวมถึงการทำกิจกรรมทางการเมืองที่สวนจตุจักร ในการเปิดแคมเปญหาเสียงของนายกฯ ที่ถือเป็นกิจกรรมการหาเสียงของพรรคการเมือง ก็ยังถูกขัดขวางจากคนกลุ่มเสื้อแดง จึงไม่มีหลักประกันใด ที่จะบ่งบอกได้ว่าหากมีการยุบสภาแล้ว จะไม่มีการต่อต้านการรณงค์หาเสียงของพรรคการเมือง
" หากพรรคเพื่อไทยต้องการที่จะให้มีการเลือกตั้งโดยเร็วจริง ก็ควรส่งสัญญาณ หรือห้ามปราบกลุ่มคนเสื้อแดง ที่เป็นฐานเสียงของตัวเองให้ยุติความเคลื่อนไหวในลักษณะดังกล่าว มิเช่นนั้นแล้ว เงื่อนไข 3 ข้อ ที่นายกฯวางไว้ ก็ไม่สามารถทำให้การยุบสภาเป็นไปได้จริง เว้นแต่พรรคเพื่อไทยไม่มีความพร้อมในการเลือกตั้ง ทำปากว่าตาขยิบ ปากเรียกร้องให้มีการยุบสภาโดยเร็ว แต่ลับหลังส่งสัญญาณให้คนเสื้อแดง เคลื่อนไหวต่อต้านไม่ให้มีการยุบสภาเกิดขึ้น จึงอยากให้พรรคเพื่อไทย แกนนำคนเสื้อแดง กลุ่มนปช. ซึ่งเป็นคนกลุ่มเดียวกันได้ออกมาให้สัญญาประชาคม หรือทำสัตยาบัน ว่าเมีความพร้อม และสนับสนุนให้มีการเลือกตั้งทั่วไปโดยเร็ว" นายเทพไท กล่าว

**"เทพไท" ลั่นไม่ได้ที่1ไม่ตั้งรัฐบาล
นายเทพไท ยังกล่าวถึง กรณีพรรคเพื่อไทย กล่าวหาว่า พรรคประชาธิปัตย์มีการเตรียมการวางแผนที่จะดูด ส.ส.จากพรรคการเมืองอื่นว่า พรรคเพื่อไทย กำลังหวาดระแวงพฤติกรรม ส.ส.ของพรรคตัวเองว่า จะถูกดูดและมีการย้ายพรรคจึงกลับมาใส่ร้ายพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งขอยืนยันว่า พรรคประชาธิปัตย์ จะไม่ใช้วิธีการดูดส.ส.จากพรรคการเมืองใด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน ก็ให้เกียรติกับพรรคร่วมมาโดยตลอด จะไม่มีการแย่งชิง ส.ส.ในลักษณะตกปลาในอ่างอย่างเด็ดขาด และในขณะนี้ก็ยังไม่มีกระแสข่าวว่าส.ส.พรรรคร่วมรัฐบาลคนใดจะย้ายมาสังกัดพรรคประชาธิปัตย์
"ถ้าจะมี ก็คงจะเป็นเฉพาะพรรคฝ่ายค้านที่ต้องการจะเปลี่ยนขั้วการเมือง เพราะมีการวิเคราะห์และฟันธงอย่างชัดเจนว่า พรรคประชาธิปัตย์ ยังคงเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลครั้งต่อไป และเป็นธรรมดาของนักการเมืองที่อยากจะสังกัดพรรคร่วมรัฐบาล มากกว่าพรรคฝ่ายค้าน การอยู่พรรคการเมืองบางพรรคที่มีสัญญาณบ่งบอกว่า อนาคตจะเป็นพรรคฝ่ายค้านอย่างถาวร ก็ไม่มีใครอยากสังกัดด้วย ฉะนั้นขออย่าออกมาใส่ร้ายและกล่าวหาโดยไม่มีมูลความจริงแต่อย่างใด" นายเทพไท กล่าว
นายเทพไท กล่าวว่า แม้ว่าเราจะต้องการได้เสียงส.ส.เกินครึ่ง เพื่อเป็นรัฐบาลพรรคเดียวให้ได้ตามที่ประกาศไว้ก็ตาม แต่ก็จะไม่ใช้วิธีการสกปรก ผิดกฏหมาย และผิดมารยาททางการเมืองโดยเด็ดขาด ถ้าเสียงส.ส.ไม่เกินครึ่ง ก็พร้อมที่จะจับมือกับพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งเป็นพันธมิตรทางการเมืองเดิมต่อไป ซึ่งนั่นหมายความว่า พรรคได้เสียงมากเป็นอันดับหนึ่ง แต่ถ้าได้เสียงเป็นอันดับสอง ก็จะหลีกทางให้พรรคที่ได้เสียงอันดับหนึ่งจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งถือเป็นธรรมดาทางการเมือง
กำลังโหลดความคิดเห็น