ASTVผู้จัดการรายวัน – เม.ย..ปีเถาะวิกฤตสินค้าแห่ขึ้นราคาอีกเพียบ “นมพร้อมดื่ม สบู่”ขึ้นแน่ 1 มี.ค.นี้ ปลากระป๋อง คอฟฟี่เมท เครื่องปรุงรส ปรับราคา 10% ไลอ้อน-มาม่า ลั่นตรึงราคาให้นานที่สุด ชี้สินค้าขึ้นราคา-ขาดแคลน กระทบจิตวิทยาผู้บริโภคระมัดระวังการใช้สอย เครียดแห่ซื้อตุนสินค้า ส่วนฟาสต์ฟู้ด-เสื้อผ้าแฟชั่น สุดอั้นเล็งปรับราคาด้วย
นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมค้าส่งและค้าปลีกไทย กล่าวว่า ปลายเดือนกพ.ที่ผ่านมา มีสินค้า 3 กลุ่ม ได้แจ้งต่อร้านค้าส่งเพื่อปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้น 10% โดยจะได้เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม นี้ เป็นต้นไป ได้แก่ ปลากระป๋อง คอฟฟี่เมท และซีอิ๊วดำตราเด็กสมบูรณ์ อย่างไรก็ตามสิ้นเดือนมีนาคม นี้ ซึ่งจะครบกำหนดที่กรมการค้าภายในขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้ตรึงราคาไว้ คาดว่าจะมีสินค้าหลายตัวปรับราคาขึ้น อาทิ สบู่ของบริษัท ยูนิลีเวอร์ และนมพร้อมดื่มยูเอชที เป็นต้น
“ปลากระป๋องแจ้งขึ้นราคาสินค้าเกือบทุกแบรนด์ ส่วนหนึ่งเพราะวัตถุดิบปลาขาดแคลน และผลพวงจากราคาน้ำมันปาล์มที่ปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งน้ำมันปาล์มเป็นวัตถุดิบที่นำมาใช้ในการปรุง อย่างไรก็ตามามสินค้าที่ปรับขึ้น โดยมากล้วนต้องใช้น้ำมันปาล์มเป็นวัตถุดิบในการผลิต”
นับว่าเป็นช่วงวิกฤตซ้อนวิกฤตสำหรับผู้บริโภคไทยอย่างแท้จริง โดยเฉพาะสินค้าหลายตัวทยอยขึ้นราคา เชื่อพฤติกรรมของผู้บริโภคปรับวิธีการใช้เงิน โดยมีความระมัดระวังมากขึ้น แต่คงทำอะไรมากไม่ได้นัก เพราะสินค้าส่วนใหญ่ที่ปรับขึ้นเป็นของที่ต้องกินต้องใช้ในชีวิตประจำวัน ขณะที่รัฐบาลเองควรมีการรณรงค์ให้คนไทยปรับตัว รองรับกับสถานการณ์ เช่น น้ำมันปาล์ม แพงและขาดตลาด ก็รณรงค์ให้หันมาปรุงอาหารนึ่ง ย่างแทน เป็นต้น
***โฟร์โมสต์จ่อขึ้นราคายูเอชที****
นายชนินทร์ อรรจนานันท์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ฟรีแลนด์ ฟู้ดส์ โฟร์โมสต์ (ประเทศไทย) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายนมพร้อมดื่มโฟร์โมสต์ กล่าวว่า หลังจากการประชุมมิลค์บอร์ด ได้พิจารณาการปรับราคาน้ำนมดิบ ตามที่คณะอนุกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นมเสนอในอัตรากก.ละ 1 บาท ซึ่งจะส่งผลให้ราคาน้ำนมดิบเพิ่มขึ้นเป็น 18 บาทต่อกก. จากปัจจุบันราคา 17 บาทต่อกก. ทำให้บริษัทต้องพิจารณาถึงต้นทุนที่ปรับเพิ่มขึ้นอีกครั้ง และมีแนวโน้มที่จะยื่นต่อกรมการค้าภายใน เพื่อขอปรับราคาสินค้า
ช่วงปลายปีที่ผ่านมา น้ำนมดิบได้ปรับเพิ่มขึ้นจาก 16.50 บาทต่อกก. เป็น 17 บาทต่อกก. บริษัทก็ได้ยื่นต่อกรมการค้าภายใน เพื่อขอปรับราคานมพร้อมดื่มโฟร์โมสต์ขึ้น แต่กรมการค้าภายในขอความร่วมมือให้ตรึงราคาสินค้ากระทั่งสิ้นเดือนมีนาคม 2554 ทั้งนี้ข้อมูลในเบื้องต้น การปรับเพิ่มราคานมดิบ ส่งผลให้ราคานมยูเอชทีและนมถุงราคาเพิ่มขึ้นจากเดิมนมยูเอชที่มีราคาที่กล่องละ 7.40 บาทเป็นราคา 7.61 บาท และนมถุงราคาราคาที่ 6.16 บาทเป็นถุงละ 6.37 บาท
***ไลอ้อน-มาม่ายันตรึงราคา***
นายบุญฤทธิ์ มหามนตรี ประธานกรรมการ บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคในเครือสหพัฒน์ กล่าวว่า ผลพวงจากวิกฤติน้ำมันปาล์มที่เกิดขึ้นขณะนี้ ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตสินค้ากลุ่มซักล้าง อาทิ ผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน และกลุ่มชำระล้าง สบู่ แชมพู ปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นสินค้าที่ต้องใช้วัตถุดิบการผลิตจากปาล์มเป็นส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตามบริษัทยังสามารถตรึงราคาสินค้าไว้กระทั่งเดือนเมษายน – พฤษภาคม
หลังจากก่อนหน้านี้กรมการค้าภายใน ขอความร่วมมือผู้ประกอบการตรึงราคาสินค้าถึงสิ้นเดือนมีนาคมนี้ ซึ่งล่าสุดพบว่า บริษัทยักษ์ใหญ่ได้ยื่นต่อกรมการค้าภายใน เพื่อขอปรับราคาสบู่แล้ว ทั้งนี้ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ประเทศไทยต้องผจญกับราคาสินค้าเกษตรที่ผกผันอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่น้ำมันปาล์ม ลากยาวมาถึงถั่วเหลือง รวมถึงราคาน้ำมันหลังจากเกิดเหตุการณ์การเมืองในตะวันออกกลาง ในแง่กำลังการซื้อของผู้บริโภครากหญ้าปีนี้ เชื่อว่าดีแน่นอน เนื่องจากราคาพืชผลการเกษตรขายได้ราคาดี ไม่ว่าจะเป็น ยางพารา อ้อย
ขณะที่มุมมองทางจิตวิทยาของผู้บริโภค เชื่อว่าราคาสินค้าที่พาเหรดปรับเพิ่มขึ้น ทั้งราคาน้ำมันปาล์ม นมพร้อมดื่ม กระทบต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคให้มีความระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย แต่ขณะเดียวกันก็ซื้อสินค้ากักตุนโดยเฉพาะน้ำมันปาล์ม เพราะกลัวว่าจะขาดแคลนหรือไม่มีใช้ แต่ในที่สุดผู้บริโภคก็จะปรับตัวได้ อย่างไรก็ตามสถานการณ์สินค้าเกษตรที่ปรับเพิ่มขึ้น ยังคงมีต่อเนื่องในอนาคต เพราะด้วยสภาพอากาศที่แปรปรวนจากการเกิดภาวะโลกร้อน ซึ่งผู้บริโภคควรปรับตัวในการดำเนินชีวิตให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
***ชี้ขึ้นราคา 1-2บ.ถือว่าสูง***
นายเพชร พะเนียงเวทย์ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด มหาชน ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรามาม่า กล่าวว่า บริษัทไม่มีแผนที่จะปรับราคาบะหมึ่กี่งสำเร็จรูปขึ้น แม้ว่าขณะนี้ต้นทุนการผลิตจากน้ำมันปาล์มปรับราคาเพิ่มขึ้น เนื่องจากไม่ต้องการซ้ำเติมผู้บริโภคในเวลานี้ ซึ่งเชื่อว่าราคาสินค้าที่ปรับเพิ่มขึ้น 1-2 บาท ถ้าเทียบราคาสินค้าที่ไม่แพงมากเช่นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจำหน่ายซองละ 6 บาท ถือว่าค่อนข้างจะสูง แต่ถ้าไปเทียบกับสินค้าที่จำหน่าย 100 บาท ขึ้นไป การปรับขึ้น 1-2 บาท คนซื้อจะไม่ค่อยรู้สึกเท่าไหร่ อย่างไรก็ตามปีนี้คาดว่า กำไรจากการดำเนินธุรกิจลดลงอย่างแน่นอน
***ฟาสต์ฟู้ด-เสื้อผ้าจ่อปรับราคา
ด้านฟาสต์ฟู้ดรายใหญ่อย่าง แมคโดนัลด์ ก็เตรียมพิจารณาที่จะปรับราคาในช่วงเดือนเมษายนนี้แล้ว เนื่องจากว่าต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ทั้งจากน้ำมันที่ใชในการทอดเพมิ่มขึ้น 10% อย่างไรก็ตามจะขึ้นเท่าไรนั้นต้องพิจารณจากหลายปัจจัยประกอบ เช่น สถานการณ์ราคาน้ำมันในช่วนงนั้ ค่าจง้าแรงงาน พฤติกรรมผู้บริโภค
นายบุญชัย คงปักไพศาล ประธานกรรมการ บริษัท แอลเอ็มอี จำกัด ผู้นำเข้าสินค้าแฟชั่นเสื้อผ้าแบรนด์เนมจากต่างประเทศ เปิดเผยว่า ขณะนี้ต้นทุนในการผลิตเสื้อผ้าโดยเฉพาะฝ้ายซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญ ได้เพิ่มขึ้นถึง 30% ส่วนโพลีเอสเตอร์ราคาปรับขึ้นอีก 10% ส่งผลให้การผลิตเสื้อผ้าในเวลานี้สูงขึ้นตามไปด้วย ซึ่งจำเป็นที่จะต้องมีการพิจารณาปรับราคาสินค้าเช่นกัน แต่ยังไม่แน่ใจว่าควรจะปรับเท่าใดและเมื่อใด
นายพรศีล บุทกัสก้า ผู้บริหารฝ่ายการตลาด ผลิตภัณฑ์ยีนส์ลีวายส์ บริษัท ดีเคเอสเอช จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯได้ตัดสินใจปรับราคายีนส์ลีวายส์ขึ้นไปแล้วประมาณ 5% เมื่อไม่นานนี้ เพราะต้นทุนการผลิตสูงขึ้น จากราคาฝ้ายที่นำมาผลิต และต้นทุนอื่นก็สูงตามทั้งค่าจ้างแรงงาน ค่าการขนส่ง เป็นต้น
นายสมชัย ถาวรรุ่งโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บรษัท ออฟฟิซ คลับ (ไทย) จำกัด กล่าวว่า เมื่อเร็วๆนี้ทางซัฟพลายเออร์ผู้ผลิตสินค้าที่เกี่ยวกับพลาสติกให้กับบริษัทฯ ได้ทำเรื่องมายังบริษัทฯเพื่อขอปรับราคาจำหน่ายสิน้คาขึ้นอย่างน้อย 5-7% เพราะไม่สามารถแบกรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯได้ขอความร่วมมือซัปพลายเออร์ให้ตรึงราคาเดิมไว้ก่อนในช่วง 6 เดือนนับจากนี้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้บริโภค
นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมค้าส่งและค้าปลีกไทย กล่าวว่า ปลายเดือนกพ.ที่ผ่านมา มีสินค้า 3 กลุ่ม ได้แจ้งต่อร้านค้าส่งเพื่อปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้น 10% โดยจะได้เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม นี้ เป็นต้นไป ได้แก่ ปลากระป๋อง คอฟฟี่เมท และซีอิ๊วดำตราเด็กสมบูรณ์ อย่างไรก็ตามสิ้นเดือนมีนาคม นี้ ซึ่งจะครบกำหนดที่กรมการค้าภายในขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้ตรึงราคาไว้ คาดว่าจะมีสินค้าหลายตัวปรับราคาขึ้น อาทิ สบู่ของบริษัท ยูนิลีเวอร์ และนมพร้อมดื่มยูเอชที เป็นต้น
“ปลากระป๋องแจ้งขึ้นราคาสินค้าเกือบทุกแบรนด์ ส่วนหนึ่งเพราะวัตถุดิบปลาขาดแคลน และผลพวงจากราคาน้ำมันปาล์มที่ปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งน้ำมันปาล์มเป็นวัตถุดิบที่นำมาใช้ในการปรุง อย่างไรก็ตามามสินค้าที่ปรับขึ้น โดยมากล้วนต้องใช้น้ำมันปาล์มเป็นวัตถุดิบในการผลิต”
นับว่าเป็นช่วงวิกฤตซ้อนวิกฤตสำหรับผู้บริโภคไทยอย่างแท้จริง โดยเฉพาะสินค้าหลายตัวทยอยขึ้นราคา เชื่อพฤติกรรมของผู้บริโภคปรับวิธีการใช้เงิน โดยมีความระมัดระวังมากขึ้น แต่คงทำอะไรมากไม่ได้นัก เพราะสินค้าส่วนใหญ่ที่ปรับขึ้นเป็นของที่ต้องกินต้องใช้ในชีวิตประจำวัน ขณะที่รัฐบาลเองควรมีการรณรงค์ให้คนไทยปรับตัว รองรับกับสถานการณ์ เช่น น้ำมันปาล์ม แพงและขาดตลาด ก็รณรงค์ให้หันมาปรุงอาหารนึ่ง ย่างแทน เป็นต้น
***โฟร์โมสต์จ่อขึ้นราคายูเอชที****
นายชนินทร์ อรรจนานันท์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ฟรีแลนด์ ฟู้ดส์ โฟร์โมสต์ (ประเทศไทย) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายนมพร้อมดื่มโฟร์โมสต์ กล่าวว่า หลังจากการประชุมมิลค์บอร์ด ได้พิจารณาการปรับราคาน้ำนมดิบ ตามที่คณะอนุกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นมเสนอในอัตรากก.ละ 1 บาท ซึ่งจะส่งผลให้ราคาน้ำนมดิบเพิ่มขึ้นเป็น 18 บาทต่อกก. จากปัจจุบันราคา 17 บาทต่อกก. ทำให้บริษัทต้องพิจารณาถึงต้นทุนที่ปรับเพิ่มขึ้นอีกครั้ง และมีแนวโน้มที่จะยื่นต่อกรมการค้าภายใน เพื่อขอปรับราคาสินค้า
ช่วงปลายปีที่ผ่านมา น้ำนมดิบได้ปรับเพิ่มขึ้นจาก 16.50 บาทต่อกก. เป็น 17 บาทต่อกก. บริษัทก็ได้ยื่นต่อกรมการค้าภายใน เพื่อขอปรับราคานมพร้อมดื่มโฟร์โมสต์ขึ้น แต่กรมการค้าภายในขอความร่วมมือให้ตรึงราคาสินค้ากระทั่งสิ้นเดือนมีนาคม 2554 ทั้งนี้ข้อมูลในเบื้องต้น การปรับเพิ่มราคานมดิบ ส่งผลให้ราคานมยูเอชทีและนมถุงราคาเพิ่มขึ้นจากเดิมนมยูเอชที่มีราคาที่กล่องละ 7.40 บาทเป็นราคา 7.61 บาท และนมถุงราคาราคาที่ 6.16 บาทเป็นถุงละ 6.37 บาท
***ไลอ้อน-มาม่ายันตรึงราคา***
นายบุญฤทธิ์ มหามนตรี ประธานกรรมการ บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคในเครือสหพัฒน์ กล่าวว่า ผลพวงจากวิกฤติน้ำมันปาล์มที่เกิดขึ้นขณะนี้ ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตสินค้ากลุ่มซักล้าง อาทิ ผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน และกลุ่มชำระล้าง สบู่ แชมพู ปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นสินค้าที่ต้องใช้วัตถุดิบการผลิตจากปาล์มเป็นส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตามบริษัทยังสามารถตรึงราคาสินค้าไว้กระทั่งเดือนเมษายน – พฤษภาคม
หลังจากก่อนหน้านี้กรมการค้าภายใน ขอความร่วมมือผู้ประกอบการตรึงราคาสินค้าถึงสิ้นเดือนมีนาคมนี้ ซึ่งล่าสุดพบว่า บริษัทยักษ์ใหญ่ได้ยื่นต่อกรมการค้าภายใน เพื่อขอปรับราคาสบู่แล้ว ทั้งนี้ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ประเทศไทยต้องผจญกับราคาสินค้าเกษตรที่ผกผันอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่น้ำมันปาล์ม ลากยาวมาถึงถั่วเหลือง รวมถึงราคาน้ำมันหลังจากเกิดเหตุการณ์การเมืองในตะวันออกกลาง ในแง่กำลังการซื้อของผู้บริโภครากหญ้าปีนี้ เชื่อว่าดีแน่นอน เนื่องจากราคาพืชผลการเกษตรขายได้ราคาดี ไม่ว่าจะเป็น ยางพารา อ้อย
ขณะที่มุมมองทางจิตวิทยาของผู้บริโภค เชื่อว่าราคาสินค้าที่พาเหรดปรับเพิ่มขึ้น ทั้งราคาน้ำมันปาล์ม นมพร้อมดื่ม กระทบต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคให้มีความระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย แต่ขณะเดียวกันก็ซื้อสินค้ากักตุนโดยเฉพาะน้ำมันปาล์ม เพราะกลัวว่าจะขาดแคลนหรือไม่มีใช้ แต่ในที่สุดผู้บริโภคก็จะปรับตัวได้ อย่างไรก็ตามสถานการณ์สินค้าเกษตรที่ปรับเพิ่มขึ้น ยังคงมีต่อเนื่องในอนาคต เพราะด้วยสภาพอากาศที่แปรปรวนจากการเกิดภาวะโลกร้อน ซึ่งผู้บริโภคควรปรับตัวในการดำเนินชีวิตให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
***ชี้ขึ้นราคา 1-2บ.ถือว่าสูง***
นายเพชร พะเนียงเวทย์ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด มหาชน ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรามาม่า กล่าวว่า บริษัทไม่มีแผนที่จะปรับราคาบะหมึ่กี่งสำเร็จรูปขึ้น แม้ว่าขณะนี้ต้นทุนการผลิตจากน้ำมันปาล์มปรับราคาเพิ่มขึ้น เนื่องจากไม่ต้องการซ้ำเติมผู้บริโภคในเวลานี้ ซึ่งเชื่อว่าราคาสินค้าที่ปรับเพิ่มขึ้น 1-2 บาท ถ้าเทียบราคาสินค้าที่ไม่แพงมากเช่นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจำหน่ายซองละ 6 บาท ถือว่าค่อนข้างจะสูง แต่ถ้าไปเทียบกับสินค้าที่จำหน่าย 100 บาท ขึ้นไป การปรับขึ้น 1-2 บาท คนซื้อจะไม่ค่อยรู้สึกเท่าไหร่ อย่างไรก็ตามปีนี้คาดว่า กำไรจากการดำเนินธุรกิจลดลงอย่างแน่นอน
***ฟาสต์ฟู้ด-เสื้อผ้าจ่อปรับราคา
ด้านฟาสต์ฟู้ดรายใหญ่อย่าง แมคโดนัลด์ ก็เตรียมพิจารณาที่จะปรับราคาในช่วงเดือนเมษายนนี้แล้ว เนื่องจากว่าต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ทั้งจากน้ำมันที่ใชในการทอดเพมิ่มขึ้น 10% อย่างไรก็ตามจะขึ้นเท่าไรนั้นต้องพิจารณจากหลายปัจจัยประกอบ เช่น สถานการณ์ราคาน้ำมันในช่วนงนั้ ค่าจง้าแรงงาน พฤติกรรมผู้บริโภค
นายบุญชัย คงปักไพศาล ประธานกรรมการ บริษัท แอลเอ็มอี จำกัด ผู้นำเข้าสินค้าแฟชั่นเสื้อผ้าแบรนด์เนมจากต่างประเทศ เปิดเผยว่า ขณะนี้ต้นทุนในการผลิตเสื้อผ้าโดยเฉพาะฝ้ายซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญ ได้เพิ่มขึ้นถึง 30% ส่วนโพลีเอสเตอร์ราคาปรับขึ้นอีก 10% ส่งผลให้การผลิตเสื้อผ้าในเวลานี้สูงขึ้นตามไปด้วย ซึ่งจำเป็นที่จะต้องมีการพิจารณาปรับราคาสินค้าเช่นกัน แต่ยังไม่แน่ใจว่าควรจะปรับเท่าใดและเมื่อใด
นายพรศีล บุทกัสก้า ผู้บริหารฝ่ายการตลาด ผลิตภัณฑ์ยีนส์ลีวายส์ บริษัท ดีเคเอสเอช จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯได้ตัดสินใจปรับราคายีนส์ลีวายส์ขึ้นไปแล้วประมาณ 5% เมื่อไม่นานนี้ เพราะต้นทุนการผลิตสูงขึ้น จากราคาฝ้ายที่นำมาผลิต และต้นทุนอื่นก็สูงตามทั้งค่าจ้างแรงงาน ค่าการขนส่ง เป็นต้น
นายสมชัย ถาวรรุ่งโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บรษัท ออฟฟิซ คลับ (ไทย) จำกัด กล่าวว่า เมื่อเร็วๆนี้ทางซัฟพลายเออร์ผู้ผลิตสินค้าที่เกี่ยวกับพลาสติกให้กับบริษัทฯ ได้ทำเรื่องมายังบริษัทฯเพื่อขอปรับราคาจำหน่ายสิน้คาขึ้นอย่างน้อย 5-7% เพราะไม่สามารถแบกรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯได้ขอความร่วมมือซัปพลายเออร์ให้ตรึงราคาเดิมไว้ก่อนในช่วง 6 เดือนนับจากนี้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้บริโภค
