ASTVผู้จัดการรายวัน – เอกชนยิ้ม ตลาดท่องเที่ยวฟื้น ชี้ 2 งานคอนซูเมอร์แฟร์คนไทยชอปแพกเกจทัวร์คึก ล่าสุด งานไทยเที่ยวไทย คาดเงิน สะพัด 300 ล้านบาท นายก สทน. แนะ ททท. เร่งโปรโมทเที่ยวเป็นหมู่ ด้านททท.ภูมิภาคตะวันออก เตรียมควงเอกชนลุยหาลูกค้าจากอีสานเหนือ
น.ส.มัยรัตน์ พีระญาณ์โกเศส นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) เปิดเผยว่า ผลจากการจัดงานส่งเสริมการท่องเที่ยว”เที่ยวทั่วไปไปทั่วโลก” และต่อเนื่องด้วยงาน “ไทยเที่ยวไทย” ซึ่งจัดระหว่าง 3-6 มี.ค.54 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พบว่า คนไทยให้ความสนใจ เข้ามาเลือกซื้อแพกเจทัวร์กันคึกคัก ชี้วัดได้ว่า กำลังซื้อคนไทยดีดขึ้นสูงสุดในรอบ 4ปี โดยภาวะราคาน้ำมันแพงไม่มีผลกระทบ ตอกย้ำว่าปัญหาเดียวที่มีผลคือ ความวุ่นวายทางการเมือง จึงตั้งเป้าหมายกำลังซื้อจะกลับไปอยู่ที่ ก็ 90% ของจำนวนแพกเกจทั้งหมดที่ขาย และปลายปีจะถึง 100% อย่างแน่นอน จากปีก่อนที่ตกลงมาเหลือ 60%
***แนะททท.โปรโมทเที่ยวเป็นหมู่คณะ*****
อย่างไรก็ตามสมาคมฯ ได้เสนอให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เร่งส่งเสริม สร้างกระแสให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวเป็นหมู่คณะ ในทุกรูปแบบ และการใช้บริการผ่านบริษัทนำเที่ยว เพื่อให้การท่องเที่ยวเป็นมากกว่าความสุขความสนุก แต่ยังได้ความรู้ของสถานที่ต่างๆจากมัคคุเทศก์ด้วย เริ่มต้นจากหนังโฆษณาและป้ายโฆษณาให้มีพรีเซ็นเตอร์มากกว่า 2 คน เน้นเป็นหมู่คณะนำเสนอความสนุกคึกคัก
***ผู้ประกอบการเสนอสินค้าต้องตรงจุด***
ในส่วนของผู้ประกอบการ ต้องรู้จักการจัดวางสินค้าให้เหมาะกับตลาดผู้บริโภคเป้าหมาย ซึ่งจากผลสำรวจตลาดในประเทศจะมี 5ระดับ ได้แก่ 1. ตลาดระดับซี ซื้อเพียงตั๋วเครื่องบิน 2.ตลาดซีบวก นิยมซื้อตั๋วเครื่องบิน พร้อมที่พักระดับ 3 ดาว 3.ตลาดระดับบี เริ่มมองหาคุณภาพ เลือกซื้อที่พักระดับ 4 ดาว ในราคาโปรโมชั่น 3 ดาว 4.ระดับบีบวก ไม่สนใจราคาถูก แต่ต้องเป็นราคาที่สนเหตสมผล และ5.กลุ่มพรีเมียม หรือ เอบวก ซึ่งไม่สนใจราคา แต่ขอให้เน้นด้านการบริการที่ดีที่สุด ซึ่งตลาด 3 และ 4 ใหญ่สุดมีแชร์ 60% ของผู้ซื้อแพกเกจทัวร์ และตลาดพรีเมียมสัดส่วน 15% ที่เหลือเป็นระดับ 1 และ 2 รวม 25%
***ผู้จัด”ไทยเที่ยวไทย”ยิ้มคาดเงินสะพัด 300 ลบ.*****
นายกฤตย์ พัตรปาล กรรมการผู้จัดการ บริษัท พี.เค.เอ็กซิบิชั่น แมนเนจเม้นท์ กล่าวว่า งานไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 21 คาดว่าจะมีผู้ชมงาน 400,000คน เกิดการซื้อขายในงานมากกว่า 300 ล้านบาท จากผู้ประกอบการที่มาร่วมออกบูธ 1,185 บูธ มากที่สุดเท่าที่เคยจัดงานมา โดยแต่ละรายเน้นนำเสนอแพกเกจท่องเที่ยวช่วงสงกรานต์และปิดเทอม โปรโมชันกระตุ้นได้แก่ ซื้อ 2 แถม 1 และ ลดราคา 30%
**ผอ.ภาคตะวันออกควงเอกชนลุยอีสาน****
ทางด้านนายศิลาชัย สุหร่าย ผู้อำนวยการภูมิภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทสไทย(ททท.) กล่าวว่า ปีนี้ มีแผนนำผู้ประกอบการท่องเที่ยว 40 รายไปเปิดตลาดในภาคอีสานตอนบน เพื่อขยายตลาดลูกค้าจากอีสานที่ปัจจุบันมีเพียง 2% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมดที่เดินทางเข้าภาคตะวันออก พร้อมวางแผนเชิงรุกอักโฆษณาประชาสัมพันธ์ ทั้งป้ายบิลบอร์ดหนังโฆษณาผ่านเคเบิลทีวีท้องถิ่น และสื่อท้องถิ่นทุกรูปแบบครอบคลุมพืนที่ 7 จังหวัดอีสานตอนบน และเมืองเวียงจันทร์ ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวปีนี้เป้น 12 ล้านคน จากปีก่อนทำได้ 10 ล้านคน
ล่าสุดที่งาน”ไทยเที่ยวไทย” เปิด กิจกรรม”เที่ยวเกาะใกล้กรุง” ภายใต้ โครงการสีสันตะวันออก เพราะตะวันออกมีเกาะกว่า 100 เกาะ ประเดิมจัด 5 เส้นทางเที่ยวนำร่อง เน้นกลุ่มเป้าหมายครอบครัว กระตุ้นท่องเที่ยวช่วงปิดเทอมให้คึกคัก และวางเป้าหมาย 3 เดือนแรกมียอดขาย 500 แพกเกจ
น.ส.มัยรัตน์ พีระญาณ์โกเศส นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) เปิดเผยว่า ผลจากการจัดงานส่งเสริมการท่องเที่ยว”เที่ยวทั่วไปไปทั่วโลก” และต่อเนื่องด้วยงาน “ไทยเที่ยวไทย” ซึ่งจัดระหว่าง 3-6 มี.ค.54 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พบว่า คนไทยให้ความสนใจ เข้ามาเลือกซื้อแพกเจทัวร์กันคึกคัก ชี้วัดได้ว่า กำลังซื้อคนไทยดีดขึ้นสูงสุดในรอบ 4ปี โดยภาวะราคาน้ำมันแพงไม่มีผลกระทบ ตอกย้ำว่าปัญหาเดียวที่มีผลคือ ความวุ่นวายทางการเมือง จึงตั้งเป้าหมายกำลังซื้อจะกลับไปอยู่ที่ ก็ 90% ของจำนวนแพกเกจทั้งหมดที่ขาย และปลายปีจะถึง 100% อย่างแน่นอน จากปีก่อนที่ตกลงมาเหลือ 60%
***แนะททท.โปรโมทเที่ยวเป็นหมู่คณะ*****
อย่างไรก็ตามสมาคมฯ ได้เสนอให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เร่งส่งเสริม สร้างกระแสให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวเป็นหมู่คณะ ในทุกรูปแบบ และการใช้บริการผ่านบริษัทนำเที่ยว เพื่อให้การท่องเที่ยวเป็นมากกว่าความสุขความสนุก แต่ยังได้ความรู้ของสถานที่ต่างๆจากมัคคุเทศก์ด้วย เริ่มต้นจากหนังโฆษณาและป้ายโฆษณาให้มีพรีเซ็นเตอร์มากกว่า 2 คน เน้นเป็นหมู่คณะนำเสนอความสนุกคึกคัก
***ผู้ประกอบการเสนอสินค้าต้องตรงจุด***
ในส่วนของผู้ประกอบการ ต้องรู้จักการจัดวางสินค้าให้เหมาะกับตลาดผู้บริโภคเป้าหมาย ซึ่งจากผลสำรวจตลาดในประเทศจะมี 5ระดับ ได้แก่ 1. ตลาดระดับซี ซื้อเพียงตั๋วเครื่องบิน 2.ตลาดซีบวก นิยมซื้อตั๋วเครื่องบิน พร้อมที่พักระดับ 3 ดาว 3.ตลาดระดับบี เริ่มมองหาคุณภาพ เลือกซื้อที่พักระดับ 4 ดาว ในราคาโปรโมชั่น 3 ดาว 4.ระดับบีบวก ไม่สนใจราคาถูก แต่ต้องเป็นราคาที่สนเหตสมผล และ5.กลุ่มพรีเมียม หรือ เอบวก ซึ่งไม่สนใจราคา แต่ขอให้เน้นด้านการบริการที่ดีที่สุด ซึ่งตลาด 3 และ 4 ใหญ่สุดมีแชร์ 60% ของผู้ซื้อแพกเกจทัวร์ และตลาดพรีเมียมสัดส่วน 15% ที่เหลือเป็นระดับ 1 และ 2 รวม 25%
***ผู้จัด”ไทยเที่ยวไทย”ยิ้มคาดเงินสะพัด 300 ลบ.*****
นายกฤตย์ พัตรปาล กรรมการผู้จัดการ บริษัท พี.เค.เอ็กซิบิชั่น แมนเนจเม้นท์ กล่าวว่า งานไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 21 คาดว่าจะมีผู้ชมงาน 400,000คน เกิดการซื้อขายในงานมากกว่า 300 ล้านบาท จากผู้ประกอบการที่มาร่วมออกบูธ 1,185 บูธ มากที่สุดเท่าที่เคยจัดงานมา โดยแต่ละรายเน้นนำเสนอแพกเกจท่องเที่ยวช่วงสงกรานต์และปิดเทอม โปรโมชันกระตุ้นได้แก่ ซื้อ 2 แถม 1 และ ลดราคา 30%
**ผอ.ภาคตะวันออกควงเอกชนลุยอีสาน****
ทางด้านนายศิลาชัย สุหร่าย ผู้อำนวยการภูมิภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทสไทย(ททท.) กล่าวว่า ปีนี้ มีแผนนำผู้ประกอบการท่องเที่ยว 40 รายไปเปิดตลาดในภาคอีสานตอนบน เพื่อขยายตลาดลูกค้าจากอีสานที่ปัจจุบันมีเพียง 2% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมดที่เดินทางเข้าภาคตะวันออก พร้อมวางแผนเชิงรุกอักโฆษณาประชาสัมพันธ์ ทั้งป้ายบิลบอร์ดหนังโฆษณาผ่านเคเบิลทีวีท้องถิ่น และสื่อท้องถิ่นทุกรูปแบบครอบคลุมพืนที่ 7 จังหวัดอีสานตอนบน และเมืองเวียงจันทร์ ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวปีนี้เป้น 12 ล้านคน จากปีก่อนทำได้ 10 ล้านคน
ล่าสุดที่งาน”ไทยเที่ยวไทย” เปิด กิจกรรม”เที่ยวเกาะใกล้กรุง” ภายใต้ โครงการสีสันตะวันออก เพราะตะวันออกมีเกาะกว่า 100 เกาะ ประเดิมจัด 5 เส้นทางเที่ยวนำร่อง เน้นกลุ่มเป้าหมายครอบครัว กระตุ้นท่องเที่ยวช่วงปิดเทอมให้คึกคัก และวางเป้าหมาย 3 เดือนแรกมียอดขาย 500 แพกเกจ