ASTVผู้จัดการรายวัน – สมาคมส่งเสริมท่องเที่ยวไทย-ญี่ปุ่น แนะ ททท.เร่งประชาสัมพันธ์ สร้างภาพให้เป็นข่าวประเทศไทยในญี่ปุ่น แนะให้เป็นสปอนเซอร์รายการ 1 ล้านเยน ชิงรางวัลเงินสดเป็นพ็อกเก็ตมันนี่สำหรับผู้จองทัวร์มาเที่ยวประเทศไทย ย้ำยิ่งแคมเปญแรงเชื่อปีนี้ตลาดโตก้าวกระโดดแตะ 1.4 ล้านคน เพิ่มจากปีก่อนที่ได้เพียง 9.8 แสนคนติดลบ 1.9%
นายเอนก ศรีชีวะชาติ ประธานสมาคมส่งเสริมท่องเที่ยวไทย-ญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ได้ส่งหนังสือถึงการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เสนอแนวทางการกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น โดยมี 3 ประเด็น ได้แก่ 1.ให้เร่งดำเนินการโฆษณาประชาสัมพันธ์ในประเทศญี่ปุ่น หลังจากที่ห่างหายไปในช่วงเมืองไทยเกิดวิกฤติ โดยเริ่มจากสื่อที่มีผู้พบเห็นมากแต่ใช้ทุนน้อย เช่น
การโฆษณาบนรถไฟรอบเมืองทั้งด้านนอกและด้านในตัวรถ 2. ใช้กลยุทธ์สปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง เชิญนักกีฬา เช่น กอล์ฟ มาจัดแข่งขันในประเทศไทย พร้อมเชิญสื่อมาร่วมทำข่าว เพื่อให้เกิดการเดินทางของผู้สนใจกีฬากอล์ฟ และ กลุ่มแฟนคลับ และ 3. ร่วมเป็นผู้สนับสนุนรางวัลในรายการ 1 ล้านเยน ซึ่งออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ญี่ปุ่น โดยสร้างเป็นเงื่อนไขว่าชาวญี่ปุ่นที่เดินทางเข้ามาประเทศไทย เป็นคนที่ 5 แสน หรือ คนที่ 1 ล้าน จะได้รับรางวัลเงินสด 1 ล้านเยน หรือราว 3 แสนบาท
“ในญี่ปุ่นจะมีรายการ 1 ล้านเยน ซึ่งมีฐานผู้ชมจำนวนมาก ซึ่งผู้สนับสนุนจะเป็นผู้จ่ายเงินรางวัล 1 ล้านเยน จึงมองว่า หาก ททท.ไปร่วมสนับสนุนในรายการนี้ เพราะตั้งเงื่อนไขให้ผู้ร่วมสนุก ว่าหากเดินทางมาประเทสไทย เป็นคนที่ 5 แสน หรือ คนที่ 1 ล้าน จะได้รับรางวัลเงินสดนี้ไป มั่นใจว่าจะช่วยสร้างกระแส ให้เป็นข่าวได้ว่าไทยมีรางวัลกระตุ้นให้น่าสนใจ
ทำให้ชาวญี่ปุ่นเริ่มสนใจที่จะเดินทางมาเที่ยวประเทศไทย เพราะที่ผ่านมาเราโฆษณาน้อยมาก อาจทำให้ชาวญี่ปุ่นเริ่มลืมไปบ้างแล้ว “
อย่างไรก็ตามเบื้องต้น นายสรรเสริญ เงารังษี รองผู้ว่าการ ด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ ททท. ได้พิจารณาและรับในหลักการ ที่ ททท.จะช่วยสนับสนุน ซึ่งสิ่งที่น่าจะดำเนินการได้ทันที คือ การโฆษณาบนรถไฟรอบเมืองโตเกียว และ สปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง ส่วนข้อเสนอเรื่องผู้สนับสนุนรางวัล จะขอรับไปศึกษา เพราะมองว่าในกระบวนการปฎิบัติอาจทำได้ยาก ซึ่ง ทางสมาคมได้เสนอว่า
ควรตั้งเป็นคณะอนุกรรมการศึกษารูปแบบโครงการ พร้อมหารือกับสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ในการนับว่าชาวญี่ปุ่นคนไหนที่เป็นนักท่องเที่ยวคนที่ 5 แสน หรือ คนที่ 1 ล้านที่มาประเทศไทย
นายเอนก กล่าวว่า แม้ขณะนี้สถานการณ์การเมืองของไทยสงบเรียบร้อย แต่ก็ต้องดำเนินการเรียกความเชื่อมั่นในสายตาชาวต่างประเทศให้กลับคืนมา โดยต้องทำควบคู่ไปกับการจัดแคมเปญกระตุ้นให้เกิดการซื้อแพกเกจ หรือการเดินทางมาเที่ยวเองแบบFIT จะทำให้เห็นผลไว้กว่า จะปล่อยให้ตลาดฟื้นด้วยตัวเองเพียงอย่างเดียว ซึ่งหากมีแคมเปญกระตุ้นที่น่าสนใจ มั่นใจว่าปีนี้
ตลาดญี่ปุ่น สามารถทำได้ถึง 1.4 ล้านคน แต่หากไม่ดำเนินการใดๆคาดว่าปีนี้ตลาดญี่ปุ่นจะเดินทางมาไทยราว 1.2 ล้านคน เพิ่มจากปี 2553 ซึ่งทำได้ 9.85 แสนล้านคน ลดลงจากปี 2552 ราว 1.96%
ล่าสุดอยู่ระหว่างการเจรจากับการบินไทย เพื่อขอให้มีการเพิ่มเที่ยวบิน หรือ เปลี่ยนขนาดเครื่องบินใหญ่ใหญ่ขึ้น เป็นเครื่องจัมโบ้กว่า 300 ที่นั่ง จากปัจบันใช้โบอิ้ง 777 มีเพียง กว่า 200 ที่นั่ง ซึ่งไม่เพียงพอในช่วงเทศกาลท่องเที่ยวซึ่งเป็นวันหยุดยาวของชาวญี่ปุ่น หรือโกลเด้นวีค ช่วงเดือน พ.ค. ส.ค. พ.ย.และ ธ.ค. ของทุกปี
สำหรับปีนี้ ผู้ประกอบการเตรียมโปรโมทเดสตินัช่นใหม่ๆ ให้กับตลาดญี่ปุ่น เช่น กระบี่ เกาะช้าว เกาะกูด รวมถึงเทศกาลผลไม้ภาคตะวันออกของไทย สร้างจุดขายให้ชาวญี่ปุ่นสนใจ
นายเอนก ศรีชีวะชาติ ประธานสมาคมส่งเสริมท่องเที่ยวไทย-ญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ได้ส่งหนังสือถึงการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เสนอแนวทางการกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น โดยมี 3 ประเด็น ได้แก่ 1.ให้เร่งดำเนินการโฆษณาประชาสัมพันธ์ในประเทศญี่ปุ่น หลังจากที่ห่างหายไปในช่วงเมืองไทยเกิดวิกฤติ โดยเริ่มจากสื่อที่มีผู้พบเห็นมากแต่ใช้ทุนน้อย เช่น
การโฆษณาบนรถไฟรอบเมืองทั้งด้านนอกและด้านในตัวรถ 2. ใช้กลยุทธ์สปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง เชิญนักกีฬา เช่น กอล์ฟ มาจัดแข่งขันในประเทศไทย พร้อมเชิญสื่อมาร่วมทำข่าว เพื่อให้เกิดการเดินทางของผู้สนใจกีฬากอล์ฟ และ กลุ่มแฟนคลับ และ 3. ร่วมเป็นผู้สนับสนุนรางวัลในรายการ 1 ล้านเยน ซึ่งออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ญี่ปุ่น โดยสร้างเป็นเงื่อนไขว่าชาวญี่ปุ่นที่เดินทางเข้ามาประเทศไทย เป็นคนที่ 5 แสน หรือ คนที่ 1 ล้าน จะได้รับรางวัลเงินสด 1 ล้านเยน หรือราว 3 แสนบาท
“ในญี่ปุ่นจะมีรายการ 1 ล้านเยน ซึ่งมีฐานผู้ชมจำนวนมาก ซึ่งผู้สนับสนุนจะเป็นผู้จ่ายเงินรางวัล 1 ล้านเยน จึงมองว่า หาก ททท.ไปร่วมสนับสนุนในรายการนี้ เพราะตั้งเงื่อนไขให้ผู้ร่วมสนุก ว่าหากเดินทางมาประเทสไทย เป็นคนที่ 5 แสน หรือ คนที่ 1 ล้าน จะได้รับรางวัลเงินสดนี้ไป มั่นใจว่าจะช่วยสร้างกระแส ให้เป็นข่าวได้ว่าไทยมีรางวัลกระตุ้นให้น่าสนใจ
ทำให้ชาวญี่ปุ่นเริ่มสนใจที่จะเดินทางมาเที่ยวประเทศไทย เพราะที่ผ่านมาเราโฆษณาน้อยมาก อาจทำให้ชาวญี่ปุ่นเริ่มลืมไปบ้างแล้ว “
อย่างไรก็ตามเบื้องต้น นายสรรเสริญ เงารังษี รองผู้ว่าการ ด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ ททท. ได้พิจารณาและรับในหลักการ ที่ ททท.จะช่วยสนับสนุน ซึ่งสิ่งที่น่าจะดำเนินการได้ทันที คือ การโฆษณาบนรถไฟรอบเมืองโตเกียว และ สปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง ส่วนข้อเสนอเรื่องผู้สนับสนุนรางวัล จะขอรับไปศึกษา เพราะมองว่าในกระบวนการปฎิบัติอาจทำได้ยาก ซึ่ง ทางสมาคมได้เสนอว่า
ควรตั้งเป็นคณะอนุกรรมการศึกษารูปแบบโครงการ พร้อมหารือกับสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ในการนับว่าชาวญี่ปุ่นคนไหนที่เป็นนักท่องเที่ยวคนที่ 5 แสน หรือ คนที่ 1 ล้านที่มาประเทศไทย
นายเอนก กล่าวว่า แม้ขณะนี้สถานการณ์การเมืองของไทยสงบเรียบร้อย แต่ก็ต้องดำเนินการเรียกความเชื่อมั่นในสายตาชาวต่างประเทศให้กลับคืนมา โดยต้องทำควบคู่ไปกับการจัดแคมเปญกระตุ้นให้เกิดการซื้อแพกเกจ หรือการเดินทางมาเที่ยวเองแบบFIT จะทำให้เห็นผลไว้กว่า จะปล่อยให้ตลาดฟื้นด้วยตัวเองเพียงอย่างเดียว ซึ่งหากมีแคมเปญกระตุ้นที่น่าสนใจ มั่นใจว่าปีนี้
ตลาดญี่ปุ่น สามารถทำได้ถึง 1.4 ล้านคน แต่หากไม่ดำเนินการใดๆคาดว่าปีนี้ตลาดญี่ปุ่นจะเดินทางมาไทยราว 1.2 ล้านคน เพิ่มจากปี 2553 ซึ่งทำได้ 9.85 แสนล้านคน ลดลงจากปี 2552 ราว 1.96%
ล่าสุดอยู่ระหว่างการเจรจากับการบินไทย เพื่อขอให้มีการเพิ่มเที่ยวบิน หรือ เปลี่ยนขนาดเครื่องบินใหญ่ใหญ่ขึ้น เป็นเครื่องจัมโบ้กว่า 300 ที่นั่ง จากปัจบันใช้โบอิ้ง 777 มีเพียง กว่า 200 ที่นั่ง ซึ่งไม่เพียงพอในช่วงเทศกาลท่องเที่ยวซึ่งเป็นวันหยุดยาวของชาวญี่ปุ่น หรือโกลเด้นวีค ช่วงเดือน พ.ค. ส.ค. พ.ย.และ ธ.ค. ของทุกปี
สำหรับปีนี้ ผู้ประกอบการเตรียมโปรโมทเดสตินัช่นใหม่ๆ ให้กับตลาดญี่ปุ่น เช่น กระบี่ เกาะช้าว เกาะกูด รวมถึงเทศกาลผลไม้ภาคตะวันออกของไทย สร้างจุดขายให้ชาวญี่ปุ่นสนใจ