วานนี้(28 ก.พ.) นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์เปิดตัวแคมเปญ “เราจะเดินหน้าต่อไปด้วยนโยบายเพื่อประชาชน” ว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้มอบหมายให้ ส.ส.ทั่วประเทศ เดินหน้ารณรงค์ติดป้ายหาเสียง ใน 4 ชุดเชื่อว่านโยบายชุดนี้จะเป็นจุดแรกที่ประชาชนจะรับทราบถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยนายกฯในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์จะทยอยลงพื้นที่ทั่วประเทศ นอกจากนี้พรรคจะจัดสปอร์ตเพื่อสื่อสารโดยตรงในวันที่ 1 มี.ค.นี้ และพรรคจะทยอยขยายแนวนโยบายทั้งในเรื่องการสร้างหลักประกันความมั่นคงให้แก่คนในช่วงของชีวิตและขยายไปสู่ของขวัญ มาตรการ 9 ชิ้นที่ได้ดำเนินการตั้งแต่เดือน ม.ค. ที่ผ่านมา ควบคู่กับการสร้างเศรษฐกิจที่เข้มแข็งถาวร
เชื่อว่า จะเป็นการเลือกผู้นำระหว่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กับนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ เชื่อว่าปัจจัยที่จะส่งผลต่อการตัดสินใจคือต้องดูในเรื่องของประสบการณ์ในอดีตที่ผ่านมา โดยของนายอภิสิทธิ์คือประสบการณ์ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ระหว่างปี 2552-2553 ส่วนของนายมิ่งขวัญ ต้องดูระหว่างปี 2550 - 2551 คือช่วงที่นายมิ่งขวัญเป็นรัฐมนตรี
“เชื่อว่าไม่ว่าประชาชนจะเลือกนายอภิสิทธิ์ หรือนายมิ่งขวัญ ในระบบบัญชีรายชื่อจะส่งผลไปถึงผู้สมัครของพรรคในระบบเขตเลือกตั้งด้วย”
**พท.พร้อมเปิดตัว ส.ส.300 คน
ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในวันที่1มี.คนี้.เวลา09.00น.พรรคจะเปิดตัวและสัมมนาผู้สมัครส.สระบบเขต300คน ทั้งปัจจุบันและหน้าใหม่แบบดี เด่น ดัง รวมทั้งจะเปิดตัวคนในพรรคประชาธิปัตย์ที่ย้ายมาจะลงในภาคเหนือ ขณะที่จะมี “หม่อมหลวง”ลงสมัครในเขตกทม. รวมทั้งส.ส.ในเขตภาคตะวันออกด้วย
ทั้งนี้ พรรคตั้งเป้าว่าจะได้ส.ส.ไม่ต่ำกว่า250คน โดยแบ่งเป็นส.ส.บัญชีรายชื่อ70คน ส.ส.เขต180คน ส่วนส.ส.บัญชีรายชื่อยังไม่ขอเปิดรายชื่อ ซึ่งขณะนี้จัดลำดับเสร็จแล้วร้อยละ60 ขณะที่แกนนำคนเสื้อแดงบางคนที่ลงสมัครส.ส.ในนามพรรคพลังประชาชนมาแล้วก็ถือเป็นอดีตผู้สมัครของพรรค และยังเตรียมลงพื้นที่ปราศรัยใหญ่ใน4ภาคทั่วประเทศในช่วงหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ส่วนนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ ตนมองดูแล้วตัวเลข25ที่นำมาใช้ได้รับข้อมูลว่า ตัวเลขนี้จะได้ตามที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคตั้งเป้าว่าต้องได้ส.ส.250คนหรือไม่ เป็นที่น่าแปลกซึ่งพรรคการเมืองบริหารงานในยุคนี้ ทำไมไปเชื่อเรื่องดวง เพราะซินแสที่คนใกล้ตัวนายกฯนำมาและมันไม่ใช่นโยบายใหม่เลยพรรคประชาธิปัตย์คิดช้าไป2ปี ไม่รู้ไปมุดอยู่ที่ใด ไม่ใช่ไปเชื่อไสยศาสตร์ให้ประสบความสำเร็จ และมีคนนินทาว่ามันสอดคลองกับการชักเปอร์เซ็นต์ร้อยละ25ของรัฐบาลนี้
นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า นโยบายใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์ที่เปิดมานั้น เป็นการลอกนโยบายของพรรคเพื่อไทยแทบทั้งสิ้น
**จับผิดปชป.ใช้อำนาจรัฐขายโต๊ะ
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงแนวคิดหาเงินวีไอพี 3,000ล้านบาทของพรรคประชาธิปัตย์ไว้ใช้ในการเลือกตั้งว่า ที่ปชป.เสนอว่าการหาเงินครั้งนี้ ผู้ที่สนใจจะสนับสนุนสามารถผ่อนชำระเดือนละ2หมื่นบาทได้นั้น มันถูกต้องหรือไม่ มันไม่ใช่การผ่อนบุญและไม่เคยเห็นมาก่อน ปชป.เป็นรัฐบาลที่ได้รับเงินสนับสนุนพรรคการเมือง ของกกต.อันดับ1 ขอสังคมควรพิจารณาและติดตามว่า คนที่บริจาคนั้นเป็นใคร และคนที่จะไปร่วมบริจาคเงินตามแนวคิดใหม่ของพรรคประชิปัตย์นั้นควรดูด้วยว่า หากยื่นเรื่องแสดงเจตนาที่จะบริจาคแล้ว หากวันหนึ่งไม่มีเงินจ่ายจะโดนทวงหนี้หรือไม่
ด้านนายวิม รุ่งวัฒนะจินดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์จะระดมทุนหลายร้อยล้านบาทโดยจัดโต๊ะจีน ขอให้กกต.ตรวจสอบว่าทำได้หรือไม่ เพราะนักการเมืองพรรคประชาธิปัตย์และรัฐมนตรีบางคนในรัฐบาลนี้ไปขอให้เอกชนช่วยซื้อโต๊ะจีนหลายสิบโต๊ะ ราคาโต๊ละ1แสนบาท การทำแบบนี้ขัดต่อกฎหมายหรือไม่
**ปูดปชป.ก๊อปปี้ เตือนให้คิดรอบคอบ
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมช. คลัง คณะทำงานเศรษฐกิจพรรถเพื่อไทย กล่าวว่า คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่นายกได้ลงพื้นที่เสนอนโยบายหาเสียงดีกว่าการใช้สำนวนโวหารหาเสียงอย่างเดียว
แม้ว่า นโยบายดังกล่าวเช่น การขึ้นแรงงานขั้นต่ำและเพิ่มรายได้ให้ประชาชน จะเป็นการลอกเลียนแบบพรรคเพื่อไทย ที่ได้เสนอนโยบายนี้เมื่อ 7 เดือนที่แล้ว คือ แรงงานขั้นต่ำ 300 บาท ยกระดับสินค้าเกษตรทุกชนิดเช่น ข้างเปลือกที่ 15,000 บาท และ จบปริญญาตรีที่ 15,000 บาท ซึ่งก่อนหน้านี้ รัฐบาลก็ได้นำนโยบายของพรรคพลังประชาชนไปใช้เช่น นโยบาย 6 มตราการ 6 เดือน ที่น้ำฟรี ไฟฟ้าฟรี รถไฟฟรี รถเมล์ฟรี แม้กระทั่งส่วนใหญ่ในประชาวิวัฒน์ ก็เป็นสี่งที่เราทำเมื่อ 8 ปีที่แล้ว
อยากให้รัฐบาลได้พัฒนาวิสัยทัศน์มองให้เห็นว่าอะไรจะเกิดขึ้นและคิดล่วงหน้า และคิดให้รอบครอบเหมือนพรรคเพื่อไทย ไม่ใช่รอให้ปัญหาเกิดแล้วถึงจะมาคิด และการที่นายกอร์ปศักดิ์ออกมาบอกว่าพรรคประชาธิปัติ์ไม่ได้มีนโยบายที่จะควบคุมราคาสินค้า และไม่มีนโยบายนำเงินของหลวงไปอุดหนุนสินค้านั้น ก็อยากให้ได้มองตัวเองและตอบคำถามว่าปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนราคาน้ำมันปาล์มที่ลิตร 9.50 บาท การสนับสนุนราคาดีเซล และการสนันสนุนราคาแก็สแอลพีจี นั้นเป็นการนำเงินหลวงมาอุดหนุนสินค้าหรือไม่ อย่าได้พูดอย่างทำอย่าง
**ภท.ชี้ปชป.เปิดนโยบาย แค่การตลาด
นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้นำเสนอนโยบายเป็นเรื่องที่น่าสนใจ เพราะการเลือกตั้งก่อนหน้านี้สิ่งที่ปรากฏคือประชาชนยังไม่ลงคะแนนให้พรรคประชาธิปัตย์จนเป็นพรรคอันดับหนึ่งซึ่งอันเกิดจากประชาชนไม่เชื่อมั่นในนโยบายแต่ครั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลมาสองปีกว่าพิสูจน์ให้เห็นฝีมือ เพราะฉะนั้นเมื่อเสนอนโยบายออกไปก็เป็นประเด็นที่น่าสนใจ สำหรับพรรคภูมิใจไทยอีกสักระยะคงจะมีการเสนอนโยบาย แต่บางเรื่องอาจทับซ้อนกับผลงานของรัฐบาลที่ต่อเนื่องกันอยู่จากรัฐบาลชุดปัจจุบัน
**แขวะเทือกรอนั่งผอ.ทีวีสีฟ้า
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่ากรณีที่นายสุเทพจะดำเนินการตั้งทีวีสีฟ้าว่า เรื่องนี้มันสุ่มเสี่ยงในการทำผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 และไม่เหมาะสมในฐานะรัฐบาล เพราะรัฐบาลมีสื่อของรัฐมากกว่า 500 คลื่น ฉะนั้นหากนายสุเทพจะดำเนินการเรื่องนี้จริง ขอถามว่าผอ.สถานีจะมีชื่อของนายสุเทพอยู่ในนั้นหรือไม่
นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.ไอซีที กล่าวว่า โครงการนี้เป็นเรื่องอนาคตที่ยังไม่เกิด ขึ้นอยู่กับหัวหน้าพรรคซึ่งตนไม่ได้เป็นผู้รับผิดชอบ ถึงแม้ว่าทางโทรทัศน์ของช่องดังกล่าวจะเกิดขึ้นจริงก็ตาม ตนก็ไม่ทราบว่าจะอยู่ในความควบคุมดูแลของใคร จะต้องรอให้เกิดขึ้นก่อน
**มาตุภูมิเปิดผู้สมัครใต้
พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ พร้อมด้วย นายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ ส.ส.แบบสัดส่วนของพรรคมาตุภูมิ และคณะเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 757 หมู่ 4 ต.คลองขุด อ.เมือง จ.สตูล ของ นายวิภัชภณ สุธากุล รอง ผอ.สพป.สตูล ในโอกาสขึ้นบ้านใหม่ พร้อมเปิดตัวนายวิภัชภณ เป็นผู้สมัครของพรรคมาตุภูมิ จ.สตูล เขต 2 และนายซอลีฮีน อิสมาแอล ส.ท.เมืองสตูล ผู้สมัคร ส.ส.สตูล เขต 1 พรรคมาตุภูมิ โดยมีผู้ให้การสนับสนุนเข้าร่วมงานประมาณ 300 คน
เชื่อว่า จะเป็นการเลือกผู้นำระหว่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กับนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ เชื่อว่าปัจจัยที่จะส่งผลต่อการตัดสินใจคือต้องดูในเรื่องของประสบการณ์ในอดีตที่ผ่านมา โดยของนายอภิสิทธิ์คือประสบการณ์ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ระหว่างปี 2552-2553 ส่วนของนายมิ่งขวัญ ต้องดูระหว่างปี 2550 - 2551 คือช่วงที่นายมิ่งขวัญเป็นรัฐมนตรี
“เชื่อว่าไม่ว่าประชาชนจะเลือกนายอภิสิทธิ์ หรือนายมิ่งขวัญ ในระบบบัญชีรายชื่อจะส่งผลไปถึงผู้สมัครของพรรคในระบบเขตเลือกตั้งด้วย”
**พท.พร้อมเปิดตัว ส.ส.300 คน
ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในวันที่1มี.คนี้.เวลา09.00น.พรรคจะเปิดตัวและสัมมนาผู้สมัครส.สระบบเขต300คน ทั้งปัจจุบันและหน้าใหม่แบบดี เด่น ดัง รวมทั้งจะเปิดตัวคนในพรรคประชาธิปัตย์ที่ย้ายมาจะลงในภาคเหนือ ขณะที่จะมี “หม่อมหลวง”ลงสมัครในเขตกทม. รวมทั้งส.ส.ในเขตภาคตะวันออกด้วย
ทั้งนี้ พรรคตั้งเป้าว่าจะได้ส.ส.ไม่ต่ำกว่า250คน โดยแบ่งเป็นส.ส.บัญชีรายชื่อ70คน ส.ส.เขต180คน ส่วนส.ส.บัญชีรายชื่อยังไม่ขอเปิดรายชื่อ ซึ่งขณะนี้จัดลำดับเสร็จแล้วร้อยละ60 ขณะที่แกนนำคนเสื้อแดงบางคนที่ลงสมัครส.ส.ในนามพรรคพลังประชาชนมาแล้วก็ถือเป็นอดีตผู้สมัครของพรรค และยังเตรียมลงพื้นที่ปราศรัยใหญ่ใน4ภาคทั่วประเทศในช่วงหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ส่วนนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ ตนมองดูแล้วตัวเลข25ที่นำมาใช้ได้รับข้อมูลว่า ตัวเลขนี้จะได้ตามที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคตั้งเป้าว่าต้องได้ส.ส.250คนหรือไม่ เป็นที่น่าแปลกซึ่งพรรคการเมืองบริหารงานในยุคนี้ ทำไมไปเชื่อเรื่องดวง เพราะซินแสที่คนใกล้ตัวนายกฯนำมาและมันไม่ใช่นโยบายใหม่เลยพรรคประชาธิปัตย์คิดช้าไป2ปี ไม่รู้ไปมุดอยู่ที่ใด ไม่ใช่ไปเชื่อไสยศาสตร์ให้ประสบความสำเร็จ และมีคนนินทาว่ามันสอดคลองกับการชักเปอร์เซ็นต์ร้อยละ25ของรัฐบาลนี้
นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า นโยบายใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์ที่เปิดมานั้น เป็นการลอกนโยบายของพรรคเพื่อไทยแทบทั้งสิ้น
**จับผิดปชป.ใช้อำนาจรัฐขายโต๊ะ
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงแนวคิดหาเงินวีไอพี 3,000ล้านบาทของพรรคประชาธิปัตย์ไว้ใช้ในการเลือกตั้งว่า ที่ปชป.เสนอว่าการหาเงินครั้งนี้ ผู้ที่สนใจจะสนับสนุนสามารถผ่อนชำระเดือนละ2หมื่นบาทได้นั้น มันถูกต้องหรือไม่ มันไม่ใช่การผ่อนบุญและไม่เคยเห็นมาก่อน ปชป.เป็นรัฐบาลที่ได้รับเงินสนับสนุนพรรคการเมือง ของกกต.อันดับ1 ขอสังคมควรพิจารณาและติดตามว่า คนที่บริจาคนั้นเป็นใคร และคนที่จะไปร่วมบริจาคเงินตามแนวคิดใหม่ของพรรคประชิปัตย์นั้นควรดูด้วยว่า หากยื่นเรื่องแสดงเจตนาที่จะบริจาคแล้ว หากวันหนึ่งไม่มีเงินจ่ายจะโดนทวงหนี้หรือไม่
ด้านนายวิม รุ่งวัฒนะจินดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์จะระดมทุนหลายร้อยล้านบาทโดยจัดโต๊ะจีน ขอให้กกต.ตรวจสอบว่าทำได้หรือไม่ เพราะนักการเมืองพรรคประชาธิปัตย์และรัฐมนตรีบางคนในรัฐบาลนี้ไปขอให้เอกชนช่วยซื้อโต๊ะจีนหลายสิบโต๊ะ ราคาโต๊ละ1แสนบาท การทำแบบนี้ขัดต่อกฎหมายหรือไม่
**ปูดปชป.ก๊อปปี้ เตือนให้คิดรอบคอบ
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมช. คลัง คณะทำงานเศรษฐกิจพรรถเพื่อไทย กล่าวว่า คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่นายกได้ลงพื้นที่เสนอนโยบายหาเสียงดีกว่าการใช้สำนวนโวหารหาเสียงอย่างเดียว
แม้ว่า นโยบายดังกล่าวเช่น การขึ้นแรงงานขั้นต่ำและเพิ่มรายได้ให้ประชาชน จะเป็นการลอกเลียนแบบพรรคเพื่อไทย ที่ได้เสนอนโยบายนี้เมื่อ 7 เดือนที่แล้ว คือ แรงงานขั้นต่ำ 300 บาท ยกระดับสินค้าเกษตรทุกชนิดเช่น ข้างเปลือกที่ 15,000 บาท และ จบปริญญาตรีที่ 15,000 บาท ซึ่งก่อนหน้านี้ รัฐบาลก็ได้นำนโยบายของพรรคพลังประชาชนไปใช้เช่น นโยบาย 6 มตราการ 6 เดือน ที่น้ำฟรี ไฟฟ้าฟรี รถไฟฟรี รถเมล์ฟรี แม้กระทั่งส่วนใหญ่ในประชาวิวัฒน์ ก็เป็นสี่งที่เราทำเมื่อ 8 ปีที่แล้ว
อยากให้รัฐบาลได้พัฒนาวิสัยทัศน์มองให้เห็นว่าอะไรจะเกิดขึ้นและคิดล่วงหน้า และคิดให้รอบครอบเหมือนพรรคเพื่อไทย ไม่ใช่รอให้ปัญหาเกิดแล้วถึงจะมาคิด และการที่นายกอร์ปศักดิ์ออกมาบอกว่าพรรคประชาธิปัติ์ไม่ได้มีนโยบายที่จะควบคุมราคาสินค้า และไม่มีนโยบายนำเงินของหลวงไปอุดหนุนสินค้านั้น ก็อยากให้ได้มองตัวเองและตอบคำถามว่าปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนราคาน้ำมันปาล์มที่ลิตร 9.50 บาท การสนับสนุนราคาดีเซล และการสนันสนุนราคาแก็สแอลพีจี นั้นเป็นการนำเงินหลวงมาอุดหนุนสินค้าหรือไม่ อย่าได้พูดอย่างทำอย่าง
**ภท.ชี้ปชป.เปิดนโยบาย แค่การตลาด
นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้นำเสนอนโยบายเป็นเรื่องที่น่าสนใจ เพราะการเลือกตั้งก่อนหน้านี้สิ่งที่ปรากฏคือประชาชนยังไม่ลงคะแนนให้พรรคประชาธิปัตย์จนเป็นพรรคอันดับหนึ่งซึ่งอันเกิดจากประชาชนไม่เชื่อมั่นในนโยบายแต่ครั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลมาสองปีกว่าพิสูจน์ให้เห็นฝีมือ เพราะฉะนั้นเมื่อเสนอนโยบายออกไปก็เป็นประเด็นที่น่าสนใจ สำหรับพรรคภูมิใจไทยอีกสักระยะคงจะมีการเสนอนโยบาย แต่บางเรื่องอาจทับซ้อนกับผลงานของรัฐบาลที่ต่อเนื่องกันอยู่จากรัฐบาลชุดปัจจุบัน
**แขวะเทือกรอนั่งผอ.ทีวีสีฟ้า
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่ากรณีที่นายสุเทพจะดำเนินการตั้งทีวีสีฟ้าว่า เรื่องนี้มันสุ่มเสี่ยงในการทำผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 และไม่เหมาะสมในฐานะรัฐบาล เพราะรัฐบาลมีสื่อของรัฐมากกว่า 500 คลื่น ฉะนั้นหากนายสุเทพจะดำเนินการเรื่องนี้จริง ขอถามว่าผอ.สถานีจะมีชื่อของนายสุเทพอยู่ในนั้นหรือไม่
นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.ไอซีที กล่าวว่า โครงการนี้เป็นเรื่องอนาคตที่ยังไม่เกิด ขึ้นอยู่กับหัวหน้าพรรคซึ่งตนไม่ได้เป็นผู้รับผิดชอบ ถึงแม้ว่าทางโทรทัศน์ของช่องดังกล่าวจะเกิดขึ้นจริงก็ตาม ตนก็ไม่ทราบว่าจะอยู่ในความควบคุมดูแลของใคร จะต้องรอให้เกิดขึ้นก่อน
**มาตุภูมิเปิดผู้สมัครใต้
พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ พร้อมด้วย นายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ ส.ส.แบบสัดส่วนของพรรคมาตุภูมิ และคณะเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 757 หมู่ 4 ต.คลองขุด อ.เมือง จ.สตูล ของ นายวิภัชภณ สุธากุล รอง ผอ.สพป.สตูล ในโอกาสขึ้นบ้านใหม่ พร้อมเปิดตัวนายวิภัชภณ เป็นผู้สมัครของพรรคมาตุภูมิ จ.สตูล เขต 2 และนายซอลีฮีน อิสมาแอล ส.ท.เมืองสตูล ผู้สมัคร ส.ส.สตูล เขต 1 พรรคมาตุภูมิ โดยมีผู้ให้การสนับสนุนเข้าร่วมงานประมาณ 300 คน