ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวที่ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ส่งสัญญาณมาขอให้ตนร่วมมือกับนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ส.ส.สัดส่วน ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า ตนคิดว่าไม่ได้มีการส่งสัญญาณใดๆ ทั้งนั้น แต่ก่อนหน้านี้ นายมิ่งขวัญ ในฐานะผู้นำในการอภิปราย ออกมาระบุว่า การอภิปรายจะมีแนวทางแบบสมานฉันท์และมีการแถลงถึงนโยบายของพรรคเพื่อไทยร่วมไปด้วย ตนจึงคิดว่าการอภิปรายในแนวทางนี้ ไม่ใช่แนวทางของตน จึงตัดสินใจไม่ร่วมอภิปรายด้วย
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ที่ประชุมพรรคเพื่อไทย ได้มีมติที่จะใช้แนวทางของตนในการอภิปราย คือต้องดุเดือด เข้มข้น ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นตนก็อยากที่จะร่วมการอภิปรายด้วย แต่ทั้งนี้ ตนจะต้องรอดูรายชื่อรัฐมนตรีที่นายมิ่งขวัญ กำหนดว่าจะอภิปรายบุคคลใดบ้าง ถ้าตนมีข้อมูลของบุคคลนั้นๆ ก็พร้อมที่จะเข้าร่วมการอภิปรายด้วย ซึ่งการอภิปรายในครั้งนี้นายมิ่งขวัญ จะต้องเป็นผู้เปิดการอภิปราย และเป็นผู้สรุปอยู่แล้ว โดยในวันอังคารที่ 1 มี.ค.นี้ ตนจะตัดสินใจอย่างเป็นทางการว่า จะเข้าร่วมการอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วยหรือไม่
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวด้วยว่า ตนขอฝากไปยังนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ว่า ตนไม่ได้มีการเสนอชื่อนายสุเทพ แต่อย่างใด เพราะไม่ได้มีปัญหาความขัดแย้งกับนายสุเทพ อย่างที่มีกระแสข่าวออกไป เนื่องจากตนคิดว่า คนอย่างนายสุเทพ หากจะอภิปรายรายตัว จะต้องมีข้อมูลที่ชัดเจนมากพอสมควร
**ซัดโกงแหลกเตรียมกระสุนเลือกตั้ง
ร.ต.อ.เฉลิม ยังได้อภิปรายระหว่างการแถลงผลงานของรัฐบาลต่อสภา เมื่อวานนี้ ว่ารัฐบาลสอบตกในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็น เศรษฐกิจ สังคม และคุณชีวิต ความมั่นคงแห่งรัฐ พาประเทศเข้าสู่กลียุค การต่างประเทศ การส่งเสริมประชาธิปไตย การทุจริต เป็นปัญหาร้ายแรงที่สุดของรัฐบาลชุดนี้ เพราะมีผลสำรวจขององค์กรหลายแห่งว่ามีการทุจริตมากที่สุด โดยสาเหตุที่เกิดเป็นเพราะช่วงนี้ใกล้กับการเลือกตั้ง มีความจำเป็นที่ทำให้ลูกน้องต้องเร่งหาเงินให้เจ้านายใช้ในการเลือกตั้ง จึงไม่แปลกที่ในทุกกระทรวง ทบวง กรม ที่มีการจัดซื้อจัดจ้าง จะมีการเรียกรับผลประโยชน์เป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่ยังเชื่อโดยสุจริตว่า นายกฯอภิสิทธิ์ ไม่ได้ทุจริต คอร์รัปชันแต่คนรอบข้างไม่แน่
" การแก้ไขปัญหาสินค้าราคาแพง ก็ทำไม่ถูกทาง ปล่อยให้มีการแสวงหาประโยชน์ และการแต่งตั้งคนไม่ถูกกับงาน เช่น การไปแต่งตั้งรองนายกฯฝ่ายความมั่นคง ไปเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ไม่ต่างอะไรกับกระบวนการบังคับใช้กฎหมายที่ไม่ถูกต้องโดยเฉพาะการประกาศใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน กับการควบคุมการชุมนุมของประชาชนในกรุงเทพฯ ทั้งๆที่กฎหมายดังกล่าว ร่างขึ้นมาเพื่อใช้กับการควบคุมสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
** "เทือก"คุยเรื่องถูกซักฟอกของชอบ
ด้านนายสุเทพ เทือสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมรับมือการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่คาดว่าพรรคเพื่อไทย จะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่วางใจรัฐบาล ในวันที่ 2 มี.ค.นี้ โดยมีชื่อนายสุเทพ ที่จะถูกอภิปราย และถูกยื่นถอดถอนจากตำแหน่ง ว่า มีชื่อตนแน่นอนอยู่แล้ว ถ้าไม่มี ก็คงจะแปลก และกร่อย
ส่วนที่ ร.ต.อ.เฉลิม จะร่วมอภิปรายด้วยนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ความจริงไม่มีอะไร ตนไม่มีเรื่องส่วนตัวกับ ร.ต.อ.เฉลิม ตนยินดีเสมอ และชอบในการต่อสู้ทางการเมือง รวมทั้งจะยื่นถอดถอน ก็ไม่มีปัญหาอะไร ขึ้นอยู่กับว่าเขามีเหตุผลอย่างไร ขอให้คอยติดตามก็แล้วกัน
** "ปู่ชัย"ให้เวลาอภิปราย 15-16 ช.ม.
ด้านนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรอบระยะเวลาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของฝ่ายค้าน ว่า น่าจะเสร็จสิ้นภายในวันเดียว แต่หากไม่ทันก็คงจะต้องเพิ่มในวันเสาร์-อาทิตย์ แต่เชื่อว่าการอภิปรายในครั้งนี้ จะไม่มีปัญหาใดใด ส่วนประธานวิปทั้ง 2 ฝ่าย ก็ได้มีการลงนามในข้อตกลงร่วมกัน ในเงื่อนไขของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งทั้ง 2 ฝ่าย ก็ยอมรับร่วมกันในข้อตกลงดังกล่าวด้วย และการอภิปรายจะใช้เวลา 15 – 16 ชั่วโมง โดยจะแบ่งให้คณะรัฐมนตรี 5 ช.ม. ฝ่ายค้าน 8 ช.ม. และ พรรคร่วมรัฐบาล 3 ช.ม.
อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้เป็นกังวล กับการลุกขึ้นมาประท้วงของ ส.ส.ที่จะเกิดขึ้นในสภา เพราะเมื่อได้รับหน้าที่เป็นประธานในการประชุม ก็ต้องทำหน้าที่ควบคุมการประชุมให้อยู่ในกรอบอยู่แล้ว เชื่อว่าส.ส.ทุกคน รู้ดีว่าอะไรควรพูด อะไรไม่ควรพูด มั่นใจว่า สภาจะไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน
นายชัย ยังกล่าวถึงการคัดค้านการตั้งจังหวัดบึงกาฬ ว่า ล่าสุดได้มีส.ส.และ ส.ว.บางส่วน ถอนชื่อออกจากการยื่นเรื่องเพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้ว จึงทำให้จำนวนรายชื่อไม่ครบตามที่กฎหมายกำหนด ดังนั้นรัฐบาลสามารถนำร่าง พ.ร.บ.จัดตั้งจังหวัดบึงกาฬ ขึ้นทูลเกล้าฯ ได้ และเชื่อว่าหากมีการเลือกตั้งครั้งหน้าจะมีส.ส.ในจังหวัดบึงกาฬได้
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ที่ประชุมพรรคเพื่อไทย ได้มีมติที่จะใช้แนวทางของตนในการอภิปราย คือต้องดุเดือด เข้มข้น ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นตนก็อยากที่จะร่วมการอภิปรายด้วย แต่ทั้งนี้ ตนจะต้องรอดูรายชื่อรัฐมนตรีที่นายมิ่งขวัญ กำหนดว่าจะอภิปรายบุคคลใดบ้าง ถ้าตนมีข้อมูลของบุคคลนั้นๆ ก็พร้อมที่จะเข้าร่วมการอภิปรายด้วย ซึ่งการอภิปรายในครั้งนี้นายมิ่งขวัญ จะต้องเป็นผู้เปิดการอภิปราย และเป็นผู้สรุปอยู่แล้ว โดยในวันอังคารที่ 1 มี.ค.นี้ ตนจะตัดสินใจอย่างเป็นทางการว่า จะเข้าร่วมการอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วยหรือไม่
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวด้วยว่า ตนขอฝากไปยังนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ว่า ตนไม่ได้มีการเสนอชื่อนายสุเทพ แต่อย่างใด เพราะไม่ได้มีปัญหาความขัดแย้งกับนายสุเทพ อย่างที่มีกระแสข่าวออกไป เนื่องจากตนคิดว่า คนอย่างนายสุเทพ หากจะอภิปรายรายตัว จะต้องมีข้อมูลที่ชัดเจนมากพอสมควร
**ซัดโกงแหลกเตรียมกระสุนเลือกตั้ง
ร.ต.อ.เฉลิม ยังได้อภิปรายระหว่างการแถลงผลงานของรัฐบาลต่อสภา เมื่อวานนี้ ว่ารัฐบาลสอบตกในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็น เศรษฐกิจ สังคม และคุณชีวิต ความมั่นคงแห่งรัฐ พาประเทศเข้าสู่กลียุค การต่างประเทศ การส่งเสริมประชาธิปไตย การทุจริต เป็นปัญหาร้ายแรงที่สุดของรัฐบาลชุดนี้ เพราะมีผลสำรวจขององค์กรหลายแห่งว่ามีการทุจริตมากที่สุด โดยสาเหตุที่เกิดเป็นเพราะช่วงนี้ใกล้กับการเลือกตั้ง มีความจำเป็นที่ทำให้ลูกน้องต้องเร่งหาเงินให้เจ้านายใช้ในการเลือกตั้ง จึงไม่แปลกที่ในทุกกระทรวง ทบวง กรม ที่มีการจัดซื้อจัดจ้าง จะมีการเรียกรับผลประโยชน์เป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่ยังเชื่อโดยสุจริตว่า นายกฯอภิสิทธิ์ ไม่ได้ทุจริต คอร์รัปชันแต่คนรอบข้างไม่แน่
" การแก้ไขปัญหาสินค้าราคาแพง ก็ทำไม่ถูกทาง ปล่อยให้มีการแสวงหาประโยชน์ และการแต่งตั้งคนไม่ถูกกับงาน เช่น การไปแต่งตั้งรองนายกฯฝ่ายความมั่นคง ไปเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ไม่ต่างอะไรกับกระบวนการบังคับใช้กฎหมายที่ไม่ถูกต้องโดยเฉพาะการประกาศใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน กับการควบคุมการชุมนุมของประชาชนในกรุงเทพฯ ทั้งๆที่กฎหมายดังกล่าว ร่างขึ้นมาเพื่อใช้กับการควบคุมสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
** "เทือก"คุยเรื่องถูกซักฟอกของชอบ
ด้านนายสุเทพ เทือสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมรับมือการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่คาดว่าพรรคเพื่อไทย จะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่วางใจรัฐบาล ในวันที่ 2 มี.ค.นี้ โดยมีชื่อนายสุเทพ ที่จะถูกอภิปราย และถูกยื่นถอดถอนจากตำแหน่ง ว่า มีชื่อตนแน่นอนอยู่แล้ว ถ้าไม่มี ก็คงจะแปลก และกร่อย
ส่วนที่ ร.ต.อ.เฉลิม จะร่วมอภิปรายด้วยนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ความจริงไม่มีอะไร ตนไม่มีเรื่องส่วนตัวกับ ร.ต.อ.เฉลิม ตนยินดีเสมอ และชอบในการต่อสู้ทางการเมือง รวมทั้งจะยื่นถอดถอน ก็ไม่มีปัญหาอะไร ขึ้นอยู่กับว่าเขามีเหตุผลอย่างไร ขอให้คอยติดตามก็แล้วกัน
** "ปู่ชัย"ให้เวลาอภิปราย 15-16 ช.ม.
ด้านนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรอบระยะเวลาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของฝ่ายค้าน ว่า น่าจะเสร็จสิ้นภายในวันเดียว แต่หากไม่ทันก็คงจะต้องเพิ่มในวันเสาร์-อาทิตย์ แต่เชื่อว่าการอภิปรายในครั้งนี้ จะไม่มีปัญหาใดใด ส่วนประธานวิปทั้ง 2 ฝ่าย ก็ได้มีการลงนามในข้อตกลงร่วมกัน ในเงื่อนไขของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งทั้ง 2 ฝ่าย ก็ยอมรับร่วมกันในข้อตกลงดังกล่าวด้วย และการอภิปรายจะใช้เวลา 15 – 16 ชั่วโมง โดยจะแบ่งให้คณะรัฐมนตรี 5 ช.ม. ฝ่ายค้าน 8 ช.ม. และ พรรคร่วมรัฐบาล 3 ช.ม.
อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้เป็นกังวล กับการลุกขึ้นมาประท้วงของ ส.ส.ที่จะเกิดขึ้นในสภา เพราะเมื่อได้รับหน้าที่เป็นประธานในการประชุม ก็ต้องทำหน้าที่ควบคุมการประชุมให้อยู่ในกรอบอยู่แล้ว เชื่อว่าส.ส.ทุกคน รู้ดีว่าอะไรควรพูด อะไรไม่ควรพูด มั่นใจว่า สภาจะไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน
นายชัย ยังกล่าวถึงการคัดค้านการตั้งจังหวัดบึงกาฬ ว่า ล่าสุดได้มีส.ส.และ ส.ว.บางส่วน ถอนชื่อออกจากการยื่นเรื่องเพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้ว จึงทำให้จำนวนรายชื่อไม่ครบตามที่กฎหมายกำหนด ดังนั้นรัฐบาลสามารถนำร่าง พ.ร.บ.จัดตั้งจังหวัดบึงกาฬ ขึ้นทูลเกล้าฯ ได้ และเชื่อว่าหากมีการเลือกตั้งครั้งหน้าจะมีส.ส.ในจังหวัดบึงกาฬได้
