xs
xsm
sm
md
lg

หมอเสริฐชี้ซื้อBHแค่ลงทุน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTV ผู้จัดการรายวัน – “น.พ.ปราเสริฐ”แจงเหตุกรณี BGH เข้าถือหุ้นร.พ.บำรุงราษฎร์ สัดส่วน11% ชี้เป็นเพียงการลงทุน ไม่คิดเข้าไปเป็นบอร์ดบริหาร ระบุขณะซื้อราคาถูกหลังเทมาเสกเทขายกดราคาหุ้นช่วงนั้นต่ำ แต่ไม่ขอชี้ขาดอนาคต ย้ำไม่คิดเข้าเทกโอเวอร์ พร้อมยอมรับเคยคุยกับผู้ถือหุ้นใหญ่โรงพยาบาลดังกล่าว แต่ยังไม่มีข้อยุติ มองดีลรวมร่างกับเปาโล – พญาไท
ช่วยดันศักยภาพทั้งกลุ่มเติบโตเพิ่ม พร้อมเล็งขยายจำนวนคลีนิคในต่างจังหวัดของเครือ ลั่นแม้กุมร.พ.เอกชนไว้เยอะ แต่ไม่เคยคิดขึ้นค่ารักษาพยาบาล
นายแพทย์ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ(BGH) หรือ ร.พ.กรุงเทพ เปิดเผยถึงสาเหตุการที่บริษัทเข้าไปซื้อหุ้น บมจ.โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (BH) ในสัดส่วน 11.1% ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเพียงการซื้อเพื่อลงทุนเท่านั้น ทางบริษัทไม่ได้มีวัตถุประสงค์จะเข้าไปเป็นกรรมการบริษัทหรือบอร์ดใน BH แต่อย่างใด
โดยเหตุผลที่เข้าไปซื้อหุ้น BH เพราะมองว่าช่วงดังกล่าว กองทุนเทมาเสกของสิงค์โปรมีการขายหุ้น BH ออกมา อีกทั้งเห็นว่าราคาหุ้นปรับตัวลง ซึ่งในส่วนศักยภาพของBH มองว่าจะเติบโตได้อีก ดังนั้นการเข้าซื้อในช่วงดังกล่าว น่าจะช่วยสร้างผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนได้ และจากจุดนี้ยืนยันว่าทางกลุ่ม BGHจะไม่มีนโยบายเข้าไปซื้อกิจการแบบไม่เป็นมิตร
และไม่มีแนวคิดที่จะควบรวมกิจการในระยะเวลาอันใกล้
"เราซื้อหุ้น BH เพราะช่วงนั้นเทมาเสกที่ขายหุ้นออกมาในราคา 29 บาท เป็นจุดที่น่าสนใจเข้าไปลงทุน แต่เราซื้อในราคาแพงกว่านิดหน่อย แต่ยังถือว่าถูก และไม่ได้ซื้อจากเทมาเสก ซึ่งตอนนี้หากขายออกไปก็ยังมีกำไร "นายแพทย์ปราเสริฐ กล่าว และเพิ่มเติมว่า ในอนาคต ยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะซื้อหุ้น BH เพิ่มเติมอีกหรือไม่
แต่บริษัทต้องการเป็นพันธมิตรกับทุกโรงพยาบาลเอกชน
ขณะเดียวกัน ก่อนหน้านี้ผู้บริหารของ BGH ยอมรับว่า ได้เคยมีการหารือกับผู้ถือหุ้นใหญ่ของร.พ.บำรุงราษฎร์มาบ้างแล้ว แต่ยังไม่มีข้อสรุป ส่วนในอนาคตจะเป็นอย่างไรและจะมีแนวทางการควบรวมกิจการหรือไม่นั้น ขั้นแรกคงต้องรอให้การรับโอนกิจการจาก บมจ.เฮลท์ เน็ตเวิร์ค แล้วเสร็จก่อน เพื่อทำให้อันดับเครดิตดีและขอให้บริษัทมีฐานะมั่นคงก่อน
สำหรับดีลการควบรวมกิจการโรงพยาบาลเปาโล และพญาไท นั้น นายแพทย์ปราเสริฐ ให้ความเห็ฯเพิ่มเติมว่า หลังการควบรวมกิจการกับเครือ รพ.ทั้งสอง เสร็จสิ้นแล้ว หลังได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นครั้งนี้แล้ว เชื่อว่าจะแล้วเสร็จในกลางเดือน เม.ย.ปีนี้ ซึ่งจะทำให้ผลประกอบการของบริษัทจะรับรู้ดีลดังกล่าวได้ตั้งแต่เดือน เม.ย.ทันที ทั้งในในเชิงรายได้,
กำไร, EBIDA, net income สิ่งเหล่านี้จะทำให้กำไรต่อหุ้น (EPS) ของBGH เพิ่มขึ้นอีก 20% ซึ่งทำให้ทุกฝ่ายมีกำไรมากขึ้น
นอกจากนี้ นายแพทย์ปราเสิรฐ ยืนยันว่า แม้จะมีนโยบายเข้าไปขยายตลาดรักษาพยาบาลคนไข้ระดับล่างมากขึ้น ผ่านเครือข่าย รพ.เปาโล ที่เน้นการรองรับคนไข้ระดับล่าง และคนไข้ประกันสังคมเป็นหลัก แต่ทางกลุ่มไม่มีนโยบายปรับขึ้นค่าบริการรักษาพยาบาล แต่มีเป้าหมายที่จะลดค่าบริการให้เป็นไปตามกลไกตลาด เนื่องจากการที่บริษัทใหญ่ขึ้น ทำให้มีต้นทุนที่ถูกลง
น่าจะทำให้สามารถลดค่าบริการลงได้ ส่วนหนึ่งอาจมีการกำหนดค่าบริการเป็นแพ็คเกจ ขณะที่ปกติการเติบโตของรายได้ของ BGH เฉลี่ยจะอยู่ที่ 10%ต่อปี แต่ เครือ รพ.เปาโล จะมีรายได้ที่เติบโตดีกว่า พร้อมกันนี้บริษัทมีแผนทั้งจะมีการเปิดคลีนิคในต่างจังหวัดมากขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น