xs
xsm
sm
md
lg

ขยับเป้าเงินเฟ้อ3.8% บีบธปท.ขั้นดบ.ตาม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สภาพัฒน์คงประมาณการจีดีพีปี 54 ขยายตัว 3.5-4.5% แต่ปรับเพิ่มอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจาก 2.5-3.5 เป็น 2.8-3.8% ระบุดอกเบี้ยขาขึ้น ทั้งปีปรับอีก 1% แนะรัฐบาลดูแลราคาสินค้า ให้เป็นธรรมกับผู้บริโภค

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ แถลงข่าวแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 54 ว่า ยังจะขยายตัวต่อเนื่องจากปี 53 ภายใต้สมมติฐานอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจโลกอยู่ที่ 3.8-4.2% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อได้ปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อทั่วไปเพิ่มขึ้น มาอยู่ที่ 2.8-3.8% จากคาดการณ์เดิมที่ 2.5-3.5% ทำให้คาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.75-1% จากปัจจุบันซึ่งอยู่ทีร้อยละ 2.25 เป็นอัตราดอกเบี้ยช่วงขาขึ้น ส่วนอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ระดับ 29.5-30.5 บาท/ดอลลาร์ ราคาน้ำมันดิบดูไบที่ 85-95 ดอลลาร์/บาร์เรล

ปัจจัยหนุนต่อการขยายตัวเศรษฐกิจในปี 54 คือ การปรับตัวที่ดีขึ้นของเศรษฐกิจโลก ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนในด้านการส่งออก การผลิตและการท่องเที่ยว รายได้ของผู้บริโภคมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น เป็นผลจากการปรับขึ้นเงินเดือนของราชการและภาคเอกชน รวมทั้งรายได้ของเกษตรกรที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากราคาสินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เช่น ยางพารา มันสำปะหลังและอ้อย ด้านสถาบันการเงินมีเสถียรภาพ สภาพคล่องในระบบยังอยู่ในระดับที่สูง เป็นปัจจัยที่เอื้อต่อการปล่อยสินเชื่อ, ภาคบริการ ยังขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่อง จึงคาดว่าในปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยประมาณ 16.8-17 ล้านคน

อย่างไรก็ตามในปี 54 ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องระมัดระวัง คือ 1.การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ยังมีความเปราะบาง โดยเฉพาะการฟื้นตัวของสหภาพยุโรปและญี่ปุ่น ที่สหภาพยุโรป มีปัญหาหนี้สาธารณะในระดับสูงและการดำเนินนโยบายการคลังที่ไม่เอื้อต่อการสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ขณะที่ญี่ปุ่นการบริโภคขยายตัวเพียงเล็กน้อย ส่วนหนึ่งเป็นผลจากอัตราการว่างงานที่ยังอยู่ในระดับสูง และจีน ที่มีการดำเนินนโยบายการเงินแบบเข้มงวด โดยการลดเป้าหมายปริมาณสินเชื่อและเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ 2. การปรับตัวสูงขึ้นของราคาน้ำมัน อัตราดอกเบี้ยและแรงกดดันจากเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น 3.ขณะที่สถานการณ์ทางการเมือง ซึ่งยังคงดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่อง จุดนี้อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภค นักท่องเที่ยวต่างชาติ และนักลงทุนได้

4.สถานการณ์การผลิตภาคเกษตรและรายได้ของเกษตรกรที่ยังมีความไม่แน่นอน จากความแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศ ประกอบกับต้นทุนการผลิตทีเพิ่มสูงขึ้นจากราคาน้ำมัน 5.ความผันผวนของการเคลื่อนย้ายเงินทุนจากการดำเนินนโยบายการเงิน ที่ยังคงอัตราดอกเบี้ยต่ำของสหรัฐและสหภาพยุโรป ซึ่งสวนทางกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของประเทศต่างๆ ในเอเชียที่มีแนวโน้มสูงขึ้น และ6.การขาดแคลนแรงงานในบางอุตสาหกรมที่จะทำให้สูญเสียโอกาสในการแข่งขัน

***จี้รัฐบาลดูแลราคาสินค้าให้เป็นธรรม
ประเด็นการบริหารเศรษฐกิจในปี 54 สภาพัฒน์ฯ แนะรัฐบาลให้ความสำคัญดังนี้ 1.การดูแลราคาสินค้าที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ผู้บริโภค 2.การดำเนินนโยบายการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนที่สมดุลระหว่างการรักษาอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการรักษาเสถียรภาพในระบบเศรษฐกิจ เพื่อรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและการเคลื่อนย้ายเงินทุน

3.เร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและโครงการลงทุนสำคัญที่จำเป็นต่อการสร้างศักยภาพในการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระระยะยาว 4.การบริหารจัดการน้ำเพื่อการเกษตรและการบริโภคทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เพื่อลดผลกระทบจากปัญหาภัยธรรมชาติ 5.เร่งแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานในภาคการผลิต และ 6.เร่งฟื้นฟูความสามัคคีของคนในชาติและแก้ปัญหาความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน
กำลังโหลดความคิดเห็น