00 คงเป็นอีกวันหนึ่งที่รัฐบาล “หน้าหล่อ” จะต้องโกรธกริ้วกับผลของ “กรุงเทพโพล” ที่ออกมาเมื่อวานนี้( 21 ก.พ.) เพราะ “ตบหน้า” ได้ฉาดใหญ่ ว่า “สอบตก” ทุกด้าน ที่สำคัญชี้ให้เห็นว่า การแก้ปัญหาด้วยการสร้างภาพ ใช้สำนวน “โวหาร” หลอกต้มชาวบ้านไปวันๆนั้นไม่ได้ผล
00 ผลสำรวจที่ออกมาไม่ว่าจะเป็นผลงานและความเชื่อมั่นทั้งทางเศรษฐกิจ การเมืองศักยภาพการแข่งขัน โดยเฉพาะความเชื่อมั่นต่อการแก้ปัญหาคอร์รัปชั่นแค่ร้อยละ 1.91 เท่านั้น อย่างนี้มันก็หมายความว่านอกจาก “บ้อท่า” ในประสิทธิภาพการรับมือป้องกันปัญหาทั้งในปัจจุบันและอนาคตแล้ว ยังมีเรื่อง “โกง” เมื่อผลออกมาแบบนี้มันก็ไม่ต่างจากยุค “ทักษิณ ชินวัตร” ยิ่งเห็นตัวเลขออกมาดังกล่าวมันก็สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่า “โคตรโกง” นี่หว่า
00 แม้ว่ายังอนุมาณได้ว่า “มาร์ค” ยังไม่โกง แต่เมื่ออยู่ร่วมกับคนโกงได้โดยไม่รังเกียจ หรือคนรอบข้าง ลูกน้องในรัฐบาลขี้โกงมันก็สะท้อนให้เห็นว่า “เป็นพวกเดียวกัน” เหมือน “ปลาเน่าในข้องเดียวกัน”
00 วันนี้( 22 ก.พ.) ก็ได้เวลา “ปาหี่” แก้ปัญหาน้ำมันปาล์ม หลังจากโกงกันทั้งไปทั้งกลับ ทั้งเรื่องการอนุมัตินำเข้าน้ำมันปาล์มดิบสองครั้งรวมกว่า 1.5 แสนตัน เพราะ “ทุนการเมือง” พวกนี้รวยกัน “พุงปลิ้น” ทั้งกักตุนให้ปาล์มขาดตลาดแล้วขายแพง และ “สวมรอย” นำเข้าน้ำมันปาล์มเถื่อน “ฟันกำไร” ส่วนต่าง งานนี้ว่ากันว่า “สะสมกระสุน” รอเลือกตั้งเป็นหลักพันล้านสบายใจเฉิบ อ้อลองเดาสิว่าเป็นพรรคไหน หากไม่รู้ลองแอบกระซิบถาม สุเทพ เทือกสุบรรณ ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ เผื่อจะรู้ข้อมูลบ้าง
00 มามุกเดิมแบบน่าเบื่ออีกแล้วกับการตั้งคณะกรรมการ หรือการส่งดีเอสไอเข้ามาตรวจสอบสต็อกน้ำมันปาล์มของโรงงานบางแห่ง ซึ่งก็มีรายการ “เชือด” โชว์ให้เห็นบ้างแล้ว แต่คนไทย พ.ศ.นี้มันรู้ทัน เพราะถ้าแน่จริงอย่าไปตรวจแค่โรงงานที่สมุทรปราการ ให้ลองแวะไปแถวสมุทรสาคร และสุราษฎร์ธานี บ้าน “เทือก” ดูมั่ง ไม่แน่อาจจะ “เจอดี” เข้าก็เป็นได้
00 เต้นกันเป็นเจ้าเข้ากับเรื่องที่ “ผู้นำทหารไทย” นำโดย พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ เสธ.ทบ.พร้อมด้วย “เสี่ยเยิ้ม” พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาค 2 พร้อมทีมงานข้ามแดนไป “ยอมแพ้” เอ้ย ลงนามหยุดยิง กับ “ลูกฮุนเซน” ฮุน มาเน็ต ถึงฝั่งกัมพูชา ได้ข้อสรุปมา 8 ข้อ สาระก็คือให้ทั้งสองฝ่าย “อยู่นิ่งๆกับที่” รักษาสภาพเดิมเอาไว้ อย่างนี้ไทยก็เสียเปรียบวันยังค่ำ เหมือนกับกัมพูชาบุกเขามายึดพื้นที่บ้านเราแล้วรบกับเรา เมื่อมีการไกล่เกลี่ยให้หยุดยิงก็หยุดอยู่ตรงนั้น แต่ที่ตรงนั้นดันเป็น “ที่ดินของเรา” ก็ให้คิดเอาเองแล้วกันว่าเป็นบวกหรือลบ
00 นอกจากนี้ที่น่าจับตาก็คือ ข้อตกลงดังกล่าวมีการลงนามแล้วมีผลผูกพัน เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกระทบต่อดินแดนแค่ไหน เพราะถ้าขืน “ล้ำเส้น” ก็มีสิทธิ์ซวยกันเป็นแถวแน่ เพราะนั่นอาจเข้าข่ายทำผิด ม.190 มีสิทธิ์ติดคุกตอนแก่เสียด้วย ส่วนใครที่คิดว่าจะเป็น “วีรบุรุษภูมะเขือเผา” ก็อาจต้องนอนสะดุ้งก็เป็นได้
00 บินไปจาร์กาต้า อินโดนีเซียแล้ว สำหรับรมว.ต่างประเทศ กษิต ภิรมย์ หวังว่าจะได้เจรจาทวิภาคีกับ ฮอร์นัมฮง รมว.ต่างประเทศกัมพูชา ทั้งที่อีกฝ่ายไม่เล่นด้วย ไม่ยอมเจรจากับไทย หากไม่มีการตั้งกองกำลังสันติภาพของอาเซียนเข้าไปดูแลในพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร เพื่อให้ตัวเองได้เปรียบในเรื่องแผนบริหารจัดการพื้นที่โดยรอบปราสาทพระวิหาร ก็รอดูว่าผลจะออกมาอย่างไร แม้ว่าท่าทีจะกลับไปกลับมาเอาแน่ไม่ได้ แต่ก็เดาไว้ก่อนว่าคงเหลวและไทยเสียเปรียบตามเคย !!
00 ผลสำรวจที่ออกมาไม่ว่าจะเป็นผลงานและความเชื่อมั่นทั้งทางเศรษฐกิจ การเมืองศักยภาพการแข่งขัน โดยเฉพาะความเชื่อมั่นต่อการแก้ปัญหาคอร์รัปชั่นแค่ร้อยละ 1.91 เท่านั้น อย่างนี้มันก็หมายความว่านอกจาก “บ้อท่า” ในประสิทธิภาพการรับมือป้องกันปัญหาทั้งในปัจจุบันและอนาคตแล้ว ยังมีเรื่อง “โกง” เมื่อผลออกมาแบบนี้มันก็ไม่ต่างจากยุค “ทักษิณ ชินวัตร” ยิ่งเห็นตัวเลขออกมาดังกล่าวมันก็สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่า “โคตรโกง” นี่หว่า
00 แม้ว่ายังอนุมาณได้ว่า “มาร์ค” ยังไม่โกง แต่เมื่ออยู่ร่วมกับคนโกงได้โดยไม่รังเกียจ หรือคนรอบข้าง ลูกน้องในรัฐบาลขี้โกงมันก็สะท้อนให้เห็นว่า “เป็นพวกเดียวกัน” เหมือน “ปลาเน่าในข้องเดียวกัน”
00 วันนี้( 22 ก.พ.) ก็ได้เวลา “ปาหี่” แก้ปัญหาน้ำมันปาล์ม หลังจากโกงกันทั้งไปทั้งกลับ ทั้งเรื่องการอนุมัตินำเข้าน้ำมันปาล์มดิบสองครั้งรวมกว่า 1.5 แสนตัน เพราะ “ทุนการเมือง” พวกนี้รวยกัน “พุงปลิ้น” ทั้งกักตุนให้ปาล์มขาดตลาดแล้วขายแพง และ “สวมรอย” นำเข้าน้ำมันปาล์มเถื่อน “ฟันกำไร” ส่วนต่าง งานนี้ว่ากันว่า “สะสมกระสุน” รอเลือกตั้งเป็นหลักพันล้านสบายใจเฉิบ อ้อลองเดาสิว่าเป็นพรรคไหน หากไม่รู้ลองแอบกระซิบถาม สุเทพ เทือกสุบรรณ ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ เผื่อจะรู้ข้อมูลบ้าง
00 มามุกเดิมแบบน่าเบื่ออีกแล้วกับการตั้งคณะกรรมการ หรือการส่งดีเอสไอเข้ามาตรวจสอบสต็อกน้ำมันปาล์มของโรงงานบางแห่ง ซึ่งก็มีรายการ “เชือด” โชว์ให้เห็นบ้างแล้ว แต่คนไทย พ.ศ.นี้มันรู้ทัน เพราะถ้าแน่จริงอย่าไปตรวจแค่โรงงานที่สมุทรปราการ ให้ลองแวะไปแถวสมุทรสาคร และสุราษฎร์ธานี บ้าน “เทือก” ดูมั่ง ไม่แน่อาจจะ “เจอดี” เข้าก็เป็นได้
00 เต้นกันเป็นเจ้าเข้ากับเรื่องที่ “ผู้นำทหารไทย” นำโดย พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ เสธ.ทบ.พร้อมด้วย “เสี่ยเยิ้ม” พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาค 2 พร้อมทีมงานข้ามแดนไป “ยอมแพ้” เอ้ย ลงนามหยุดยิง กับ “ลูกฮุนเซน” ฮุน มาเน็ต ถึงฝั่งกัมพูชา ได้ข้อสรุปมา 8 ข้อ สาระก็คือให้ทั้งสองฝ่าย “อยู่นิ่งๆกับที่” รักษาสภาพเดิมเอาไว้ อย่างนี้ไทยก็เสียเปรียบวันยังค่ำ เหมือนกับกัมพูชาบุกเขามายึดพื้นที่บ้านเราแล้วรบกับเรา เมื่อมีการไกล่เกลี่ยให้หยุดยิงก็หยุดอยู่ตรงนั้น แต่ที่ตรงนั้นดันเป็น “ที่ดินของเรา” ก็ให้คิดเอาเองแล้วกันว่าเป็นบวกหรือลบ
00 นอกจากนี้ที่น่าจับตาก็คือ ข้อตกลงดังกล่าวมีการลงนามแล้วมีผลผูกพัน เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกระทบต่อดินแดนแค่ไหน เพราะถ้าขืน “ล้ำเส้น” ก็มีสิทธิ์ซวยกันเป็นแถวแน่ เพราะนั่นอาจเข้าข่ายทำผิด ม.190 มีสิทธิ์ติดคุกตอนแก่เสียด้วย ส่วนใครที่คิดว่าจะเป็น “วีรบุรุษภูมะเขือเผา” ก็อาจต้องนอนสะดุ้งก็เป็นได้
00 บินไปจาร์กาต้า อินโดนีเซียแล้ว สำหรับรมว.ต่างประเทศ กษิต ภิรมย์ หวังว่าจะได้เจรจาทวิภาคีกับ ฮอร์นัมฮง รมว.ต่างประเทศกัมพูชา ทั้งที่อีกฝ่ายไม่เล่นด้วย ไม่ยอมเจรจากับไทย หากไม่มีการตั้งกองกำลังสันติภาพของอาเซียนเข้าไปดูแลในพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร เพื่อให้ตัวเองได้เปรียบในเรื่องแผนบริหารจัดการพื้นที่โดยรอบปราสาทพระวิหาร ก็รอดูว่าผลจะออกมาอย่างไร แม้ว่าท่าทีจะกลับไปกลับมาเอาแน่ไม่ได้ แต่ก็เดาไว้ก่อนว่าคงเหลวและไทยเสียเปรียบตามเคย !!
