วานนี้(16 ก.พ.)ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย อภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาวาระเรื่องด่วน ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ 2554 (งบกลางปี) ที่รัฐสภา ว่า งบกลางปีมีปัญหาที่บิดเบือนข้อเท็จจริงตัวเลขการเก็บภาษี ไม่เป็นไปตามหลักเศรษฐศาสตร์ ทั้งที่ประเทศมีเงินเฟ้อ เป็นการนำเงินในอนาคตมาใช้และขาดรายละเอียดของโครงการ เน้นช่วยภัยพิบัติ ไม่เน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ดังนั้นใช้งบเดิมที่มีก็ได้แต่ที่ตั้งงบกลางปีเพื่อแบ่งในพรรคร่วมเพื่อการเลือกตั้ง และหาเสียงล่วงหน้า
ทั้งนี้นายกฯเคยพูดว่าจะทำประเทศไทยเป็นรัฐสวัสดิการใน 7 ปีข้างหน้า แต่ก็ไม่พัฒนาระบบการจัดเก็บภาษีและไม่ปรับอัตราภาษี ทั้งนี้คนไทย 64 ล้านคน เสียภาษี 2.3 ล้านคนเท่านั้น และในจำนวนนั้นมี 6 หมื่นคน จ่ายภาษีรวมกันเกิน 50% มีเพียง 2,500 คน เสียภาษีเกิน 10 ล้านบาทต่อปี ประเทศไทยจึงเป็น 1 ในประเทศที่กระจายรายได้แย่สุด เมื่อเป็นแบบนี้ ก็ต้องจัดงบขาดดุลเพื่อให้มีการลงทุน เพื่อสร้างผลผลิตภาคการผลิต มั่นใจอย่างไรในการเก็บภาษีที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเกินเป้า
น้ำมันปาล์มนั้นมีบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ของคนในรัฐบาลนี้ได้ประโยชน์ ขณะที่รมว.มหาดไทยคนนี้ตนขอสาบแช่งให้เป็นคนสุดท้ายในเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการทุกระดับ รัฐบาลนี้ปั่นหุ้นกันสนุกและคนในรัฐบาลก็รวยกันไป รัฐบาลบิดเบือนงบกระทรวงเกษตรฯ1.7เปอร์เซ็นต์ก็มอบให้กรมชลประทานหมด จัดทำงบแบบทุจริตง่ายๆ ตั้งงบไม่ถึง10ล้านบาทก็ไม่ต้องประมูล ผู้รับเหมามีรายเดียว ผมเชื่อว่านายกฯไม่โกง แต่ไม่เชื่อว่านายกฯจะไม่รู้ว่ามีการโกง
รัฐบาลนำงบกลางปีไปผลาญเพราะทุจริต มีการนำเงินในอนาคตมาใช้และทึกทักเองว่าจะเก็บภาษีได้ เมื่อเก็บภาษีไม่ได้ต้องไปกู้เงินเพิ่ม รัฐบาลนี้กู้เบ็ดเสร็จ1.27ล้านล้านบาท เก่งแต่บริหารจนหนี้ท่วมหัว บริหารจนนานาชาติข้องใจความโปร่งใส และบอกว่ารัฐบาลนี้คอรัปชั่น เมื่อมีหนี้เพิ่มก็ขูดรีดประชาชนเพิ่ม เช่นภาษีสรรพสามิตน้ำมันที่ขึ้นลิตรละ3บาท เป็นวิธีสกปรกและรังแกประชาชน
“วันเลือกตั้งจะเป็นวันตัดสินของการบริหารรัฐบาลว่าผมทำนายผิดหรือไม่” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว .
ทั้งนี้นายกฯเคยพูดว่าจะทำประเทศไทยเป็นรัฐสวัสดิการใน 7 ปีข้างหน้า แต่ก็ไม่พัฒนาระบบการจัดเก็บภาษีและไม่ปรับอัตราภาษี ทั้งนี้คนไทย 64 ล้านคน เสียภาษี 2.3 ล้านคนเท่านั้น และในจำนวนนั้นมี 6 หมื่นคน จ่ายภาษีรวมกันเกิน 50% มีเพียง 2,500 คน เสียภาษีเกิน 10 ล้านบาทต่อปี ประเทศไทยจึงเป็น 1 ในประเทศที่กระจายรายได้แย่สุด เมื่อเป็นแบบนี้ ก็ต้องจัดงบขาดดุลเพื่อให้มีการลงทุน เพื่อสร้างผลผลิตภาคการผลิต มั่นใจอย่างไรในการเก็บภาษีที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเกินเป้า
น้ำมันปาล์มนั้นมีบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ของคนในรัฐบาลนี้ได้ประโยชน์ ขณะที่รมว.มหาดไทยคนนี้ตนขอสาบแช่งให้เป็นคนสุดท้ายในเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการทุกระดับ รัฐบาลนี้ปั่นหุ้นกันสนุกและคนในรัฐบาลก็รวยกันไป รัฐบาลบิดเบือนงบกระทรวงเกษตรฯ1.7เปอร์เซ็นต์ก็มอบให้กรมชลประทานหมด จัดทำงบแบบทุจริตง่ายๆ ตั้งงบไม่ถึง10ล้านบาทก็ไม่ต้องประมูล ผู้รับเหมามีรายเดียว ผมเชื่อว่านายกฯไม่โกง แต่ไม่เชื่อว่านายกฯจะไม่รู้ว่ามีการโกง
รัฐบาลนำงบกลางปีไปผลาญเพราะทุจริต มีการนำเงินในอนาคตมาใช้และทึกทักเองว่าจะเก็บภาษีได้ เมื่อเก็บภาษีไม่ได้ต้องไปกู้เงินเพิ่ม รัฐบาลนี้กู้เบ็ดเสร็จ1.27ล้านล้านบาท เก่งแต่บริหารจนหนี้ท่วมหัว บริหารจนนานาชาติข้องใจความโปร่งใส และบอกว่ารัฐบาลนี้คอรัปชั่น เมื่อมีหนี้เพิ่มก็ขูดรีดประชาชนเพิ่ม เช่นภาษีสรรพสามิตน้ำมันที่ขึ้นลิตรละ3บาท เป็นวิธีสกปรกและรังแกประชาชน
“วันเลือกตั้งจะเป็นวันตัดสินของการบริหารรัฐบาลว่าผมทำนายผิดหรือไม่” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว .