xs
xsm
sm
md
lg

ปปช.จ่อฟัน "รังสรรค์" โกงสร้างตึก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-ป.ป.ช. ทำหนังสือตอบรับตั้งคณะทำงานร่วมอัยการคดี “รังสรรค์” ทุจริตประมูลสร้างตึกเรียนผิดแบบ ส่วนคดีต่ออายุราชการตัวเอง อัยการชี้เป็นมติมร. ไม่ใช่คำสั่งของคนใดคนหนึ่ง อีกทั้งแจ้งข้อหาไม่ตรงกับข้อเท็จจริงในสำนวน เห็นควรให้แจ้งข้อหาใหม่ “กลุ่มพลังราม” เดินหน้ายื่นหนังสือ ป.ป.ช.-สกอ. ทบทวนคำสั่งไล่ออกจากราชการของ 3 ผู้บริหาร มร.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าคดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่งสำนวนชี้มูลความผิดนายรังสรรค์ แสงสุข อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง (มร.) ให้อัยการสูงสุดพิจารณาสั่งฟ้องในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กรณีไม่สั่งยกเลิกประกวดราคาและเปิดประมูลก่อสร้าง อาคาร 25 ปี มหาวิทยาลัยรามคำแหง วงเงิน 500 ล้านบาท ทั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการก่อสร้างตึกจากเดิมที่กำหนดเป็นโรงแรมมาเป็นอาคารเรียน

โดยหลังจากที่สำนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษได้พิจารณาแล้ว เห็นว่าสำนวนยังไม่สิ้นกระแสความ มีความจำเป็นต้องสอบสวนเพิ่มเติม จึงได้ทำหนังสือแจ้งไปยังคณะกรรมการป.ป.ช. เมื่อวันที่ 22 พ.ย.2553 ให้ตั้งคณะทำงานร่วมกันกับพนักงานอัยการ ล่าสุดคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้ทำหนังสือตอบกลับมาเมื่อวันที่ 26 ม.ค.2554 ให้ตั้งคณะทำงานร่วมกันฝ่ายละ 3 คน แต่ยังไม่ได้กำหนดวันนัดประชุม ซึ่งตาม พ.ร.บ.ว่าด้วย ป.ป.ช. พ.ศ.2542 กำหนดให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.เป็นฝ่ายเลขานุการ ที่จะมีติดต่อประสานกำหนดวันนัดประชุมร่วมกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับคดีที่คณะกรรมการป.ป.ช.ส่งสำนวนชี้มูลความผิด นายคิม ไชยแสนสุข อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง นายรังสรรค์ และนายเฉลิมพล ศรีหงส์ อดีตรองอธิการบดีฝ่ายวิชาการและวิจัย ให้อัยการสูงสุดพิจารณาสั่งฟ้องในความผิดฐานทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่ ขณะที่นายคิม ดำรงตำแหน่งรองอธิการบดี ได้ร่วมกันกับผู้ถูกกล่าวหาต่ออายุการเป็นข้าราชการให้กับนายรังสรรค์ เป็นอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง หลังจากอายุครบ 60 ปี ออกไปอีก 5 ปี โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ขัดพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา มาตรา 18 และ 19 ที่การต่ออายุราชการจะทำได้เฉพาะตำแหน่งข้าราชการฝ่ายวิชาการเท่านั้น ไม่ใช่ฝ่ายบริหาร

ล่าสุด สำนักงานอัยการคดีพิเศษได้พิจารณาสำนวนแล้วเห็นว่า การขยายอายุราชการให้นายรังสรรค์ เป็นมติของสภามร. ไม่ใช่คำสั่งของบุคคลใดคนหนึ่ง อีกทั้งการแจ้งข้อหาไม่ตรงกับข้อเท็จจริงในสำนวน เห็นควรให้แจ้งข้อหาใหม่ จึงเสนอเรื่องให้อัยการสูงสุด โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา

ด้านนายกิตติวัฒน์ สุทธิรักษ์ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะนิติศาสตร์ ม.ร. หนึ่งในตัวแทนนักศึกษากลุ่มเครือข่ายพลังราม กล่าวว่า เมื่อเวลา 11.00 น. ตนและเพื่อนกลุ่มเครือข่ายพลังราม พร้อมด้วยคณาจารย์ ประมาณ 300 คน ได้เดินทางไปที่ป.ป.ช.เพื่อยื่นหนังสือและมอบกระเช้าดอกไม้ แก่คณะกรรมการป.ป.ช.โดยมีนายอภินันทน์ อิศรางกูร ณ อยุธยา เลขาธิการป.ป.ช. เป็นผู้รับมอบ และรับปากจะช่วยนำหนังสือไปเสนอในที่ประชุมคณะกรรมการป.ป.ช.ให้พิจารณาการชี้มูลความผิดแก่รศ.คิม รศ.รังสรรค์ และรศ.เฉลิมพล ภายในวันที่ 15ก.พ.2554 แต่ในที่ประชุมจะหยิบยกประเด็นมาพิจารณาหรือไม่นั้น คงขึ้นอยู่กับการประธานป.ป.ช. อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ นักศึกษาในกลุ่มเครือข่ายพลังราม จะต่อสู้เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมแก่อาจารย์มร.ทั้ง 3 ท่าน ภายใต้วิธีการทางกฎหมายและจะไม่เรียกร้องหรือดำเนินการอะไรที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของมหาวิทยาลัย

วันเดียวกัน เวลา 13.00 น. ดร.เฉลิมพล สุมโนพรหม ในฐานะประธานคณะผู้ทำงานทางด้านกฎหมายของกลุ่มพลังรามได้เดินทางมาที่ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) เพื่อเข้าพบ ดร.สุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการ กกอ. และดำเนินการยื่นคำแถลงการณ์ร้องขอความเป็นธรรมให้ สกอ.พิจารณายกเลิกเพิกถอนคำสั่งลงโทษทางวินัยตามมติคณะกรรมการ ปปช. ฉบับลงวันที่ 8 ก.พ.2554 โดยกล่าวว่า การออกคำสั่งลงโทษทางวินัยดังกล่าวนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมายในหลายประเด็น อาทิ ผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษไม่ใช่ผู้เสียหายอย่างแท้จริง เป็นเหตุให้คณะกรรมการป.ป.ช. ไม่มีอำนาจไต่สวนคำร้องและไม่มีอำนาจลงมติชี้มูลความผิดในคดีนี้แต่อย่างใดทั้งสิ้น เป็นต้น
กำลังโหลดความคิดเห็น