ASTVผู้จัดการรายวัน-บอร์ดรฟม.สั่งถามกพ.รับรองวุฒิการศึกษา”โอภาส”อีกรอบ หลังสกอ.รับรองนักเรียนเดินเรือเทียบเท่าปริญญาตรี “สุพจน์”ระบุหาก กพ.ไฟเขียวเดินหน้าต่อรองเงินเดือนทันที แต่หากไม่รับรองวุ่นแน่ เหตุกพ.รับรองคนจบนักเดินเรือเข้ารับราชการเอง “ประธานสรรหาฯ”พูดเต็มปาก “โอภาส”เป็นผู้ว่าฯรฟม.แล้ว รอแค่เอกสารรับรอง ด้าน”ประภัสร์”ยื่นโนติส
ระงับการดำเนินการที่มิชอบด้วยกฎหมาย ไฟเขียวทีโออาร์สีเขียวขายซองประมูล15 มี.ค.
นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมวานนี้ (15 ก.พ.) ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงกรณีวุฒิการศึกษาของนายโอภาส เพชรมุณี ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ซึ่งได้รับคะแนนเป็นอันดับ 1 ในการสรรหาผู้ว่าฯ รฟม. โดยมีมติให้ทำหนังสือถึงสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (กพ.) อีกครั้ง โดยให้ส่งเอกสารจากสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ที่รับรองวุฒิการศึกษาประกาศนียบัตรเดินเรือพาณิชย์ (ฝ่ายเดินเรือ) จากศูนย์ฝึกพาณิชย์นาวี กรมเจ้าท่า ของนายโอภาสว่าเทียบเท่ากับปริญญาตรี หาก กพ.ตอบรับรองมา ให้ดำเนินการตามขั้นตอนกระบวนการสรรหาฯ ในส่วนของการพิจารณาค่าตอบแทนได้ทันที แต่หากกพ.ตอบไม่รับรอง จะต้องนำเรื่องกลับมาเสนอบอร์ดรฟม.อีกครั้ง ซึ่งน่าจะมีผลกระทบค่อนข้างมาก โดยเฉพาะบุคคลที่จบจากนักเรียนเดินเรือพาณิชย์และสมัครเข้ารับราชการที่กรมเจ้าท่า ได้ผ่านการรับรองวุฒิการศึกษาจากกพ.ทั้งสิ้น
“หลังจากกพ.ไม่ตอบรับรอง วุฒิการศึกษานักเรียนเดินเรือพาณิชย์ของคุณโอภาสมา รฟม.ได้มีการสอบถามไปยัง สกอ.ซึ่งสกอ.ก็ยืนยันว่า วุฒิการศึกษาดังกล่าวเทียบเท่าปริญญาตรี ดังนั้น ก็ให้ส่งเอกสารนี้ให้กพ.ประกอบด้วย นอกจากนี้ ยังมีรายละเอียดเกี่ยวกับหลักสูตรการเรียนการสอนของปริญญารัฐศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาการเมืองการปกครองจากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ซึ่งคุณโอภาสจบในระดับปริญญาโทยืนยันมาด้วย”นายสุพจน์กล่าว
พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ประธานคณะสรรหาผู้ว่าฯ รฟม.กล่าวว่า จากที่ สกอ.ยืนยันว่า วุฒิการศึกษาประกาศนียบัตรเดินเรือพาณิชย์ (ฝ่ายเดินเรือ) จากศูนย์ฝึกพาณิชย์นาวี ของนายโอภาส ยืนยันว่าเรื่องวุฒิการศึกษาไม่มีปัญหาอะไร ขณะนี้ถือว่านายโอภาส ได้รับการสรรหาเป็นผู้ว่าฯ รฟม.แล้ว รอเพียงเอกสารรับรองเท่านั้น ซึ่งไม่น่าจะมีปัญหาอะไร กรณีนี้มีสาเหตุจากประกาศคุณสมบัติที่เขียนเงื่อนไขผู้สมัครต้องมีวุฒิการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีจากสถานศึกษาที่ก.พ.รับรอง ถ้าไม่ทำตามก็อาจจะถูกฟ้องได้
“คำตอบของกพ.ก่อนหน้านี้ ใช้สำนวน ต้องตีความ บอกว่า กพ.ไม่มีหน้าที่รับรองคุณสมบัติของบุคคลใด จะรับรองเฉพาะบุคคลที่เข้ารับราชการเท่านั้น แล้วที่กพ.รับรองคนจบนักเรียนเดินเรือไปเข้าทำงานที่กรมเจ้าท่าและให้เงินเดือนสูงกว่าคนจบปริญญาตรีอีกคืออะไร ”พล.ต.ท.สมยศกล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า นายประภัสร์ จงสงวน หนึ่งในผู้สมัครรับการสรรหาฯ ผู้ว่าฯ รฟม. ได้ทำหนังสือถึงประธานคณะกรรมการฯสรรหาและประธานบอร์ดรฟม.ขอเอกสารการรับรองวุฒิการศึกษาของนายโอภาสจากสถาบันการศึกษาต่างๆ ที่รฟม.ได้สอบถามไปตามที่ประธานบอร์ดรฟม.ได้ให้สัมภาษณ์ ตามพ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารและขอให้รฟม.ระงับการดำเนินการใดๆ ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จนกว่าจะมีการรับรองที่ถูกต้องที่ได้ประกาศไว้
นอกจากนี้ ที่ประชุมบอร์ด ได้เห็นชอบเอกสารประกวดราคาการก่อสร้างงานโยธาโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อน ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ระยะทาง 13 กิโลเมตร มูลค่า 17,233 ล้านบาท โดยรฟม.จะประกาศเชิญชวนผู้ที่สนในเข้าร่วมประกวดราคาในวันที่ 28 ก.พ.–11 มี.ค.2554 โดยเปิดขายเอกสารในวันที่ 15-23 มี.ค.2554 กำหนดให้ผู้ที่เข้ารับเอกสารจัดทำรายละเอียดกลับมาเสนอรฟม.ภายในเดือนมิ.ย. 2554 คาดว่าจะลงนามในสัญญาก่อสร้างได้ในเดือนก.ย. และเริ่มก่อสร้างในปลายปี 2554 ส่วนสายสีเขียวเข้ม ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่นั้นขณะนี้อยู่ระหว่างรอ คณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมของสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) พิจารณา เนื่องจากมีการปรับแบบซึ่งลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมลง ซึ่งหากเห็นชอบจะเริ่มประกวดราคาได้ทันที
สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ แบ่งการก่อสร้างงานโยธา ออกเป็น 3 สัญญา ประกอบด้วย สัญญาที่ 1 งานสถานี 9 แห่ง และก่อสร้างโครงสร้างทางวิ่งยกระดับ ระยะทาง 12.8 กิโลเมตร ,สัญญาที่ 2 งานก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุง 1 แห่ง และอาคารจอดรถ 1 แห่ง และสัญญาที่ 3 งานระบบราง ซึ่งตามแผนงานนั้นเบื้องต้นจะสามารถเริ่มงานก่อสร้างได้ภายในเดือนธ.ค. 2554 ใช้เวลาก่อสร้าง 4 ปี และคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ประมาณเดือนพ.ค. 2559
ระงับการดำเนินการที่มิชอบด้วยกฎหมาย ไฟเขียวทีโออาร์สีเขียวขายซองประมูล15 มี.ค.
นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมวานนี้ (15 ก.พ.) ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงกรณีวุฒิการศึกษาของนายโอภาส เพชรมุณี ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ซึ่งได้รับคะแนนเป็นอันดับ 1 ในการสรรหาผู้ว่าฯ รฟม. โดยมีมติให้ทำหนังสือถึงสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (กพ.) อีกครั้ง โดยให้ส่งเอกสารจากสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ที่รับรองวุฒิการศึกษาประกาศนียบัตรเดินเรือพาณิชย์ (ฝ่ายเดินเรือ) จากศูนย์ฝึกพาณิชย์นาวี กรมเจ้าท่า ของนายโอภาสว่าเทียบเท่ากับปริญญาตรี หาก กพ.ตอบรับรองมา ให้ดำเนินการตามขั้นตอนกระบวนการสรรหาฯ ในส่วนของการพิจารณาค่าตอบแทนได้ทันที แต่หากกพ.ตอบไม่รับรอง จะต้องนำเรื่องกลับมาเสนอบอร์ดรฟม.อีกครั้ง ซึ่งน่าจะมีผลกระทบค่อนข้างมาก โดยเฉพาะบุคคลที่จบจากนักเรียนเดินเรือพาณิชย์และสมัครเข้ารับราชการที่กรมเจ้าท่า ได้ผ่านการรับรองวุฒิการศึกษาจากกพ.ทั้งสิ้น
“หลังจากกพ.ไม่ตอบรับรอง วุฒิการศึกษานักเรียนเดินเรือพาณิชย์ของคุณโอภาสมา รฟม.ได้มีการสอบถามไปยัง สกอ.ซึ่งสกอ.ก็ยืนยันว่า วุฒิการศึกษาดังกล่าวเทียบเท่าปริญญาตรี ดังนั้น ก็ให้ส่งเอกสารนี้ให้กพ.ประกอบด้วย นอกจากนี้ ยังมีรายละเอียดเกี่ยวกับหลักสูตรการเรียนการสอนของปริญญารัฐศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาการเมืองการปกครองจากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ซึ่งคุณโอภาสจบในระดับปริญญาโทยืนยันมาด้วย”นายสุพจน์กล่าว
พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ประธานคณะสรรหาผู้ว่าฯ รฟม.กล่าวว่า จากที่ สกอ.ยืนยันว่า วุฒิการศึกษาประกาศนียบัตรเดินเรือพาณิชย์ (ฝ่ายเดินเรือ) จากศูนย์ฝึกพาณิชย์นาวี ของนายโอภาส ยืนยันว่าเรื่องวุฒิการศึกษาไม่มีปัญหาอะไร ขณะนี้ถือว่านายโอภาส ได้รับการสรรหาเป็นผู้ว่าฯ รฟม.แล้ว รอเพียงเอกสารรับรองเท่านั้น ซึ่งไม่น่าจะมีปัญหาอะไร กรณีนี้มีสาเหตุจากประกาศคุณสมบัติที่เขียนเงื่อนไขผู้สมัครต้องมีวุฒิการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีจากสถานศึกษาที่ก.พ.รับรอง ถ้าไม่ทำตามก็อาจจะถูกฟ้องได้
“คำตอบของกพ.ก่อนหน้านี้ ใช้สำนวน ต้องตีความ บอกว่า กพ.ไม่มีหน้าที่รับรองคุณสมบัติของบุคคลใด จะรับรองเฉพาะบุคคลที่เข้ารับราชการเท่านั้น แล้วที่กพ.รับรองคนจบนักเรียนเดินเรือไปเข้าทำงานที่กรมเจ้าท่าและให้เงินเดือนสูงกว่าคนจบปริญญาตรีอีกคืออะไร ”พล.ต.ท.สมยศกล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า นายประภัสร์ จงสงวน หนึ่งในผู้สมัครรับการสรรหาฯ ผู้ว่าฯ รฟม. ได้ทำหนังสือถึงประธานคณะกรรมการฯสรรหาและประธานบอร์ดรฟม.ขอเอกสารการรับรองวุฒิการศึกษาของนายโอภาสจากสถาบันการศึกษาต่างๆ ที่รฟม.ได้สอบถามไปตามที่ประธานบอร์ดรฟม.ได้ให้สัมภาษณ์ ตามพ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารและขอให้รฟม.ระงับการดำเนินการใดๆ ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จนกว่าจะมีการรับรองที่ถูกต้องที่ได้ประกาศไว้
นอกจากนี้ ที่ประชุมบอร์ด ได้เห็นชอบเอกสารประกวดราคาการก่อสร้างงานโยธาโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อน ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ระยะทาง 13 กิโลเมตร มูลค่า 17,233 ล้านบาท โดยรฟม.จะประกาศเชิญชวนผู้ที่สนในเข้าร่วมประกวดราคาในวันที่ 28 ก.พ.–11 มี.ค.2554 โดยเปิดขายเอกสารในวันที่ 15-23 มี.ค.2554 กำหนดให้ผู้ที่เข้ารับเอกสารจัดทำรายละเอียดกลับมาเสนอรฟม.ภายในเดือนมิ.ย. 2554 คาดว่าจะลงนามในสัญญาก่อสร้างได้ในเดือนก.ย. และเริ่มก่อสร้างในปลายปี 2554 ส่วนสายสีเขียวเข้ม ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่นั้นขณะนี้อยู่ระหว่างรอ คณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมของสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) พิจารณา เนื่องจากมีการปรับแบบซึ่งลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมลง ซึ่งหากเห็นชอบจะเริ่มประกวดราคาได้ทันที
สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ แบ่งการก่อสร้างงานโยธา ออกเป็น 3 สัญญา ประกอบด้วย สัญญาที่ 1 งานสถานี 9 แห่ง และก่อสร้างโครงสร้างทางวิ่งยกระดับ ระยะทาง 12.8 กิโลเมตร ,สัญญาที่ 2 งานก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุง 1 แห่ง และอาคารจอดรถ 1 แห่ง และสัญญาที่ 3 งานระบบราง ซึ่งตามแผนงานนั้นเบื้องต้นจะสามารถเริ่มงานก่อสร้างได้ภายในเดือนธ.ค. 2554 ใช้เวลาก่อสร้าง 4 ปี และคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ประมาณเดือนพ.ค. 2559