วานนี้(14 ก.พ)ที่รัฐสภา นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ถึงการลาออกของส.ว
.สรรหาว่า ในวันที่ 17-18 ก.พ.คงจะทะยอยลาออก ซึ่งจะมีส.ว.ลาออกไปสมัครเพื่อสรรหาใหม่ประมาณ 60 คน แต่
จะจะมีบางคนที่สมัครและจะอยู่ไปจนกว่าสรรหาส.ว.ใหม่จะเข้ามา แต่ส่วนตัวตนไม่สมัครต่อ เพราะต้องการให้คนอื่น
ที่มีความรู้ ความสามารถมาทำบ้าง
ทั้งนี้ ผลงานของส.ว.สรรหามีประสิทธิภาพ ทำให้วุฒิสภาเป็นสภาของผู้ทรงคุณวุฒิ เราทำทุกอย่าง
ตามอำนาจหน้าที่ ถ้าประเมินตนให้ “บี” ทั้งนี้ทั้งส.ว.เลือกตั้งและส.ว.สรรหาพูดกันด้วยเหตุด้วยผล จะสังเกตได้
จากการลงมติรัฐธรรมนูญวาระ 3 ก็เป็น กลุ่ม ๆไม่ใช่ส.ว.เลือกตั้งทำอย่าง ส.ว.สรรหาทำอีกอย่าง เป็นปกติไม่ได้
แยกกัน
ที่โรงแรมระยองรีสอร์ท อ.เมือง จ.ระยอง นายสมชัย จึงประเสริฐ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้าน
กิจการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย กล่าวถึงความคืบหน้าในการสรรหาส.ว. 74 คนซึ่งจะหมดวาระในวันที่ 18 ก.พ
.นี้ว่า ขณะนี้ทางสำนักงานกกต.ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการสรรหาส.ว.ได้เตรียมความพร้อมไว้แล้วซึ่งคง
เป็นเรื่องของทางสำนักงานกกต.จะให้ข้อมูล ซึ่งการสรรหาส.ว.ในคราวก่อนมีผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้ารับการสรรหา 1
คนถูกเสนอชื่อในหลายองค์กร แต่กกต.เคยบอกกันว่าหาก 1 คนได้รับเสนอชื่อคนเดียวถึง 2 องค์กรไม่น่าจะได้รับ
การสรรหาได้ ซึ่งตนเห็นว่าน่าจะเป็นการเสียเปรียบแก่ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อในหลายองค์กรมากกว่าคนได้รับการ
เสนอชื่อเพียงองค์กรเดียว ซึ่งอาจทำให้กรรมการสรรหาไม่เลือกในส่วนของผู้ที่ได้รับเสนอชื่อจากหลายองค์กร
ส่วนกรณีส.ว.สรรหาจำนวนหนึ่งจะลาออกก่อนหมดวาระเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในการรับการสรรหาอีก
ครั้งนั้น ตนเห็นว่า หากส.ว.ไม่ลาออกก็ไม่น่ามีปัญหาแต่กลับมีส.ว.บางคนไม่เชื่อตนเพราะเห็นว่าหากไม่ลาออกก็ยังได้
รับเงินเดือนอยู่ก็แปลว่ายังทำหน้าที่อยู่ ถึงแม้กฎหมายจะบอกให้พ้นไปแล้วนับแต่วันที่หมดวาระแต่ตนเห็นว่าไม่น่ามี
ปัญหาซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าจะมีช่องทางส่งไปศาลรัฐธรรมนูญตีความได้หรือไม่ อีกทั้งมีคณะกรรมการสรรหาเคย
บอกว่า หากไม่ลาออกจากตำแหน่งก็จะไม่สรรหามาเป็นส.ว.เพราะเกรงว่าจะเกิดการร้องเรียนมายังกกต.ได้ในภาย
หลังจึงทำให้ส.ว.บางส่วนในขณะนี้จึงเกรงว่าจะไม่ได้รับการสรรหาเข้ามาอีกหากไม่ลาออก
วันเดียวกันที่ รัฐสภา มีการประชุมวุฒิสภาเพื่อ พิจารณาร่างพ.ร.บ.กองทุนการออมแห่งชาติ ที่ผ่าน
ความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรแล้วโดยภายหลังการอภิปรายกว่า 3 ชั่วโมง จึงมีมติรับหลักการด้วยคะแนนเสียง
เอกฉันท์ 98 ต่อ 0
รายงานข่าวแจ้งว่า แม้ที่ประชุมวุฒิสภา มีมติเอกฉันท์รับหลักการในวาระที่ 1 แต่กลับได้เกิดปัญหาเมื่อ
ในขั้นตอนของการตั้งคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้จำนวน 27 คน โดยในสัดส่วนกมธ
.ของวุฒิสภาที่ได้รับการแต่งตั้งจำนวน 24 คนได้ทยอยกันขอถอนตัวจากการเป็นกมธ.หลายคน อาทิ นายถาววร ลี
นุตพงษ์ ส.ว.สรรหา นายวิทวัส บุญสถิตยิ์ พล.ร.อ.สุรศักดิ์ ศรีอรุณ ส.ว.สรรหา โดยให้เหตุผลว่าส.ว.สรรหากำลัง
จะหมดวาระในวันที่ 18 ก.พ.นี้ ทำให้เกรงว่าหากอยู่ในตำแหน่งต่อไปอาจขัดคุณสมบัติต่อการเข้ารับการสรรหาเป็นส
.ว.ได้
ทั้งนี้ นายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภา ในฐานะประธานที่ประชุม ได้ชี้แจงว่า แม้ว่าส.ว.สรรหา
จะหมดวาระในช่วงนี้แต่ก็ยังสามารถปฎิบัติหน้าที่ต่อไปได้จนกว่าจะมีส.ว.สรรหาใหม่เข้ามารับตำแหน่ง จึงคิดว่ายัง
สามารถทำหน้าที่ต่อไปได้จนพิจารณาร่างพ.ร.บ.แล้วเสร็จในวาระที่ 2-3 และถ้ามีส.ว.สรรหาที่เป็นกมธ.ได้ทยอยลา
ออกจริงการพิจารณาร่างพ.ร.บ.นี้จะดำเนินการต่อไปได้ถ้ายังเหลือกมธ. 15 คนและสามารถแต่งตั้งเพิ่มเติมได้
ตามข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา
ต่อมา นายมณเฑียร บุญตัน ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ปัญหาการลาออกของส.ว.สรรหาจะไม่ได้เป็นปัญหา
เฉพาะการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้เท่านั้น เพราะวุฒิสภายังมีร่างพ.ร.บ.ที่ค้างการพิจารณาอยู่อีกจำนวนมาก และ
สมมติว่าในอนาคตส.ว.สรรหาทั้ง 74 คนลาออกจะทำให้ภาระการพิจารณากฎหมายจะไปตกอยู่ที่ส.ว.ที่มาจากการ
เลือกตั้งหมดจนกว่าจะสามารถสรรหาส.ว.ได้เสร็จ ดังนั้น อยากให้ที่ประชุมวุฒิสภาพิจารณาในประเด็นนี้ให้ชัดเจน
ก่อน
จากนั้น นายนิคม ได้สั่งพักประชุมเวลา 5 นาทีเพื่อขอหารือกับวิปวุฒิสภาเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าวภาย
หลังจากการพักประชุมที่สุดแล้วได้มีการถอนการตั้งกมธ.จำนวน 27 คนออกไปและเสนอให้ตั้งกมธ.จำนวน 15 คน
ขึ้นมาแทน
โดยส.ว.ส่วนใหญที่เข้ามาดำรงตำแหน่งกมธ.มาจากส.ว.เลือกตั้ง โดยกำหนดการแปรญัตติภายใน 7 วัน
และให้กมธ.พิจารณาร่างพ.ร.บ.ทั้งฉบับให้เสร็จสิ้นภายใน 30 วัน.
.สรรหาว่า ในวันที่ 17-18 ก.พ.คงจะทะยอยลาออก ซึ่งจะมีส.ว.ลาออกไปสมัครเพื่อสรรหาใหม่ประมาณ 60 คน แต่
จะจะมีบางคนที่สมัครและจะอยู่ไปจนกว่าสรรหาส.ว.ใหม่จะเข้ามา แต่ส่วนตัวตนไม่สมัครต่อ เพราะต้องการให้คนอื่น
ที่มีความรู้ ความสามารถมาทำบ้าง
ทั้งนี้ ผลงานของส.ว.สรรหามีประสิทธิภาพ ทำให้วุฒิสภาเป็นสภาของผู้ทรงคุณวุฒิ เราทำทุกอย่าง
ตามอำนาจหน้าที่ ถ้าประเมินตนให้ “บี” ทั้งนี้ทั้งส.ว.เลือกตั้งและส.ว.สรรหาพูดกันด้วยเหตุด้วยผล จะสังเกตได้
จากการลงมติรัฐธรรมนูญวาระ 3 ก็เป็น กลุ่ม ๆไม่ใช่ส.ว.เลือกตั้งทำอย่าง ส.ว.สรรหาทำอีกอย่าง เป็นปกติไม่ได้
แยกกัน
ที่โรงแรมระยองรีสอร์ท อ.เมือง จ.ระยอง นายสมชัย จึงประเสริฐ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้าน
กิจการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย กล่าวถึงความคืบหน้าในการสรรหาส.ว. 74 คนซึ่งจะหมดวาระในวันที่ 18 ก.พ
.นี้ว่า ขณะนี้ทางสำนักงานกกต.ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการสรรหาส.ว.ได้เตรียมความพร้อมไว้แล้วซึ่งคง
เป็นเรื่องของทางสำนักงานกกต.จะให้ข้อมูล ซึ่งการสรรหาส.ว.ในคราวก่อนมีผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้ารับการสรรหา 1
คนถูกเสนอชื่อในหลายองค์กร แต่กกต.เคยบอกกันว่าหาก 1 คนได้รับเสนอชื่อคนเดียวถึง 2 องค์กรไม่น่าจะได้รับ
การสรรหาได้ ซึ่งตนเห็นว่าน่าจะเป็นการเสียเปรียบแก่ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อในหลายองค์กรมากกว่าคนได้รับการ
เสนอชื่อเพียงองค์กรเดียว ซึ่งอาจทำให้กรรมการสรรหาไม่เลือกในส่วนของผู้ที่ได้รับเสนอชื่อจากหลายองค์กร
ส่วนกรณีส.ว.สรรหาจำนวนหนึ่งจะลาออกก่อนหมดวาระเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในการรับการสรรหาอีก
ครั้งนั้น ตนเห็นว่า หากส.ว.ไม่ลาออกก็ไม่น่ามีปัญหาแต่กลับมีส.ว.บางคนไม่เชื่อตนเพราะเห็นว่าหากไม่ลาออกก็ยังได้
รับเงินเดือนอยู่ก็แปลว่ายังทำหน้าที่อยู่ ถึงแม้กฎหมายจะบอกให้พ้นไปแล้วนับแต่วันที่หมดวาระแต่ตนเห็นว่าไม่น่ามี
ปัญหาซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าจะมีช่องทางส่งไปศาลรัฐธรรมนูญตีความได้หรือไม่ อีกทั้งมีคณะกรรมการสรรหาเคย
บอกว่า หากไม่ลาออกจากตำแหน่งก็จะไม่สรรหามาเป็นส.ว.เพราะเกรงว่าจะเกิดการร้องเรียนมายังกกต.ได้ในภาย
หลังจึงทำให้ส.ว.บางส่วนในขณะนี้จึงเกรงว่าจะไม่ได้รับการสรรหาเข้ามาอีกหากไม่ลาออก
วันเดียวกันที่ รัฐสภา มีการประชุมวุฒิสภาเพื่อ พิจารณาร่างพ.ร.บ.กองทุนการออมแห่งชาติ ที่ผ่าน
ความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรแล้วโดยภายหลังการอภิปรายกว่า 3 ชั่วโมง จึงมีมติรับหลักการด้วยคะแนนเสียง
เอกฉันท์ 98 ต่อ 0
รายงานข่าวแจ้งว่า แม้ที่ประชุมวุฒิสภา มีมติเอกฉันท์รับหลักการในวาระที่ 1 แต่กลับได้เกิดปัญหาเมื่อ
ในขั้นตอนของการตั้งคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้จำนวน 27 คน โดยในสัดส่วนกมธ
.ของวุฒิสภาที่ได้รับการแต่งตั้งจำนวน 24 คนได้ทยอยกันขอถอนตัวจากการเป็นกมธ.หลายคน อาทิ นายถาววร ลี
นุตพงษ์ ส.ว.สรรหา นายวิทวัส บุญสถิตยิ์ พล.ร.อ.สุรศักดิ์ ศรีอรุณ ส.ว.สรรหา โดยให้เหตุผลว่าส.ว.สรรหากำลัง
จะหมดวาระในวันที่ 18 ก.พ.นี้ ทำให้เกรงว่าหากอยู่ในตำแหน่งต่อไปอาจขัดคุณสมบัติต่อการเข้ารับการสรรหาเป็นส
.ว.ได้
ทั้งนี้ นายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภา ในฐานะประธานที่ประชุม ได้ชี้แจงว่า แม้ว่าส.ว.สรรหา
จะหมดวาระในช่วงนี้แต่ก็ยังสามารถปฎิบัติหน้าที่ต่อไปได้จนกว่าจะมีส.ว.สรรหาใหม่เข้ามารับตำแหน่ง จึงคิดว่ายัง
สามารถทำหน้าที่ต่อไปได้จนพิจารณาร่างพ.ร.บ.แล้วเสร็จในวาระที่ 2-3 และถ้ามีส.ว.สรรหาที่เป็นกมธ.ได้ทยอยลา
ออกจริงการพิจารณาร่างพ.ร.บ.นี้จะดำเนินการต่อไปได้ถ้ายังเหลือกมธ. 15 คนและสามารถแต่งตั้งเพิ่มเติมได้
ตามข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา
ต่อมา นายมณเฑียร บุญตัน ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ปัญหาการลาออกของส.ว.สรรหาจะไม่ได้เป็นปัญหา
เฉพาะการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้เท่านั้น เพราะวุฒิสภายังมีร่างพ.ร.บ.ที่ค้างการพิจารณาอยู่อีกจำนวนมาก และ
สมมติว่าในอนาคตส.ว.สรรหาทั้ง 74 คนลาออกจะทำให้ภาระการพิจารณากฎหมายจะไปตกอยู่ที่ส.ว.ที่มาจากการ
เลือกตั้งหมดจนกว่าจะสามารถสรรหาส.ว.ได้เสร็จ ดังนั้น อยากให้ที่ประชุมวุฒิสภาพิจารณาในประเด็นนี้ให้ชัดเจน
ก่อน
จากนั้น นายนิคม ได้สั่งพักประชุมเวลา 5 นาทีเพื่อขอหารือกับวิปวุฒิสภาเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าวภาย
หลังจากการพักประชุมที่สุดแล้วได้มีการถอนการตั้งกมธ.จำนวน 27 คนออกไปและเสนอให้ตั้งกมธ.จำนวน 15 คน
ขึ้นมาแทน
โดยส.ว.ส่วนใหญที่เข้ามาดำรงตำแหน่งกมธ.มาจากส.ว.เลือกตั้ง โดยกำหนดการแปรญัตติภายใน 7 วัน
และให้กมธ.พิจารณาร่างพ.ร.บ.ทั้งฉบับให้เสร็จสิ้นภายใน 30 วัน.
