“วินิจ” ยอมรับ สนิทกับ “เนวิน” ถึงขั้นเรียกเจ้านาย แต่ไม่ใช่ว่าจะได้งานภาครัฐมาก ลั่นปีนี้ยอดบิลลิ่งมากกว่า 500 ล้านบาท
นายวินิจ เลิศรัตนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรชแอร์ เฟสติวัล จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายรวมยอดบิลลิ่งครึ่งปีแรกไว้ที่มากกว่า 500 ล้านบาท ขณะที่ทั้งปียังไม่สรุป ซึ่งปีที่แล้วทำได้รวม 300 ล้านบาท โดยมั่นใจว่าตลาดรวมปีนี้ ทั้งกลุ่มอีเวนต์ โชว์ คอนเสิร์ต จะเติบโตดี โดยมีสัญญาณบ่งบอกตั้งแต่ต้นปีแล้วคือมีคอนเสิร์ตดนตรีต่างประเทศมากกว่า 3 งานแล้ว อีกทั้งปีนี้จะมีกิจกรรมใหญ่หลายงาน ทั้งการเฉลิมฉลองครบรอบ 84 พรรษา ของในหลวง จะทำให้ตลาดอีเวนต์เติบโตดี
ในขณะที่งานของบริษัทเองนั้น มีลูกค้าติดต่อเข้ามาหลายงาน แต่บริษัทต้องดูความพร้อมก่อนว่าสามารถรับงานอะไรได้บ้าง เพราะถ้าสเกลงานใหญ่มาก ก็คงจะไม่ไหว เพราะบริษัทเราเล็กตั้งมา 2 ปีเอง แต่งานที่จะทำต้องมีความแตกต่าง ซึ่งงานหลักๆที่เราจะทำคือ คอนเสิร์ต อีเวนต์มาร์เก็ตติ้ง และมิวสิคเฟสติวัล
แผนงานปีนี้คงจะมีการเพิ่มทีมงานขึ้นมา เพื่อรองรับกับงานที่จะทำหลายงาน ซึ่งปัจจุบันมีพนักงานประจำออฟฟิศ 25 คน และมีทีมงานที่รู้จักกันรับช่วงต่ออีกประมาณ 7 ทีม อย่างไรก็ตามการลงทุนใหญ่คงไม่มี เพราะส่วนใหญ่จะเป็นการลงทุนร่วมกับทางสปอนเซอร์ของแต่ละงานอยู่แล้ว
ล่าสุดคือ การจัดงาน มหกรรมดนตรี 30 ปีคาราบาว จะตระเวนแสดงคอนเสิร์ตทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 54 – 1 มี.ค. 55 ด้วยงบลงทุนกว่า 300 ล้านบาท โดยมีสปอนเซอร์รายใหญ่ คือ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) มูลค่า 150 ล้านบาท, บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน), บริษัท ยูโรเปี้ยนฟู้ด จำกัด (มหาชน), บริษัท คาราบาวตะวันแดง จำกัด, สายการบินไทยแอร์เอเชีย, บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด, บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด นอกจากนั้นยังมีคอร์ปอเรตอีเวนต์ใหญ่อีก 2 งาน แต่ละงานมีประมาณ 10 ซีรี่ส์ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วรูปแบบงานจะเป็นครอสโอเวอร์มาร์เก็ตติ้ง คือ เอาสปอนเซอร์ทั้งหมดมาเชื่อมโยงการทำตลาดเข้าด้วยกัน
สำหรับกรณีการที่ได้รับงานภาครัฐมากนั้นเพราะรู้จักกับนายเนวิน ชิดชอบ นั้น ประเด็นนี้นายวินิจกล่าวยอมรับว่า มีความสนิทสนมกับนายเนวินจริง ทำงานให้กันหลายงาน เช่น การเริ่มทำแบรนด์ดิ้งและการตลาดให้กับทีมฟุตบอลบุรีรัมย์พีอีเอ แต่ตอนนี้จบไปแล้ว แต่ไม่ใช่ว่างานของภาครัฐจะได้ทุกงาน เพราะถ้างานออกมาไม่ดี เจ้านาย (นายเนวิน) ก็คงไม่เอา แต่เราก็ไม่ได้งานภาครัฐมากนัก เช่น มีงานแสดงสินค้าโอท็อป 3 ครั้ง ส่วนปีที่แล้วก็ได้รับงาน ทำวิดีโอวอลล์พระที่นั่งอนันตสมาคม งานเปิดตัวสะพานภูมิพล 1 และ 2 เป็นต้น
นายวินิจยังได้แสดงความคิดเห็นถึงสถานการณ์บ้านเมืองด้วยว่า สังคมมันต้องเดินหน้าต่อไป หากกลัวม็อบหรือต้องหยุดสะดุดเพราะม็อบก็คงไม่ถูก เพราะต้องทำมาหากิน
นายวินิจ เลิศรัตนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรชแอร์ เฟสติวัล จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายรวมยอดบิลลิ่งครึ่งปีแรกไว้ที่มากกว่า 500 ล้านบาท ขณะที่ทั้งปียังไม่สรุป ซึ่งปีที่แล้วทำได้รวม 300 ล้านบาท โดยมั่นใจว่าตลาดรวมปีนี้ ทั้งกลุ่มอีเวนต์ โชว์ คอนเสิร์ต จะเติบโตดี โดยมีสัญญาณบ่งบอกตั้งแต่ต้นปีแล้วคือมีคอนเสิร์ตดนตรีต่างประเทศมากกว่า 3 งานแล้ว อีกทั้งปีนี้จะมีกิจกรรมใหญ่หลายงาน ทั้งการเฉลิมฉลองครบรอบ 84 พรรษา ของในหลวง จะทำให้ตลาดอีเวนต์เติบโตดี
ในขณะที่งานของบริษัทเองนั้น มีลูกค้าติดต่อเข้ามาหลายงาน แต่บริษัทต้องดูความพร้อมก่อนว่าสามารถรับงานอะไรได้บ้าง เพราะถ้าสเกลงานใหญ่มาก ก็คงจะไม่ไหว เพราะบริษัทเราเล็กตั้งมา 2 ปีเอง แต่งานที่จะทำต้องมีความแตกต่าง ซึ่งงานหลักๆที่เราจะทำคือ คอนเสิร์ต อีเวนต์มาร์เก็ตติ้ง และมิวสิคเฟสติวัล
แผนงานปีนี้คงจะมีการเพิ่มทีมงานขึ้นมา เพื่อรองรับกับงานที่จะทำหลายงาน ซึ่งปัจจุบันมีพนักงานประจำออฟฟิศ 25 คน และมีทีมงานที่รู้จักกันรับช่วงต่ออีกประมาณ 7 ทีม อย่างไรก็ตามการลงทุนใหญ่คงไม่มี เพราะส่วนใหญ่จะเป็นการลงทุนร่วมกับทางสปอนเซอร์ของแต่ละงานอยู่แล้ว
ล่าสุดคือ การจัดงาน มหกรรมดนตรี 30 ปีคาราบาว จะตระเวนแสดงคอนเสิร์ตทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 54 – 1 มี.ค. 55 ด้วยงบลงทุนกว่า 300 ล้านบาท โดยมีสปอนเซอร์รายใหญ่ คือ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) มูลค่า 150 ล้านบาท, บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน), บริษัท ยูโรเปี้ยนฟู้ด จำกัด (มหาชน), บริษัท คาราบาวตะวันแดง จำกัด, สายการบินไทยแอร์เอเชีย, บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด, บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด นอกจากนั้นยังมีคอร์ปอเรตอีเวนต์ใหญ่อีก 2 งาน แต่ละงานมีประมาณ 10 ซีรี่ส์ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วรูปแบบงานจะเป็นครอสโอเวอร์มาร์เก็ตติ้ง คือ เอาสปอนเซอร์ทั้งหมดมาเชื่อมโยงการทำตลาดเข้าด้วยกัน
สำหรับกรณีการที่ได้รับงานภาครัฐมากนั้นเพราะรู้จักกับนายเนวิน ชิดชอบ นั้น ประเด็นนี้นายวินิจกล่าวยอมรับว่า มีความสนิทสนมกับนายเนวินจริง ทำงานให้กันหลายงาน เช่น การเริ่มทำแบรนด์ดิ้งและการตลาดให้กับทีมฟุตบอลบุรีรัมย์พีอีเอ แต่ตอนนี้จบไปแล้ว แต่ไม่ใช่ว่างานของภาครัฐจะได้ทุกงาน เพราะถ้างานออกมาไม่ดี เจ้านาย (นายเนวิน) ก็คงไม่เอา แต่เราก็ไม่ได้งานภาครัฐมากนัก เช่น มีงานแสดงสินค้าโอท็อป 3 ครั้ง ส่วนปีที่แล้วก็ได้รับงาน ทำวิดีโอวอลล์พระที่นั่งอนันตสมาคม งานเปิดตัวสะพานภูมิพล 1 และ 2 เป็นต้น
นายวินิจยังได้แสดงความคิดเห็นถึงสถานการณ์บ้านเมืองด้วยว่า สังคมมันต้องเดินหน้าต่อไป หากกลัวม็อบหรือต้องหยุดสะดุดเพราะม็อบก็คงไม่ถูก เพราะต้องทำมาหากิน