รองผบช.น. เชื่อมือยิงกัปตันการบินไทยยังหลบหนีอยู่ในประเทศ คาด 1-2 วันน่าจะจับกุมมาดำเนินคดีได้ ย้ำตำรวจไม่วิสามัญแน่ เพราะต้องการข้อมูลโยงขยายผลคดียาเสพติด มั่นใจออกหมายจับไม่ผิดตัว
วันนี้ ( 19 ม.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รองผบช.น.(รับผิดชอบงานสืบสวน) กล่าวถึงกรณีนายพริสร หรือ ณัฐพงษ์ ห้วยหงษ์ทอง อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาคดีขับรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ยิง ร.ท.พูลวิทย์ เรืองเดช กัปตันสายการบินไทย จนได้รับบาดเจ็บ ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังติดตามความคืบหน้าของคดีอย่างใกล้ชิด โดยให้ พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบก.ศสส.บช.น. เป็นผู้ติดตามความคืบหน้าของคดี ซึ่งเชื่อว่าตำรวจทำงานมาถูกทางแล้ว โดยคาดว่า 1-2 วัน จะมีการจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีได้
พล.ต.ต.อิทธิพล กล่าวต่อไปว่า เชื่อว่าคนร้ายยังอยู่ภายในประเทศ และมีการเข้า-ออก พื้นที่ กทม. และต่างจังหวัดอยู่บ่อยครั้ง สำหรับการดำนินคดีทางตำรวจได้สอบพยานไปหลายปาก และมั่นใจว่าตำรวจออกหมายจับไม่ผิดตัวแน่นอน
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการจับกุมอย่างไร หากคนร้ายมีการต่อสู้ พล.ต.ต.อิทธิพล กล่าวว่า ตำรวจต้องจับกุมตามกฎหมายอยู่แล้ว ส่วนเรื่องวิสามัญทางตำรวจไม่ทำแน่นอน เพราะตำรวจต้องการข้อมูล เนื่องจากตัวผู้ต้องหามีข้อมูลเยอะมีคดีติดตัวหลายพื้นที่ประกอบกับเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติด จึงพร้อมจะขยายผลต่อไป
ขณะที่พ.ต.อ.เทียนชัย คามะปะโส ผกก.สน.ประเวศ กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ต้องหายังไม่ได้ติดต่อขอมอบตัวแต่อย่างใด เชื่อว่าน่าจะกบดานอยู่กับพรรคพวกที่สนิทกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่สืบสวนกก.บก.น.4 ฝ่ายสืบสวนสน.ประเวศ สืบ 4 และทีมสืบสวนของบก.สส.บช.น.ได้ปูพรหมพื้นที่ในหลายจุด เพื่อเร่งติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาอยู่ รวมทั้งได้ประสานตำรวจในพื้นที่ที่คาดว่าคนร้ายน่าจะหลบซ่อนอยู่ด้วย แต่คงไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้มากนัก เพราะเกรงว่าผู้ต้องหาจะไหวตัวทันแล้วหลบหนีไปอีก บอกได้แค่ว่าเราตามกลิ่นเจอแล้ว
ทั้งนี้ หลังจากที่มีกระแสข่าวว่าผู้ต้องหาหลบหนีไปกบดานในพื้นที่ภูธรภาค 7 นั้น พล.ต.ท.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน ผบช.ภ. 7 ได้ให้สัมภาษณ์ว่า สำหรับประวัติผู้ต้องหาโดยพื้นเพแล้วเป็นคน จ.นครปฐม และเมื่อประมาณปี 2544 ขณะที่อาศัยอยู่กับครอบครัว ซึ่งมีอาชีพทำไร่อ้อยนั้น ได้ร่วมกันกับพวกก่อเหตุพยายามฆ่า ในพื้นที่ สภ.กำแพงแสน จากนั้นก็ได้หลบหนีไปจนกระทั่ง ในปี 2549 ได้ถูกจับกุมคดีอาวุธปืน ที่ สภ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร และถูกส่งตัวไปสถานพินิจ ก่อนที่จะหนีประกันที่สถานพินิจ และไปก่อคดีอีกในหลายพื้นที่ ถ้ามือยิงกัปตันสายการบิน หนีเข้ามากบดานในพื้นที่ภาค 7 ก็ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ทุกนายเตรียมความพร้อมในทุกกรณี กำชับให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะผู้ต้องหาโชกโชนในคดีอาชญากรรม ไม่น่าจะยอมให้จับง่ายๆ รวมทั้งมีปืนติดตัวด้วย อย่างไรก็ตามก็ยังหวังว่าผู้ต้องหาจะติดต่อขอเข้ามอบตัวเพื่อสู้คดี
