xs
xsm
sm
md
lg

“ลลิล”ตามรอยอสังหาฯขาใหญ่ ล็อกราควัสดุแก้ต้นทุนผันผนวน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – จัดสรรชี้ชัดแนวโน้มวัสดุก่อสร้างขาขึ้น จับตาต้นทุนรวมผันผวนหนัก หลังพบต้นทุนเกี่ยวเนื่อง น้ำมัน ดอกเบี้ย ที่ดิน ปรับตัวสูง ชี้อสังหาฯงัดกลยุทธ์ล็อกราคาซื้อขายวัสดุ ป้องกันต้นทุนผันผวน "บิ๊กลลิล" คุ้มต้นทุนสู้ เผยแผนปี 54 ผุด 7โครงการ มูลค่า3,500ล้าน พร้อมชิมลางคอนโด

การปรับตัวของราคาวัสดุก่อสร้างตามทิศทางการขยับตัวของต้นทุนในตลาดโลก ส่งผลให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ค่ายใหญ่-เล็กเตรียมแผนรับมือต้นทุนต่างๆ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยก่อนหน้านั้น ค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง บริษัาพฤกษาฯ ประกาศ ล็อกราคาซื้อขายวัสดุก่อสร้างป้องกันปัญหาการปรับตัวของต้นุทนการก่อสร้างตามแนวโน้มการปรับตัวและความผันผวนของราคาวัสดุก่อสร้างในตลาด นอกจากนี้ค่าย เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ฯ เป็นอีกรายที่มีการล็อกราคาซื้อขายวัสดุก่อสร้าง เช่น เดียวกับค่าย แสนสิริฯ ที่ประกาศจะควบคุมต้นทุนวัสดุก่อสร้างล่วงหน้า 2 ปี เป็นต้น

นายไชยยันต์ ชาครกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ LALIN กล่าวว่า ปัญหาความผันผวนของราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวตามต้นทุนพลังงานเชื้อเพลิงในปีนี้ คาดว่าจะส่งผลต่อการปรับขึ้นของราคาวัสดุก่อสร้างโดยรวมประมาณ 4-5% ดังนั้น ลลิลฯจึงใช้วิธีการล็อกราคาวัสดุกับตัวแทนจำหน่ายในระยะยาวจนถึงเดือน ธ.ค.ของปีนี้ ทั้งในส่วนของ เหล็ก สุขภัณฑ์ และกระเบื้อง อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งปีแรก บริษัทยังคงตรึงราคาขายบ้านในราคาต้นทุนเดิม เนื่องจากราคาเหล็กยังเป็นต้นทุนเดิม แต่ไตรมาส 3-4ของปีนี้ จะพิจารณาปรับราคาขายบ้านอีก 3% โดยจะเลือกปรับในบางโครงการ

"ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อต้นทุนการก่อสร้างในปี2554 นอกเหนือจาก เหล็ก กระเบื้อง และสุขภัณฑ์แล้วยังมี ค่าที่ดิน ค่าแรงงาน ดอกเบี้ยที่ปรับสูงขึ้น ทำให้ต้องปรับราคาขายบ้าน โดยเฉพาะราคาที่ดินตามแนวรถไฟฟ้าปรับขึ้นถึง 50% คาดว่าไตรมาส 3-4นี้ อาจขยับขึ้นประมาณ3%"

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ ลลิลฯ มีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 5-7 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 3,500 ล้านบาท เป็นโครงการแนวราบ 6 โครงการ และคอนโดมิเนียม1 โครงการ ช่วงครึ่งปีแรกจะเปิด 6 โครงการ เป็นบ้านเดี่ยว 3 โครงการ และทาวน์เฮาส์ 2 โครงการ และคอนโดฯ 1โครงการ อีก1 โครงการคาดว่าจะเปิดได้ในครึ่งปีหลัง ทั้งนี้ ช่วงต้นปี ได้เปิดโครงการบ้านเดี่ยวย่านวัชรพลภายใต้แบรนด์ แลนด์ซิโอ ระดับราคา 3-4 ล้านบาท ซึ่งมีผลตอบรับที่ดี ส่วนโครงการคอนโดฯจะเป็นแบรนด์ใหม่ มูลค่า 300-400 ล้านบาท ทำเลติดรถไฟฟ้าใต้ดินย่านรัชดาฯ-พหลโยธิน คาดว่าเปิดขายได้ครึ่งปีหลัง

ทั้งนี้ ในปี 54 ตั้งเป้ายอดรับรู้รายได้ 1,935 ล้านบาท เติบโต 15% จากปีก่อนมีรายได้ 1,650-1,700 ล้านบาท ส่วนยอดขายปีนี้ตั้งเป้า 2,150 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนที่มียอดขาย 2,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันมียอดขายรอรับรู้(backlog)จำนวน 400 ล้านบาท และในปีนี้บริษัทได้เตรียมงบเพื่อจัดซื้อที่ดิน จำนวน 700 ล้านบาท โดยปัจจุบันลลิลฯมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 40% สูงสุดในตลาด เนื่องจากบริษัทมีการเปิดโครงการใหม่ค่อนข้างน้อย เพื่อให้กำไรออกมาดี
กำลังโหลดความคิดเห็น