ASTV ผู้จัดการรายวัน – โบรกเกอร์ เชื่อการจัดตั้ง อีทีเอฟ ทองคำ ในประเทศจะเป็นประโยชน์ต่อบริษัทจัดการลงทุน และนักลงทุนในประเทศที่สนใจ เหตุลดภาระและความซับซ้อนในด้านอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งทำต้นทุนในการบริหารลดลง และมีความเสี่ยวงต่ำกว่าการลงทุนผ่านกองทุนในต่างแดน
นาย บุญเลิศ สิริภัทรวณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออสสิริส จำกัด กล่าวถึงการจัดตั้งอีทีเอฟ ทองคำในปีนี้ว่า เรื่องนี้จะทำให้การซื้อขายสินทรัพย์ทองคำในมุมของนักลงทุนมีมิติหลากหลายมากขึ้น รวมถึงเพียบพร้อมเทียบเท่ากับระดับสากลได้ ไม่ว่าจะเป็น กองทุนที่ลงทุนในทองคำ กองทุน ETF ทองคำ โกลด์ฟิวเจอร์ส และ ทองคำแท่ง
โดยมองว่า ปัจจุบันมีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.)ของไทยหลายแห่งจัดตั้งกองทุนทองคำขึ้นมาตอบสนองนักลงทุน แต่กองทุนเหล่านั้น มีต้นทุนในการบริหารสูงในระดับหนึ่ง เพราะต้องเสียค่าธรรมเนียม (ฟี) ให้กับกองทุนทองคำในต่างประเทศ และต้นทุนในอัตราแลกเปลี่ยนที่ต้องแปลงค่าจากค่าเงินบาท เป็นเงินสกุลดอลลาร์หรือสกุลอื่นๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ เงินลงทุนในกองทุนทองคำต่างประเทศ
แต่ถ้าในประเทศไทย มีการจัดตั้งอีทีเอฟ ทองคำได้จริง มองว่าเรื่องดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ให้ทั้งนักลงทุนและบลจ.ด้วย เนื่องจากจะช่วยลดต้นทุนทางการเงิน หรือต้นทุนค่าใช้จ่ายลง โดยไม่จำเป็นต้องเสียค่าฟีให้กับกองทุนทองคำในต่างประเทศ เช่นเดียวกับต้นทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ที่ลงทุนในอีทีเอฟ ในประเทศมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น จากต้นทุนค่าใช้จ่ายที่ลดลง
“อีทีเอฟ ทองคำ ส่วนตัวมองว่ามีข้อดี 3 ประการ คือ 1.ช่วยทำให้เม็ดเงินลงทุนไม่ไหลออกไปต่างประเทศมากนัก เพราะบลจ.สามารถจัดตั้งกองทุนทองคำที่สามารถใช้เกณฑ์ หรือข้อมูลพื้นฐานอ้างอิงจากอีทีเอฟ ทองคำในประเทศได้ 2.ในภาคอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง มองว่าอีทีเอฟ คืออีกเครื่องมือที่สามารถช่วยกระจายหรือป้องกันความเสี่ยงจากการผันผวนของราคาทองคำได้ โดยเฉพาะบรรดาร้านทองคำ
3.ไม่มีความซับซ้อนมากเกินไป เนื่องจากอีทีเอฟ ทองคำที่จัดตั้งในประเทศ ดังนั้นน้ำหนักทองคำที่ใช้จัดตั้งอีทีเอฟ ก็จะมีน้ำหนักปกติเท่ากับทองคำที่ขายอยู่ในประเทศ นั่นคือ 96.5% ซึ่งจุดนี้ จะช่วยไม่ให้นักลงทุนสับสนกับราคาทองคำได้ เพราะทั้งโกดล์ ฟิวเจอร์ส ทองคำแท่งและทองคำรูปพรรณ รวมถึงอีทีเอฟ ทองคำที่จะมีออกมา ก็ใช้มาตรฐานในเรื่องน้ำหนักเดียวกันหมด”
ดังนั้น โดยภาพรวมเชื่อว่า อีทีเอฟ ทองคำในประเทศ จะมีต้นทุนค่าใช้จ่ายในการบริหารน้อยกว่า มีความเสี่ยงที่ต่ำหรือลดลงมามากว่ากองทุนทองคำ ที่ต้องนำเงินไปลงทุนในต่างประเทศ นอกจากนี้ความเคลื่อนไหวของอีทีเอฟ ทองคำในประเทศ ยังสะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบต่างๆเกิดขึ้น เหมือนราคาทองคำทั่วไป และช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือต่อเครื่องมือการลงทุนด้านทองคำในประเภทต่างๆด้วย
ส่วนการเตรียมความพร้อมทางธุรกิจ เพื่อรองรับการเปิดเสรีหลักทรัพย์ที่จะเกิดขึ้นในปลายปีนี้ นายบุญเลิศ กล่าวว่า บริษัทยังไม่มีแนวคิดให้บริษัทต่างชาติเข้ามาร่วมลงทุนกับบริษัท แต่ยอมรับว่ามีความสนใจที่จะหาพาร์ทเนอร์จากประเทศเข้ามาร่วมลงทุนด้วยเช่นกัน แต่เป็นการแลกเปลี่ยนทางความชำนาญมากกว่า
ขณะที่ ภาพรวมราคาทองในช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้ โดยรวมเชื่อว่าราคาทองคำน่าจะยังอยู่ในช่วงพักฐานเนื่องจากก่อนหน้านี้ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 5 เดือนติดต่อกันซึ่งถือว่าขึ้นมาค่อนข้างมากและสูงเกินกว่าที่นักลงทุนได้คาดการณ์ไว้
ด้าน นายสัญญา หาญพัฒนกิจพานิช ผู้ช่วยผู้อำนวยการทีมพัฒนาธุรกิจตลาดอนุพันธ์ บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า การจัดตั้ง โกลด์ อีทีเอฟ ออกมาอีกหนึ่งสินค้า จะช่วยเพิ่มทางเลือกในการลงทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ นอกจากนี้ เรื่องดังกล่าวเป็นประโยชน์ต่อนักลงทุนมากขึ้น เพราะทุกวันนี้ บลจ. ที่ตั้งกองทุนทองคำ จะต้องเสีย ค่าฟีถึง 2 ต่อ ในการนำเงินไปร่วมลงทุนในกองทุนทองคำต่างประเทศหรือเสียค่าฟีเพราะใช้ข้อมูลของกองทุนในต่างประเทศมาคำนวณหน่วยลงทุนของกองทุนตัวเอง ซึ่งเมื่อมีการจัดตั้งอีทีเทฟ ทองคำในประเทศได้ เชื่อว่าจะมีหลายกองทุนหันมาใช้อีทีเอฟในประเทศมากกว่า ซึ่งจะประหยัดต้นทุนในการบริหาร และเพิ่มส่วนต่างในการลงทุนที่อาจทำให้ผลตอบแทนจากการลงทุนมีเพิ่มขึ้นตามไปด้วยในเรื่องนี้
ก่อนหน้านี้ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ทีมพัฒนาธุรกิจตลาดอนุพันธ์ บล.โกลเบล็ก ให้ความเห็น ว่าประโยชน์ที่เห็นได้ชัดเจนหากมีการจัดตั้งอีทีเอฟทองคำ สำหรับนักลงทุนคือส่วนต่างที่น่าจะเกิดจากต้นทุนค่าธรรมเนียมที่ลดลง อีกทั้งในเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยนก็จะลดความซับซ้อนในการลงทุนลงด้วย
เนื่องจากทุกวันนี้กองทุนทองคำที่จัดตั้งในไทยเงินที่ลงทุนจะเป็นเงินบาท และเมื่อต้องนำเงินเข้าไปลงทุนในกองทุนต่างประเทศ ย่อมต้องมีการแปลงค่าเงิน บางกองทุนอาจมีการทำเฮดจิ้ง หรือบางกองทุนอาจไม่มี แต่เมื่อสามารถใช้อีทีเอฟทองคำในประเทศได้ มองว่าการซื้อขายหรือการลงทุนด้วยสกุลเงินบาทเพียงอย่างเดียว น่าจะสะดวกและง่ายกว่า
นาย บุญเลิศ สิริภัทรวณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออสสิริส จำกัด กล่าวถึงการจัดตั้งอีทีเอฟ ทองคำในปีนี้ว่า เรื่องนี้จะทำให้การซื้อขายสินทรัพย์ทองคำในมุมของนักลงทุนมีมิติหลากหลายมากขึ้น รวมถึงเพียบพร้อมเทียบเท่ากับระดับสากลได้ ไม่ว่าจะเป็น กองทุนที่ลงทุนในทองคำ กองทุน ETF ทองคำ โกลด์ฟิวเจอร์ส และ ทองคำแท่ง
โดยมองว่า ปัจจุบันมีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.)ของไทยหลายแห่งจัดตั้งกองทุนทองคำขึ้นมาตอบสนองนักลงทุน แต่กองทุนเหล่านั้น มีต้นทุนในการบริหารสูงในระดับหนึ่ง เพราะต้องเสียค่าธรรมเนียม (ฟี) ให้กับกองทุนทองคำในต่างประเทศ และต้นทุนในอัตราแลกเปลี่ยนที่ต้องแปลงค่าจากค่าเงินบาท เป็นเงินสกุลดอลลาร์หรือสกุลอื่นๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ เงินลงทุนในกองทุนทองคำต่างประเทศ
แต่ถ้าในประเทศไทย มีการจัดตั้งอีทีเอฟ ทองคำได้จริง มองว่าเรื่องดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ให้ทั้งนักลงทุนและบลจ.ด้วย เนื่องจากจะช่วยลดต้นทุนทางการเงิน หรือต้นทุนค่าใช้จ่ายลง โดยไม่จำเป็นต้องเสียค่าฟีให้กับกองทุนทองคำในต่างประเทศ เช่นเดียวกับต้นทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ที่ลงทุนในอีทีเอฟ ในประเทศมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น จากต้นทุนค่าใช้จ่ายที่ลดลง
“อีทีเอฟ ทองคำ ส่วนตัวมองว่ามีข้อดี 3 ประการ คือ 1.ช่วยทำให้เม็ดเงินลงทุนไม่ไหลออกไปต่างประเทศมากนัก เพราะบลจ.สามารถจัดตั้งกองทุนทองคำที่สามารถใช้เกณฑ์ หรือข้อมูลพื้นฐานอ้างอิงจากอีทีเอฟ ทองคำในประเทศได้ 2.ในภาคอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง มองว่าอีทีเอฟ คืออีกเครื่องมือที่สามารถช่วยกระจายหรือป้องกันความเสี่ยงจากการผันผวนของราคาทองคำได้ โดยเฉพาะบรรดาร้านทองคำ
3.ไม่มีความซับซ้อนมากเกินไป เนื่องจากอีทีเอฟ ทองคำที่จัดตั้งในประเทศ ดังนั้นน้ำหนักทองคำที่ใช้จัดตั้งอีทีเอฟ ก็จะมีน้ำหนักปกติเท่ากับทองคำที่ขายอยู่ในประเทศ นั่นคือ 96.5% ซึ่งจุดนี้ จะช่วยไม่ให้นักลงทุนสับสนกับราคาทองคำได้ เพราะทั้งโกดล์ ฟิวเจอร์ส ทองคำแท่งและทองคำรูปพรรณ รวมถึงอีทีเอฟ ทองคำที่จะมีออกมา ก็ใช้มาตรฐานในเรื่องน้ำหนักเดียวกันหมด”
ดังนั้น โดยภาพรวมเชื่อว่า อีทีเอฟ ทองคำในประเทศ จะมีต้นทุนค่าใช้จ่ายในการบริหารน้อยกว่า มีความเสี่ยงที่ต่ำหรือลดลงมามากว่ากองทุนทองคำ ที่ต้องนำเงินไปลงทุนในต่างประเทศ นอกจากนี้ความเคลื่อนไหวของอีทีเอฟ ทองคำในประเทศ ยังสะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบต่างๆเกิดขึ้น เหมือนราคาทองคำทั่วไป และช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือต่อเครื่องมือการลงทุนด้านทองคำในประเภทต่างๆด้วย
ส่วนการเตรียมความพร้อมทางธุรกิจ เพื่อรองรับการเปิดเสรีหลักทรัพย์ที่จะเกิดขึ้นในปลายปีนี้ นายบุญเลิศ กล่าวว่า บริษัทยังไม่มีแนวคิดให้บริษัทต่างชาติเข้ามาร่วมลงทุนกับบริษัท แต่ยอมรับว่ามีความสนใจที่จะหาพาร์ทเนอร์จากประเทศเข้ามาร่วมลงทุนด้วยเช่นกัน แต่เป็นการแลกเปลี่ยนทางความชำนาญมากกว่า
ขณะที่ ภาพรวมราคาทองในช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้ โดยรวมเชื่อว่าราคาทองคำน่าจะยังอยู่ในช่วงพักฐานเนื่องจากก่อนหน้านี้ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 5 เดือนติดต่อกันซึ่งถือว่าขึ้นมาค่อนข้างมากและสูงเกินกว่าที่นักลงทุนได้คาดการณ์ไว้
ด้าน นายสัญญา หาญพัฒนกิจพานิช ผู้ช่วยผู้อำนวยการทีมพัฒนาธุรกิจตลาดอนุพันธ์ บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า การจัดตั้ง โกลด์ อีทีเอฟ ออกมาอีกหนึ่งสินค้า จะช่วยเพิ่มทางเลือกในการลงทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ นอกจากนี้ เรื่องดังกล่าวเป็นประโยชน์ต่อนักลงทุนมากขึ้น เพราะทุกวันนี้ บลจ. ที่ตั้งกองทุนทองคำ จะต้องเสีย ค่าฟีถึง 2 ต่อ ในการนำเงินไปร่วมลงทุนในกองทุนทองคำต่างประเทศหรือเสียค่าฟีเพราะใช้ข้อมูลของกองทุนในต่างประเทศมาคำนวณหน่วยลงทุนของกองทุนตัวเอง ซึ่งเมื่อมีการจัดตั้งอีทีเทฟ ทองคำในประเทศได้ เชื่อว่าจะมีหลายกองทุนหันมาใช้อีทีเอฟในประเทศมากกว่า ซึ่งจะประหยัดต้นทุนในการบริหาร และเพิ่มส่วนต่างในการลงทุนที่อาจทำให้ผลตอบแทนจากการลงทุนมีเพิ่มขึ้นตามไปด้วยในเรื่องนี้
ก่อนหน้านี้ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ทีมพัฒนาธุรกิจตลาดอนุพันธ์ บล.โกลเบล็ก ให้ความเห็น ว่าประโยชน์ที่เห็นได้ชัดเจนหากมีการจัดตั้งอีทีเอฟทองคำ สำหรับนักลงทุนคือส่วนต่างที่น่าจะเกิดจากต้นทุนค่าธรรมเนียมที่ลดลง อีกทั้งในเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยนก็จะลดความซับซ้อนในการลงทุนลงด้วย
เนื่องจากทุกวันนี้กองทุนทองคำที่จัดตั้งในไทยเงินที่ลงทุนจะเป็นเงินบาท และเมื่อต้องนำเงินเข้าไปลงทุนในกองทุนต่างประเทศ ย่อมต้องมีการแปลงค่าเงิน บางกองทุนอาจมีการทำเฮดจิ้ง หรือบางกองทุนอาจไม่มี แต่เมื่อสามารถใช้อีทีเอฟทองคำในประเทศได้ มองว่าการซื้อขายหรือการลงทุนด้วยสกุลเงินบาทเพียงอย่างเดียว น่าจะสะดวกและง่ายกว่า
