xs
xsm
sm
md
lg

GBXคาดยอดขายปีนี้1.2หมื่นล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายภาคภูมิ ภาคย์วิศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ จำกัด(มหาชน) หรือ GBX เปิดเผยว่า ทิศทางการดำเนินธุรกิจของ บริษัท โกลเบล็ก โฮลดิ้งฯ ในปี 54 จะเน้นการขยายสินค้า และการให้บริการใหม่ๆแก่ลูกค้า พร้อมทั้งพัฒนาบริการต่างๆที่มีอยู่ในปัจจุบันให้ดีขึ้น ควบคู่ไปกับการขยายฐานลูกค้า และการกระตุ้นยอดขายสินค้าทองคำแท่ง ซึ่งเป็นสินค้าหลักของทางบริษัทฯ และบริษัทจะร่วมมือกับทาง บล.โกลเบล็ก ซึ่งปัจจุบันบริษัทได้มีการCross Selling ผลิตภัณฑ์ทางการลงทุนร่วมกัน อาทิ Gold Futures , Silver Futures ฯลฯ รวมถึงการแชร์ฐานลูกค้าร่วมกัน เพื่อประโยชน์ด้านการลงทุนที่ครบวงจรแก่ลูกค้าในเครือ โกลเบล็ก กรุ๊ป
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้ายอดขายโกลเบล็ก โฮลดิ้ง ขั้นต่ำไว้ประมาณ 12,000 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 30% จากปี 53 ที่มียอดขาย 9,000 ล้านบาท โดยมีการขยายฐานลูกค้าขึ้นมาอยู่ขั้นต่ำที่ 2,300 คนจากปัจจุบันที่มี 1,800 คน โดยบริษัทฯจะใช้กลยุทธ์การขยายฐานลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มนักลงทุนทั่วไป และกลุ่มร้านค้าปลีกทองคำ รวมถึงการออกสินค้าใหม่ๆที่มีความแตกต่างจากคู่แข่ง, การพัฒนาบริการและการออกแคมเปญ เพื่อกระตุ้นยอดขาย, การพัฒนาบทวิเคราะห์ราคาทองคำให้มีความแม่นยำ และการบริหารต้นทุนสินค้า เพื่อรักษาอัตรามาร์จิ้น การขายให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
" ปีนี้บริษัทฯมีแผนที่จะออกแคมเปญต่างๆ ร่วมกัน อาทิ การทำ Co-Promotion โดยขณะนี้เรามีการแจกทองคำเป็นของที่ระลึกสำหรับลูกค้าที่มีการทำ Arbitrage ระหว่างทองคำแท่ง และ Gold Futures ผ่านทางโกลเบล็ก ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ จากการที่อียิปต์มีปัญหานั้นจะทำให้ราคาทองคำในระยะสั้นคาดว่าจะขึ้นมาอีก 20-25 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ ทำให้ในช่วงต้นปีนี้ราคาทองคำจะอยู่ที่ 1,400-1,450 เหรียญสหรัฐต่ออนซ์และคาดว่าสันปีราคาทองคำจะอยู่ที่ 1,600-1,650 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ " นายภาคภูมิ กล่าว
นายชนะชัย จุลจิราภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด (GBS) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ารายได้ปีนี้จะอยู่ที่765.63 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ 527.56 ล้านบาท หรือคิดเป็น 69% รายได้จากนายหน้าอนุพันธ์ 79.52 ล้านบาท หรือ 10% รายได้จากดอกเบี้ยบัญชีมาร์จิ้น 30.25 ล้านบาท คิดเป็น 4% รายได้จากวาณิชธนกิจ 7.30 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1% และรายได้จากกำไรค่าตราสารทุนและอนุพันธ์ 120 ล้านบาท หรือคิดเป็น 16%
ทั้งนี้ จากการที่นักลงทุนต่างประเทศมีการขายหุ้นไทยออกไป จากการที่ไทยมีปัจจัยทางการเมืองที่จะมีการเลือกตั้งใหม่ทำให้ยังไม่ทราบทิศทางว่าพรรคการเมืองเดิมจะกลับมาเป็นรัฐบาลต่อหรือไม่ทำให้ก่อนเลือกตั้งตลาดหุ้นไทยจะเป็นลักษณะเก็งกำไร โดยบริษัทคาดว่ามูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยที่ 29,000 ล้านบาทต่อวัน ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาดอนุพันธ์อยู่ที่ 22,000 สัญญาต่อวัน โดยบริษัทคาดส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เก็ตแชร์)หุ้นอยู่ที่ 4.76% จากทีบริษัทมีแผนที่จะเพิ่มบัญชีซื้อขายเป็น 14,000 บัญชี จากปัจจุบันที่ 11,567 บัญชี และคาดว่าส่วนแบ่งการตลาดอนุพันธ์ปีนี้อยู่ที่ 13% ซึ่งจะเพิ่มบัญชีลุกค้าเป็น 2,500 ราย จากปัจจุบันที่มี 1,900 ราย
กำลังโหลดความคิดเห็น