xs
xsm
sm
md
lg

“กอร์ปศักดิ์”ทวิต ยุบสภาเดือน8 “เผาไทย”วางตัว 20 ขุนพลซักฟอก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้(2 ก.พ.)นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ตนยังไม่ได้รับการประสานจากพรรคฝ่ายค้านในการจะยื่นเรื่องอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลและยังไม่ทราบกำหนดการยื่นว่าจะเป็นวันที่ 11 กุมภาพันธ์ หรือไม่ แต่หากทางพรรคเพื่อไทยมีการยื่นเรื่องดังกล่าวมา ทางรัฐสภาก็จะมีการตรวจสอบภายใน 7 วัน
ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยมีมติส่งนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย เป็นผู้นำการอภิปรายนั้น พร้อมทั้งแนบชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น นายชัย กล่าวว่า เป็นเรื่องที่พรรคเพื่อไทยสามารถทำได้ แต่ส่วนตัวตนยังไม่เห็นฝีมือของนายมิ่งขวัญ

**“เทือกเชื่อ “โดเรมิ่ง”มีศักยภาพ
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตีด้านความมั่นคง ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์กรณีที่พรรคเพื่อไทยมีมติให้นายมิ่งขวัญ เป็นผู้นำการอภิปรายในการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า การยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านเป็นความสวยงามอย่างหนึ่งของระบอบประชาธิปไตย
ส่วนศักยภาพของผู้นำในการอภิปรายฯนั้น เมื่อคนเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้รับการยอมรับจากสมาชิกให้มาเป็นผู้นำในการอภิปรายฯก็ต้องเชื่อกันว่าเป็นผุ้ที่มีฝีไม้ลายมือ เป็นที่ยอมรับ ส่วนลีลาก็ต้องแล้วแต่
นายสุเทพ กล่าวว่า รัฐบาลไม่รีบยุบสภาหรอกเพราะยังมีสิ่งที่จะต้องดำเนินการให้ครบตามปัจจัยที่นายกฯบอกไว้
ส่วนที่นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง บอกว่าอาจอยู่ไม่ถึงการทำงบประมาณปี 2555 เห็นว่า ทตอนนี้ใครพูดอะไรก็ถูกทั้งหมดก็ได้ หรือจะผิดทั้งหมดก็ได้เพราะเป็นเรื่องข้างหน้า สำหรับตนไม่มองว่าช่วงไหนเหมาะกับการเลือกตั้งเพราะทุกอย่างทำตามที่นายกฯประกาศ
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากการแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านแล้ว แต่กลุ่มผู้ชุมนุมยังอยู่ ก็ยังถือว่าอยู่ในเงื่อนไขที่ยังไม่สามารถยุบสภาได้ใช่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ก็ยอมรับว่ายังเป็นเงื่อนไขที่จะต้องหาทางให้จบโดยเร็ว แต่ตนก็ยังไม่คิดว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะอยู่กันนานขนาดนั้น

**เสี้ยมเป็ดเฉลิมแยกตัวเพื่อไทย
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะโฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า อยากที่จะเสนอให้พรรคเพื่อไทยมอบให้นายมิ่งขวัญเป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรในคราวเดียวกันนี้ด้วย เนื่องจากที่ผ่านมา 2 ปีเศษ สภาผู้แทนราษฎรขาดผู้นำฝ่ายค้าน ทำให้คณะกรรมการหลายๆชุดที่มีผู้ฝ่ายค้านเป็นองค์ประกอบไม่สามารถทำงานได้
“มีความรู้สึกสงสาร ร.ต.อ.เฉลิม ที่ถูกมัดมือชกโดย ส.ส.พรรคเพื่อไทยให้ออกมานั่งแถลงข่าวในสภาพน้ำตาตกใน เมื่อเป็นเช่นนี้จึงเชื่อว่า ร.ต.อ.เฉลิมจะไม่ร่วมการอภิปรายในครั้งนี้ อยากถามไปถึงนายมิ่งขวัญว่าหากไม่มี ร.ต.อ.เฉลิมร่วมในทีมอภิปราย ไม่ทราบว่า ส.ส.ฮาร์ดคอร์คนอื่นๆ อาทิ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายประชา ประสพดี นายสุนัย จุลพงศธร หรือนายสุชาติ ลายน้ำเงิน จะได้ร่วมอภิปรายหรือไม่ เชื่อว่าคอการเมืองและประชาชน อยากเห็น ร.ต.อ.เฉลิมร่วมอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย”
อย่างไรก็ตามในฐานะที่เป็นนักการเมืองและเป็นผู้ติดตามการเมืองเห็นว่า ร.ต.อ.เฉลิมไม่ควรต้องรอให้ครบ 3 เดือน ตามที่ได้กำหนดเวลาให้พรรคเพื่อไทยทำการปรับปรุงภายใน เนื่องจาก ร.ต.อ.เฉลิมเป็นนักการเมืองอาวุโส ถือเป็นดาวฤกษ์ที่ไม่ต้องคอยพึ่งดาวเคราะห์หรือพวกนกแล และไม่ต้องหวังพึ่งชามข้าวที่มีแต่ข่าวบูด รอเพียงนายใหญ่มาเติมข้าวให้ แถมนายใหญ่ยังเห็นพวกนักรบห้องแอร์ดีกว่า ร.ต.อ.เฉลิมอีกต่างหาก ดังนั้นตนจึงคิดว่า ร.ต.อ.เฉลิมควรประกาศการตั้งพรรคการเมืองใหม่ ที่เคยประกาศร่วมนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ และนายนิติภูมิ นวรัตน์ ถือเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับเกียรติศักดิ์ศรีนักการเมืองอาวุโสของ ร.ต.อ.เฉลิม

**พรรคร่วมไม่มีปัญหาซักฟอกได้
นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ตนอยากให้รัฐบาลเปิดกว้างเพื่อฝ่ายค้านจะได้ตรวจสอบและทำหน้าที่อย่างเต็มที่ และไม่มีข้อจำกัด ซึ่งรัฐบาลก็ต้องไม่ประมาททางด้านข้อมูล ที่ควรมีพร้อมชี้แจง ซึ่งประเด็นที่พรรคเพื่อไทยมอบหมายให้นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย เป็นผู้นำในการอภิปรายนั้น ตนหวังว่า นายมิ่งขวัญจะทำให้เกิดการอภิปรายในรูปแบบใหม่ ที่ต่อสู้กันด้วยเหตุผล ไม่ใช่วาจาและอารมณ์ที่ไม่สุภาพ
นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย และส.ส.นครราชสีมา พรรคภูมิใจไทยกล่าวว่า คาดว่าไม่มีปัญหา ขอให้พรรคเพื่อไทยยื่นญัตติเข้ามา หากพรรคภูมิใจไทยถูกอภิปรายในประเด็นใดก็พร้อมตอบ ส่วนที่หลายฝ่ายเกรงว่ากรณีนายมิ่งขวัญ เป็นผู้นำอภิปรายอาจเกี่ยวกับกับกระทรวงเศรษฐกิจเช่น พานิชย์จะถูกชำแหละมากที่สุดนั้นก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

**“วิทยา”เผย ส.ส.พท.ต้องการ“เหลิม”
ซีกฝ่ายค้าน นายวิทยา บูรณศิริ ประธานวิปฝ่านค้าน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยได้ให้นายมิ่งขวัญเป็นผู้กำหนดรูปแบบในการอภิปราย ผู้อภิปราย และรายละเอียดในประเด็นที่จะนำไปอภิปรายทั้งหมด
กรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม ที่จะไม่ร่วมการอภิปรายไคงต้องรอการตัดสินใจในอนาคต แต่สมาชิกทุกคนของพรรคเพื่อไทยยังต้องการให้ ร.ต.อ.เฉลิม ร่วมในการอภิปรายครั้งนี้ ต่ตนยืนยันว่า ร.ต.อ.เฉลิม ยังคงให้การสนับสนุนการอภิปราย ซึ่งอาจจะไม่ได้เป็นผู้อภิปราย แต่ก็คงจะอยู่ในฝ่ายให้ข้อมูล ก็เป็นเพียงแค่การสลับหน้าที่กันเท่านั้น
นายวิทยา กล่าว่วา ส่วนเงื่อนเวลาว่าจะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายเมื่อไหร่นั้นขึ้นอยู่กับเนื้อหาที่จะใช้ในการอภิปรายทั้งหมดด้วยว่าสามารถจะนำไปสู่กระบวนการตรวจสอบเชิงลึกได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งหากมีการอภิปรายภายในเดือนกุมภาพันธ์ก็มองว่าเหมาะสม เพราะขณะนี้ก็มีอยู่หลายเรื่องแล้ว

**โคเรมิ่งเรียกถกนัดแรก
เมื่อเวลา 15.00 น.ที่ห้องทำงานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน นายมิ่งขวัญ ได้เรียกประชุมส.ส.และทีมงานเตรียมข้อมูลการอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นครั้งแรก โดยมีส.ส.ที่ใกล้ชิดเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง ขณะที่ร.ต.อ.เฉลิม ไม่เข้ามาเกี่ยวข้องกับการประชุม ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่านายวิทยา และนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส.แพร่ ก็ไม่ได้เข้าร่วมการประชุมด้วย แต่ได้แวะเวียนไปคุยกับร.ต.อ.เฉลิมแทน

**วางตัว 20 ขุนพลฝีปากกล้า
นายมิ่งขวัญ แถลงก่อนการประชุมว่า จะใช้ส.ส.ประมาณ 20 คน โดยให้เวลาแต่ละคนอภิปรายค่อนข้างมาก เพื่อที่จะชี้ให้ประชาชนเห็นถึงเนื้อหาสาระจริงๆ และผู้อภิปรายแต่ละคนจะมีผู้ช่วยเตรียมข้อมูลให้ 3-5 คนด้วย สำหรับกรอบการอภิปรายนั้นจะมีทั้งเศรษฐกิจ การเมือง สังคม ปัญหาความมั่นคง ความยุติธรรม ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ตลอดจนการทุจริตต่างๆ ส่วนกำหนดวันยื่นญัตตินั้นขอรอดูสถานการณ์ทางการเมืองก่อน ขณะนี้ยังมีเวลา และจะอภิปรายใครบ้างนั้นเป็นเรื่องที่จะต้องหารือกัน แต่เบื้องต้นจะมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีเป็นหลัก ทั้งนี้ การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ตนมีความมั่นใจ สำหรับกรณีของร.ต.อ.เฉลิมนั้นตนได้เรียนเชิญให้มาร่วมอภิปรายในครั้งนี้ด้วยแล้วแต่ท่านขอเวลาสักพัก เชื่อว่าเดี๋ยวท่านก็คงจะตอบกลับมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแถลงข่าวครั้งนี้เป็นการแถลงอย่างเป็นทางการครั้งแรกของนายมิ่งขวัญ ก่อนการแถลงข่าวนายมิ่งขวัญได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ปิดประตูห้องประชุมและปิดเสียงถ่ายทอดสดการประชุมสภาฯ โดยระบุว่า “ต้องการสมาธิ เพราะผมเป็นมือใหม่” และในระหว่างที่ตอบคำถามสื่อมวลชนนั้น เมื่อซักถามไปได้พักหนึ่งนายมิ่งขวัญก็พยายามตัดบทแกมบังคับให้สื่อมวลชนยุติการซักถาม โดยอ้างว่าจะเริ่มการประชุมแล้ว

**เด็กเหนือหนุนโดเรมิ่ง
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา พรรคเพื่อไทย(พท.) กล่าวว่า สส.ในพรรคกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ให้การยอมรับนายมิ่งขวัญ มาเป็นหัวหน้าพรรค เนื่องจากนายมิ่งขวัญเป็นบุคคลที่มีบุคลิกประนีประนอม เชื่อว่าจะช่วยทำให้สังคมไทยที่มีความขัดแย้งให้คลี่คลายได้ และยังเป็นผู้ที่มีความรู้และความสามารถด้านเศรษฐกิจ ส่วนกรณีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาเป็นหัวหน้าพรรค นั้น ไม่ทราบว่าใครเป็นผู้จุดประเด็น แต่ได้สอบถามนางเยาวเรศ ชินวัตร พี่สาวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้รับการยืนยันปฏิเสธว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะไม่เป็นหัวหน้าพรรค

**แนะกล่อม“เป็ดหลิม”เรียกเรตติ้ง
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขณะนี้มีผลสำรวจออกมาว่าประชาชนอยากฟังร.ต.อ.เฉลิม อภิปรายมากที่สุด เรียกว่าเรตติ้งกระฉูดมากกว่าละครช่อง 3 จึงอยากขอให้ท่านมาช่วยทำให้รัฐบาลมีแผลเหวอะหวะมากที่สุด ส่วนตัวคิดว่านายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้นำการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ ทำทุกวิถีทางเพื่อเชิญร.ต.อ.เฉลิมมาร่วมอภิปรายให้ได้ นี่คือบททดสอบด่านแรก ที่จะพิสูจน์ฝีมือภาวะผู้นำของนายมิ่งขวัญ

**“เสธ.หนั่น”ขำเพื่อไทยให้นั่งนายกฯ
พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ถูกพรรคเพื่อไทย เสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี แนบท้ายญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า ขอบคุณที่ไม่ทำให้ชื่อตนหายไป แต่ในข้อเท็จจริง ทางเพื่อไทยก็มีการพูดเรื่องนี้กันในพรรค แต่ไม่มีการติดต่อมายังตน เพราะตอนนี้มีการเสนอชื่อนายมิ่งขวัญ เป็นนายกรัฐมนตรี แนบท้ายญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าข่าวที่ออกมา ไม่ทำให้พรรคร่วมรัฐบาลเกิดความระแวงใจ ใครหูเบาก็แย่แล้ว อีกทั้งนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้า ชทพ.ก็ไม่ได้สอบถามเรื่องนี้

**รับคุย“ประดิษฐ์”ตั้งพรรคใหม่
พล.ต.สนั่น กล่าวถึงข่าวจะจับมือตั้งพรรคการเมืองใหม่ร่วมกับนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ แกนนำพรรครวมชาติพัฒนา(รช.) ในการเลือกตั้งสมัยหน้า เพื่อเสนอตัวเป็นนายกฯ คนกลางว่า “จะให้เป็นนายกฯอยู่เรื่อย แต่ไม่เห็นได้เป็นสักที แต่ก็มีการพูดคุยกับนายประดิษฐ์ตลอดในเรื่องพื้นที่ เพราะการเลือกตั้งสมัยหน้า ส.ส.พิจิตร จะหายไป 1 คน ส่วนอนาคตจะเป็นอย่างไรนั้น ไม่มีใครรู้ และคงต้องดูกันไปเรื่อยๆ ยังไม่มีการคุยกัน แต่ถ้ารวมกันเป็นพรรคเดียวได้ มันก็ดี"

**จะโหวตสวนรัฐวาระ 3
พล.ต.สนั่น กล่าวถึงการโหวตแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 3 ว่า ไม่มีปัญหา คงผ่านไปได้ แต่ยืนยันว่าตนจะยืนยันในสูตร 400+100 เพราะได้ยืนยันมาตั้งแต่ชั้นกรรมาธิการแล้ว จะเปลี่ยนไม่ได้ ส่วนที่มีข่าวว่าจะลาออกจาก ชทพ.และพรรคร่วมรัฐบาล หากสูตร 400+100 ไม่ผ่านนั้น ยืนยันว่า ไม่ลาออก จะทำงานร่วมกับ ชทพ.ต่อไป
เมื่อถามว่า หากการแก้รัฐธรรมนูญวาระ 3 ผ่านแล้ว เป็นเวลาเหมาะสมที่รัฐบาลยุบสภาทันทีหรือไม่ พล.ต.สนั่นกล่าวว่า ก็ทำได้ แต่ต้องรอให้อภิปรายไม่ไว้วางใจก่อน ไม่จำเป็นต้องรอให้งบประมาณกลางปีผ่านก่อน สุดท้ายขึ้นอยู่กับนายกฯจะยุบสภาเมื่อใด แและดูแล้วคงอยากเป็นสองสมัย ในส่วน ชทพ.มีความพร้อมในการเลือกตั้งเสมอ

**โคราชเพื่อไทยปัดซบ“เนวิน”
พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าว กลุ่ม ส.ส. โคราช พรรคเพื่อไทย เตรียมย้ายไปอยู่กับพรรคภูมิใจไทย ว่า ไม่เป็นความจริง เพราะที่ผ่านมา ยังไม่มีแกนนำพรรคภูมิใจไทย มาพูดคุยกับตนเลย แต่จะคุยกับคนอื่นหรือไม่ ตนไม่ทราบ ยืนยันว่าจะยังอยู่กับพรรคเพื่อไทยต่อไป แต่เรื่องในอนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน ถ้ามีอะไรเปลี่ยนแปลง จะต้องมาคุยกันในกลุ่ม ส.ส.โคราช
ส่วนตัวรู้จักกับนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทยดี ถ้านายเนวิน โทร. มาอาจจะรับสาย ส่วนการไปร่วมงานกับพรรครวมชาติพัฒนาของนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ยังตอบไม่ได้ ต้องไปหารือกันอีกครั้ง

**กอร์ปศักดิ์ทวิตยุบสภาเดือน8
นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และนโยบายเพื่อการเลือกตั้งของพรรคประชาธิปัตย์ เขียนข้อความลงในทวิตเตอร์ส่วนตัวระบุความเป็นไปได้ในการยุบสภาของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ว่า ไม่น่าจะเกินกลางปี
“ของผมงานเพียบ ต้องลุยลูกเดียว กลัวยุบสภาเร็ว เมษาฯใช่มั้ย เดายาก ไม่น่าเกินกลางปีนะ...ถ้าเดือน 8 นี่เค้ายังนับว่ากลางปีไหมครับ” นายกอร์ปศักดิ์ระบุ

**ชายลึกลับโทรขู่บึ้ม”มาตุภูมิ”
เวลา 14.00 น.ชายลึกลับได้โทรศัพท์ไปยังประชาสัมพันธ์อาคารเบญจมาศ ซึ่งอาคารดังกล่าวเป็นอาคารให้เช่า โดยชั้น 5 เป็นที่ทำการของพรรคมาตุภูมิ และชั้นบนเป็นสำนักงานข่าวกรอง อ้างว่า ในวันพฤหัสบดีที่ 3 ก.พ.จะมาวางระเบิดพรรคมาตุภูมิ
พล.ต.อ.ชยุต มารยาทตร์ ผกก.สน.สามเสน เปิดเผยว่า ความจริงเรื่องนี้ได้มีการแจ้งความมาหลายครั้ง ซึ่งก็สอบสวนไปตามขั้นตอน โดยเบื้องต้นทราบว่าอาคารเบญจมาศมีปัญหาเรื่องของลูกจ้างกับเจ้าของอาคาร ส่วนกรณีพรรคมาตุภูมิไม่น่าจะเกี่ยวข้อง คงเป็นข้ออ้างมากกว่า อย่างไรก็ตามจะส่งเจ้าหน้าที่ไปดูแลวันที่ 3 ก.พ.ก่อนเวลาที่ถูกขู่
กำลังโหลดความคิดเห็น