และแล้วร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 93-98 ว่าด้วยระบบเขตเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ก็ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา ในวาระที่ 2 ด้วยสูตร 375+125 ตามที่ครม.เป็นผู้เสนอ ท่ามกลางความขัดแย้งก่อนหน้านี้ที่ยื้อยุดกันอยู่พักใหญ่ ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลที่ยืนกรานตามสูตร 400+100 ในขณะที่พรรคประชาธิปัตย์หนุนสูตร 375+125
ก็ไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลกลใด หรือมีอะไรเข้าไปในปาก ถึงทำให้พรรคร่วมรัฐบาลพลิกจากหน้ามือเป็นหลังเท้า เสียงอ่อนระทวยยอมตามพรรคประชาธิปัตย์ในช่วงโค้งสุดท้าย โดยพรรคภูมิใจไทยพลิกมติก่อนใครเพื่อน สมาชิกพรรคตบเท้าออกมาพูดเหมือนกันเป๊ะ ตัดสินใจชูจั๊กกะแร้เอาด้วยกับสูตร 375+125 ที่พรรคประชาธิปัตย์รังสรรค์มา
มีข่าวกระเซ็นกระสายออกมาว่า มีการไปปิดห้องบริโภคอาหารมื้อการเมืองระหว่าง 3 แกนนำพรรคร่วมรัฐบาล สุเทพ เทือกสุบรรณ เนวิน ชิดชอบ บรรหาร ศิลปอาชา กางดีลข้อตกลงลับบางอย่าง จนตกลงปลงใจยอมตามข้อเสนอของพรรคประชาธิปัตย์
แต่พรรคชาติไทยพัฒนา ที่มีนายบรรหาร ยืนเป็นเงาทะมึนอยู่เบื้องหลัง ยังติดปัญหาไม่สามารถมีมติได้ฉับพลันทันที เพราะได้ส่งหัวหอกเข้าไปทะลวงฟัน กระแทกจุดยืนสูตร 400+100 ชนิดก๋ากั่น ในชั้นกรรมาธิการ นำโดยพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ชาละวันเฒ่าลายครามซือแป๋การเมือง ตามด้วย ภราดร ปริศนานันทกุล ทายาทไฟลุกโชน ของ สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา
หากกลับลำ 360 องศาทันทีมันคงดูตลก ไร้เชิงไปหน่อย จึงเป็นพรรคสุดท้ายที่มีพลิกมติในช่วงบ่ายของวันที่ 25 มกราคม ที่มีการพิจารณาในวาระที่ 2 วันนั้นเลย เรียกว่าเช้าอย่าง เย็นอย่าง
จนพรรคเพื่อไทยที่ได้รับการประสานจากพรรคชาติไทยพัฒนาให้ร่วมด้วยช่วยกันหนุนสูตร 400+100 ต้องออกมาแฉดังๆ ถึงจุดยืนที่เปลี่ยนไปในวันเดียวของชาติไทยพัฒนา
คนที่เสียหน้าระคนเจ็บปวดที่สุดคงหนีไม่พ้นหัวหมู่ทะลวงฟันอย่างพล.ต.สนั่น ที่ต้องโดนพรรคต้นสังกัดหักหลังกลางอากาศ ต้องยอมกลืนเลือดนิ่งสงบอยู่ในถ้ำชาละวัน โดยมีข่าวว่าบรรหารต้องหอบสังขารไปขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่
การกลับลำของพรรคชาติไทยพัฒนาครั้งนี้ถือเป็นตลกร้าย ยิ่งวัชระ กรรณิการ์ โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา แก้ตัวว่า “แม้ว่าสมาชิกของพรรคจะสนับสนุน 375+125 แต่เรายังเชื่อเหมือนเดิมว่า 400+100 เหมาะสมที่สุดกับสถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน แต่เมื่อเสียงส่วนใหญ่สนับสนุน 375+125 ก็พร้อมปฏิบัติตามเสียงส่วนใหญ่ของพรรคร่วมรัฐบาล และรัฐสภา”มันก็ยิ่งทะแม่งๆชอบกล??
ทั้งยังออกตัวด้วยว่า นายบรรหารและพล.ต.สนั่น ไม่ต้องพูดอะไรมาก ทั้ง 2 ท่านยังปกติ ไม่มีรอยแยก นายบรรหารเข้าใจพล.ต.สนั่นดี เรื่องนี้เล็กมาก..
แต่ในแวดวงการเมืองแล้วมองว่า เรื่องนี้หนักหนามาก หลอกเด็กไม่เท่าไหร่ นี่หลอกคนแก่!!
การที่พล.ต.สนั่นอาสารับบทบาท เดินหน้าลุยด้วยตัวเองครั้งนี้ นินทากันว่า ส่วนหนึ่งเขาไม่ต้องการให้สูตร 375+125 ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา เนื่องจากมันจะไปลดจำนวนส.ส.ในจังหวัดพิจิตรจาก 4 เหลือ 3 คน
จำนวนเสียงเพียง 1 ถึงดูจะน้อย แต่ทุกเก้าอี้มีความสำคัญสำหรับคนที่มีความคิดที่จะไปตั้งพรรคการเมืองใหม่ ขนาดย่อมๆ มีส.ส.สักหลักสิบ โดยมีจังหวัดบ้านเกิดเป็นฐานหลัก
หากตั้งพรรคการเมืองทางสายกลางที่สามารถพลิกสวิงข้างไปทางไหนก็ได้ ย่อมการันตีได้ถึงการเป็นพรรครัฐบาล ในสถานการณ์การเมืองที่ไม่ปกติเช่นนี้ ดีไม่ดีอาจจับพลัดจับผลูถูกอัญเชิญไปเป็นนายกรัฐมนตรีก็ได้ เพราะด้วยบุคลิก ฝีไม้ลายมืออย่างพล.ต.สนั่นนั้น สามารถเป็นนายกฯได้ ในยามที่บ้านเมือง ต้องการนักการเมืองอาชีพเข้ามาบริหารจัดการความขัดแย้ง
พล.ต.สนั่นถือเป็นตัวเลือกหนึ่งที่เหมาะสม ที่จะประสานรอยร้าวจากทุกกลุ่มทุกขั้วได้!!
ก่อนหน้านี้พล.ต.สนั่นก็เคยอาสาตัวเองรับหน้าที่มือประสานสิบทิศพิชิตรอยแตกร้าว ด้วยการเดินสายพบทุกคนทุกฝ่าย ล่าฝันประเทศไทยสมานฉันท์ปรองดอง ด้วยความหวังลึกๆที่จะสามารถก้าวสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจากผลงานชิ้นโบว์แดง หากปฏิบัติการดังกล่าวสำเร็จลุล่วง
แน่นอนว่า ถ้ามันสำเร็จ ประเทศไทยคืนสู่ภาวะปกติสุขได้จริง เครดิตอันใหญ่หลวงต้องพุ่งเข้าตัวแน่นอน เสียงแซ่ซ้องสรรเสริญจะประดังมาทั่วสารทิศทิศ ไม่ใครก็ใครบางคนคงต้องเสนอให้เป็นนายกรัฐมนตรีผสานความปรองดองต่อเนื่องไปอีกระยะชัวร์ป้าบ
แต่แผนการนี้ก็ซาลงไป หลังจากหมากที่วางไว้ พลิกเพี้ยนไป พรรคประชาธิปัตย์ไม่ถูกยุบพรรค รัฐบาลยังเป็นปึกแผ่นแน่นหนากันอยู่ ที่คิดว่าจะทะลุกลางกระดานโผล่พรวดขึ้นมาท่ามกลางความสับสนอลหม่านในวงการเมืองก็มีอันต้องพังพาบไป
ความคิดอ่านที่จะทำการเมืองในบั้นปลาย โดยมีฐาน มีพลังในมือ ยังคงมีอยู่ในใจ ด้วยความที่พรรคเพื่อไทย พรรคใหญ่ยักษ์การเมืองอีกขั้ว ยังคงให้เครดิต หยิบยกชื่อมาพูดถึงอยู่เนืองๆ พร้อมออกตัวเชิดชูให้เป็นนายกรัฐมนตรีในภาวะขัดแย้ง
เพราะลำพังพรรคเพื่อไทยเอง จะชูใครขึ้นมายิ่งใหญ่เอง ก็จะมีกระบวนการตัดหัวคั่วแห้ง ให้พังทลายไปชนิด 100 ตีนถีบ ฉะนั้นการยืมมือคนกลางขึ้นมาชั่วคราว เพื่อลดดีกรีความหมั่นไส้ ย่อมเป็นทางเลือกที่ไม่เลวเลย
พล.ต.สนั่นที่อ่านหมากการเมืองทะลุ 2 ชั้น 3 ชั้น ย่อมรู้ถึงเรื่องนี้ดีอยู่แล้ว จึงพยายามผลักดันตัวเองให้มีบทบาท ให้มีฐานการเมือง แล้ววันหนึ่งก็ไปตั้งพรรคการเมืองสายกลางขนาดย่อม พรรคเพื่อไทยอาจจำเป็นต้องเรียกใช้บริการ ตามเงื่อนไขดังกล่าว แม้จะชนะการเลือกตั้งได้เสียงมาเป็นอันดับ 1 ก็ตาม
แต่วันนี้พญาชาละวัน ต้องมาโดนพญามังกรเฒ่าเตี้ย หักเหลี่ยมเฉือนคม จนเสียรังวัดไปหลายกิโลขีด กลายร่างเป็นจระเข้น้อยไปแล้ว
ต้องกลืนเลือดเฝื่อนปาก คงต้องไปนอนคิดอ่านในเร็ววันแล้วว่า จะวางหมาก วางบทบาทตัวเองอย่างไร เพื่อพลิกเกมจากบทบาทลูกไล่ โดนกระทำชำเรา มาเป็นผู้ถือไพ่เหนือกว่า ป๊อกเด้งคูณสอง!!
ก็ไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลกลใด หรือมีอะไรเข้าไปในปาก ถึงทำให้พรรคร่วมรัฐบาลพลิกจากหน้ามือเป็นหลังเท้า เสียงอ่อนระทวยยอมตามพรรคประชาธิปัตย์ในช่วงโค้งสุดท้าย โดยพรรคภูมิใจไทยพลิกมติก่อนใครเพื่อน สมาชิกพรรคตบเท้าออกมาพูดเหมือนกันเป๊ะ ตัดสินใจชูจั๊กกะแร้เอาด้วยกับสูตร 375+125 ที่พรรคประชาธิปัตย์รังสรรค์มา
มีข่าวกระเซ็นกระสายออกมาว่า มีการไปปิดห้องบริโภคอาหารมื้อการเมืองระหว่าง 3 แกนนำพรรคร่วมรัฐบาล สุเทพ เทือกสุบรรณ เนวิน ชิดชอบ บรรหาร ศิลปอาชา กางดีลข้อตกลงลับบางอย่าง จนตกลงปลงใจยอมตามข้อเสนอของพรรคประชาธิปัตย์
แต่พรรคชาติไทยพัฒนา ที่มีนายบรรหาร ยืนเป็นเงาทะมึนอยู่เบื้องหลัง ยังติดปัญหาไม่สามารถมีมติได้ฉับพลันทันที เพราะได้ส่งหัวหอกเข้าไปทะลวงฟัน กระแทกจุดยืนสูตร 400+100 ชนิดก๋ากั่น ในชั้นกรรมาธิการ นำโดยพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ชาละวันเฒ่าลายครามซือแป๋การเมือง ตามด้วย ภราดร ปริศนานันทกุล ทายาทไฟลุกโชน ของ สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา
หากกลับลำ 360 องศาทันทีมันคงดูตลก ไร้เชิงไปหน่อย จึงเป็นพรรคสุดท้ายที่มีพลิกมติในช่วงบ่ายของวันที่ 25 มกราคม ที่มีการพิจารณาในวาระที่ 2 วันนั้นเลย เรียกว่าเช้าอย่าง เย็นอย่าง
จนพรรคเพื่อไทยที่ได้รับการประสานจากพรรคชาติไทยพัฒนาให้ร่วมด้วยช่วยกันหนุนสูตร 400+100 ต้องออกมาแฉดังๆ ถึงจุดยืนที่เปลี่ยนไปในวันเดียวของชาติไทยพัฒนา
คนที่เสียหน้าระคนเจ็บปวดที่สุดคงหนีไม่พ้นหัวหมู่ทะลวงฟันอย่างพล.ต.สนั่น ที่ต้องโดนพรรคต้นสังกัดหักหลังกลางอากาศ ต้องยอมกลืนเลือดนิ่งสงบอยู่ในถ้ำชาละวัน โดยมีข่าวว่าบรรหารต้องหอบสังขารไปขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่
การกลับลำของพรรคชาติไทยพัฒนาครั้งนี้ถือเป็นตลกร้าย ยิ่งวัชระ กรรณิการ์ โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา แก้ตัวว่า “แม้ว่าสมาชิกของพรรคจะสนับสนุน 375+125 แต่เรายังเชื่อเหมือนเดิมว่า 400+100 เหมาะสมที่สุดกับสถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน แต่เมื่อเสียงส่วนใหญ่สนับสนุน 375+125 ก็พร้อมปฏิบัติตามเสียงส่วนใหญ่ของพรรคร่วมรัฐบาล และรัฐสภา”มันก็ยิ่งทะแม่งๆชอบกล??
ทั้งยังออกตัวด้วยว่า นายบรรหารและพล.ต.สนั่น ไม่ต้องพูดอะไรมาก ทั้ง 2 ท่านยังปกติ ไม่มีรอยแยก นายบรรหารเข้าใจพล.ต.สนั่นดี เรื่องนี้เล็กมาก..
แต่ในแวดวงการเมืองแล้วมองว่า เรื่องนี้หนักหนามาก หลอกเด็กไม่เท่าไหร่ นี่หลอกคนแก่!!
การที่พล.ต.สนั่นอาสารับบทบาท เดินหน้าลุยด้วยตัวเองครั้งนี้ นินทากันว่า ส่วนหนึ่งเขาไม่ต้องการให้สูตร 375+125 ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา เนื่องจากมันจะไปลดจำนวนส.ส.ในจังหวัดพิจิตรจาก 4 เหลือ 3 คน
จำนวนเสียงเพียง 1 ถึงดูจะน้อย แต่ทุกเก้าอี้มีความสำคัญสำหรับคนที่มีความคิดที่จะไปตั้งพรรคการเมืองใหม่ ขนาดย่อมๆ มีส.ส.สักหลักสิบ โดยมีจังหวัดบ้านเกิดเป็นฐานหลัก
หากตั้งพรรคการเมืองทางสายกลางที่สามารถพลิกสวิงข้างไปทางไหนก็ได้ ย่อมการันตีได้ถึงการเป็นพรรครัฐบาล ในสถานการณ์การเมืองที่ไม่ปกติเช่นนี้ ดีไม่ดีอาจจับพลัดจับผลูถูกอัญเชิญไปเป็นนายกรัฐมนตรีก็ได้ เพราะด้วยบุคลิก ฝีไม้ลายมืออย่างพล.ต.สนั่นนั้น สามารถเป็นนายกฯได้ ในยามที่บ้านเมือง ต้องการนักการเมืองอาชีพเข้ามาบริหารจัดการความขัดแย้ง
พล.ต.สนั่นถือเป็นตัวเลือกหนึ่งที่เหมาะสม ที่จะประสานรอยร้าวจากทุกกลุ่มทุกขั้วได้!!
ก่อนหน้านี้พล.ต.สนั่นก็เคยอาสาตัวเองรับหน้าที่มือประสานสิบทิศพิชิตรอยแตกร้าว ด้วยการเดินสายพบทุกคนทุกฝ่าย ล่าฝันประเทศไทยสมานฉันท์ปรองดอง ด้วยความหวังลึกๆที่จะสามารถก้าวสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจากผลงานชิ้นโบว์แดง หากปฏิบัติการดังกล่าวสำเร็จลุล่วง
แน่นอนว่า ถ้ามันสำเร็จ ประเทศไทยคืนสู่ภาวะปกติสุขได้จริง เครดิตอันใหญ่หลวงต้องพุ่งเข้าตัวแน่นอน เสียงแซ่ซ้องสรรเสริญจะประดังมาทั่วสารทิศทิศ ไม่ใครก็ใครบางคนคงต้องเสนอให้เป็นนายกรัฐมนตรีผสานความปรองดองต่อเนื่องไปอีกระยะชัวร์ป้าบ
แต่แผนการนี้ก็ซาลงไป หลังจากหมากที่วางไว้ พลิกเพี้ยนไป พรรคประชาธิปัตย์ไม่ถูกยุบพรรค รัฐบาลยังเป็นปึกแผ่นแน่นหนากันอยู่ ที่คิดว่าจะทะลุกลางกระดานโผล่พรวดขึ้นมาท่ามกลางความสับสนอลหม่านในวงการเมืองก็มีอันต้องพังพาบไป
ความคิดอ่านที่จะทำการเมืองในบั้นปลาย โดยมีฐาน มีพลังในมือ ยังคงมีอยู่ในใจ ด้วยความที่พรรคเพื่อไทย พรรคใหญ่ยักษ์การเมืองอีกขั้ว ยังคงให้เครดิต หยิบยกชื่อมาพูดถึงอยู่เนืองๆ พร้อมออกตัวเชิดชูให้เป็นนายกรัฐมนตรีในภาวะขัดแย้ง
เพราะลำพังพรรคเพื่อไทยเอง จะชูใครขึ้นมายิ่งใหญ่เอง ก็จะมีกระบวนการตัดหัวคั่วแห้ง ให้พังทลายไปชนิด 100 ตีนถีบ ฉะนั้นการยืมมือคนกลางขึ้นมาชั่วคราว เพื่อลดดีกรีความหมั่นไส้ ย่อมเป็นทางเลือกที่ไม่เลวเลย
พล.ต.สนั่นที่อ่านหมากการเมืองทะลุ 2 ชั้น 3 ชั้น ย่อมรู้ถึงเรื่องนี้ดีอยู่แล้ว จึงพยายามผลักดันตัวเองให้มีบทบาท ให้มีฐานการเมือง แล้ววันหนึ่งก็ไปตั้งพรรคการเมืองสายกลางขนาดย่อม พรรคเพื่อไทยอาจจำเป็นต้องเรียกใช้บริการ ตามเงื่อนไขดังกล่าว แม้จะชนะการเลือกตั้งได้เสียงมาเป็นอันดับ 1 ก็ตาม
แต่วันนี้พญาชาละวัน ต้องมาโดนพญามังกรเฒ่าเตี้ย หักเหลี่ยมเฉือนคม จนเสียรังวัดไปหลายกิโลขีด กลายร่างเป็นจระเข้น้อยไปแล้ว
ต้องกลืนเลือดเฝื่อนปาก คงต้องไปนอนคิดอ่านในเร็ววันแล้วว่า จะวางหมาก วางบทบาทตัวเองอย่างไร เพื่อพลิกเกมจากบทบาทลูกไล่ โดนกระทำชำเรา มาเป็นผู้ถือไพ่เหนือกว่า ป๊อกเด้งคูณสอง!!