ปธ.ที่ปรึกษา ชทพ.เชื่อกระแสเพื่อไทย ดึง เสธ.หนั่น นั่งนายกฯ แค่ข่าวลือ ยัน ไม่มีปฏิวัติ ทำงงงบ้านเมืองอยู่ในภาวะสงบ วอน ม็อบสงสารประเทศบ้าง “ตือ” แขวะนายกฯชิงยุบสภาก่อน กม.ลูกออกทำ เพื่อตัวเอง หวั่นสังคมเคลือบแคลงเหตุใกล้ชิด กกต.
วันนี้ (1 ก.พ.) นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย เตรียมเสนอชื่อ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ไปเป็นนายกรัฐมนตรี แนบท้ายญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า ส่วนตัวยังไม่ทราบเรื่องนี้ คิดว่า เรื่องนี้คงเป็นแค่ข่าว ไม่สามารถหาข้อมูลยืนยันได้ ขณะนี้ยังไม่ได้คุยกับ พล.ต.สนั่น และคงไม่ขอวิจารณ์เรื่องนี้ เพราะไม่รู้ว่าที่มาที่ไปเป็นอย่างไร และคิดว่าคงไม่เกี่ยวกับเรื่องที่ พล.ต.สนั่นผลักดันสูตร 400+100 อย่างแน่นอน เพราะเรื่องนี้ก็เป็นจุดยืนของท่านมาโดยตลอดอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า แค่นี้ก็รู้แล้ว เพราะพรรคเพื่อไทยยืนยันว่า จะเอา นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย
สำหรับการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 3 นายบรรหาร กล่าวว่า ไม่น่าจะมีปัญหา คงผ่านไปได้ เพราะอย่างในวาระ 2 ที่ผ่านมา ก็ขาดไปเพียงไม่กี่เสียง อย่างไรก็ตาม ในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนายืนยันสนับสนุน 375+125 แน่นอน และสส.ของพรรคก็จะยกมือสนับสนุนอย่างแน่นอนไม่ต่ำกว่า 20 คน แม้ว่าจะขาดไปบ้างก็ตาม
นายบรรหาร กล่าวว่า ส่วนเรื่องการปฏิวัติในเวลานี้คงเป็นไปไม่ได้ เพราะบ้านเมืองตอนนี้สงบ เว้นเสียแต่ว่าจะควบคุมสถานการณ์ไม่อยู่ และถึงแม้ตอนนี้จะมีม็อบแต่ก็ไม่น่ามีผลอะไร เพราะคนไม่มากไม่ส่งผลให้ อยากให้ทุกคนสงสารประเทศไทยบ้าง อย่าให้บอบช้ำไปมากกว่านี้
ด้าน นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล กรรมการที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะยุบสภาช่วง เม.ย.-พ.ค.โดยไม่รอการแก้ไขกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว.ว่า ไม่อยากให้นายกฯ และคนในพรรคประชาธิปัตย์ลืมกติกา เพราะเมื่อร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญผ่านวาระที่สามมาแล้วก็ควรรอกระบวนการในการออกกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญให้แล้วเสร็จแล้วค่อยประกาศยุบสภา เพราะเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญของประเทศก็ควรให้เป็นไปตามครรลอง ไม่ใช่ให้คนเพียง 5 คนดำเนินการในการกำหนดกฎกติกาในการเลือกตั้ง และอย่ากลัวว่าจะมีคนพูดว่ามีการยื้อ เพราะคนที่เข้าใจระบบประชาธิปไตยเขารู้ ไม่เช่นนั้นจะมีการตั้งคำถามว่าที่มีการยุบสภาฯในช่วง เม.ย.-พ.ค.เพราะชิงความได้เปรียบหรือเปล่า
“แล้วจะมองหน้าคนในสังคมอย่างองอาจอย่างไร ดังนั้น อย่าลุกลี้ลุกลนทำเพื่อตัวเอง อย่าเอาคนแค่ 5 คนมากำหนดระเบียบ กฎกติกาในการเลือกตั้ง เพราะมันโยงในไปถึงการเลือกคนที่จะมาเป็นนายกฯด้วย ไม่อย่างนั้นสังคมจะเคลือบแคลง ในเมื่อพรรคประชาธิปัตย์พูดมาตลอดว่าเชื่อมั่นว่าร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญทั้ง 2 ฉบับจะผ่านในวาระที่สาม แล้วเหตุใดไม่มีการประสานกับกกต.เพื่อทำกฎหมายลูกส่งเข้าไปยังครม. ถ้าเตรียมพร้อมไว้แบบนี้เชื่อว่าจะสามารถผ่าน 3 วาระได้อย่างสบายๆ และไม่มีข้อติฉินนินทาจากสังคมด้วย ผมเคยเจ็บปวดกับเรื่องนี้มาแล้วตั้งแต่สมัยร่างรัฐธรรมนูญ ที่ไม่ได้ร่างโดยรัฐสภา ดังนั้น อย่าให้คนเพียง 5 คนเป็นผู้กำหนดกฎกติกาการเลือกตั้ง” นายสมศักดิ์ กล่าว
เมื่อถามว่า หากนายกฯยังดื้อดึงที่จะยุบสภา และให้ กกต.เป็นผู้กำหนดกฎกติกาในการเลือกตั้ง นายสมศักดิ์ กล่าวว่า นายกฯจะทำก็ไม่เป็นไร แต่ก็จะมีคำถามที่ว่า กกต.กับพรรคประชาธิปัตย์มีความใกล้ชิดกันอย่างที่มีการกล่าวหากันหรือไม่
