00 ในที่สุดผลของการ “ช่วยเต็มที่” ของคนในรัฐบาลไทยทั้ง มาร์ค-เทือก-ประวิตร-กษิต ก็ทำให้ “คนไทย” คือ วีระ สมความคิด ต้องติดคุกเขมร 8 ปี ส่วน ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ 6 ปี สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าการที่ 2 คนไทยดังกล่าวไม่ยอมรับขบวนการยัดเยียดข้อหา ไม่ยอม “สมรู้ร่วมคิด” กับพวก “ขายชาติ” ไม่ยอมรับการยกอธิปไตยให้ชาติอื่นนั่นแหละ
00 อย่าได้แปลกใจที่ผลการตัดสินออกมาแบบนี้ เพราะรู้มาตั้งแต่แรกแล้ว เพราะที่ผ่านมารัฐบาลไทยไม่เคยปกป้อง ไม่รักษาผลประโยชน์ของคนไทยและของชาติ ตรงกันข้ามมีแต่ช่วย “ยืนยันความผิด” ให้เสร็จสรรพตั้งแต่แรก ทั้งที่พื้นที่ตรงนั้นพิสูจน์ในเบื้องต้นว่าเป็น “ดินแดนไทย” หรือเลวร้ายที่สุดก็แค่พื้นที่พิพาทอ้างสิทธิ์ เท่านั้น ทำเหมือนกับว่า ทั้งวีระ-ราตรี ไปก่อคดีปล้นวัวปล้นควายชาวบ้านแถวนั้นถึงได้เสือกใสไปติดคุก
00 คำโกหกพรั่งพรูออกมาจากปากของ อภิสิทธิ์ ออกมารายวัน ก็เพียงเพื่อให้ตัวเองได้อยู่ในตำแหน่งนายกฯ ต่อไป และได้ขึ้นเวทีปาถกฐาแสดงวาทศิลป์ตามที่ตัวเองชอบเท่านั้น เพราะทุกถ้อยคำหากให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ล้วนแล้วแต่ไร้แก่นสาร วันนี้พูดอย่างพรุ่งนี้พูดอีกอย่างหรือไม่ก็สรรหาถ้อยคำมาแก้ตัว หาความชอบธรรมให้ตัวเองตลอดเวลา เอาง่ายๆแค่คำแถลงการณ์อย่างเป็นทางการของกระทรวงต่างประเทศไทย ที่เผยแพร่ไปทั่วโลก ที่ให้เขมรรื้อวัดแก้วปลดธงชาติออกไป แต่วันรุ่งขึ้นตัวเองก็มาปฏิเสธหน้าตาเฉยว่าไม่ได้สั่งให้รื้อวัด แสดงว่าแถลงการณ์ดังกล่าวเป็นแค่ “กระดาษชำระ” อย่างนั้นหรือ เพียงแค่นี้ก็ไม่สมควรอยู่ในตำแหน่งแล้ว เพราะทำให้เสียเกียรติภูมิของชาติ
00 ขณะที่ผู้นำกองทัพก็ดีแต่ปากพึ่งพาอาศัยอะไรไม่ได้ ไม่รู้ว่าอะไรมา “บังตา” จนทำให้ต้อง “หงอ” ประเทศอย่างกัมพูชา ถึงได้ปล่อยปละละเลยไม่สนใจทุกข์ร้อนในการรักษาอธิปไตยของชาติ เพราะการรุกล้ำไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นแต่มีมานานแล้วนับปี แต่ที่เงียบเพราะไม่มีใครเปิดโปงต่างหาก กลายเป็นว่าเมื่อ “ก้นร้อน” ก็แสดงละครตบตาคราหนึ่ง เหมือนกับการ “แข่งขัน” ยกธงกับเขมร ตามที่ ผบ.ทบ.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ภูมิใจหนักหนา ว่าธงไทย “สูงกว่า” และ “ผืนใหญ่กว่า” ซึ่งดูแล้วเรื่องนี้เขมรมันแพ้จริงๆ(วะ)
00 แต่ถามว่าพื้นที่ที่เราไปปักธงอยู่นั้นมันอยู่ในเขตไทยใช่หรือไม่ หรืออย่างมากที่ พล.อ.ประยุทธ์ และ รมว.กลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ระบุยกให้เขาให้เสร็จสรรพว่าเป็นพื้นที่ “ทับซ้อน” แต่ทีฝั่งเขมร กลับบอกว่าเป็นพื้นที่ของมันไม่เห็นบอกว่าทับซ้อนเหมือนไทยสักหน่อย
00 เชื่อว่าภายในวันสองวันนี้หรือไม่น่าจะเกินสัปดาห์หน้า พรรคเพื่อไทยคงจะยื่น “ซักฟอก” รัฐบาลมาร์ค แม้ว่าหัวหน้าทีมคือ “เจ๊มิ่ง” จะหน่อมแน้ม แต่คนก็ไม่ได้หวังอะไรมาตั้งนานแล้ว แต่ขณะเดียวกันถ้าดูตามอาการแล้วคงจะเป็นการถล่มส่งท้ายก่อนยุบสภา นั่นคือหลังจากการแก้ไข รธน.ผ่านวาระ 3 สำหรับพรรค “เพื่อแม้ว” นาทีนี้อาจมองอีกแบบแล้วก็ได้ ไม่อยากให้ยุบเร็วนัก คงจะนวดให้ “เละ” มากที่สุด เพราะตามรูปการแล้วสำหรับ “มาร์ค-เทือก” ยิ่งนานไปยิ่งติดลบกู่ไม่กลับ
00 เอาแค่เรื่อง “ชั่งไข่” คนก็ด่ากันพึมแล้ว ไหนยังเรื่องของแพง น้ำมันปาล์มแพง แถมยังขาดตลาด ลองไปถามพ่อค้าแม่ค้ารายไหนรายนั้นมีแต่สวดชยันโตทั้งสิ้น นี่ยังไม่นับเรื่อง “กลิ่นอุบาทว์” จากเรื่องการนำเข้าน้ำมันปาล์มมาผสมโรงอีก งานนี้ “ขาใหญ่-ตัวดำๆ”ในพรรคประชาธิปัตย์ถูกเขม้นมองก่อนใครเพื่อน แต่ถ้าไม่มีมูลหมาไม่ขี้หรอกใช่ไหมเทือก !!
00 อย่าได้แปลกใจที่ผลการตัดสินออกมาแบบนี้ เพราะรู้มาตั้งแต่แรกแล้ว เพราะที่ผ่านมารัฐบาลไทยไม่เคยปกป้อง ไม่รักษาผลประโยชน์ของคนไทยและของชาติ ตรงกันข้ามมีแต่ช่วย “ยืนยันความผิด” ให้เสร็จสรรพตั้งแต่แรก ทั้งที่พื้นที่ตรงนั้นพิสูจน์ในเบื้องต้นว่าเป็น “ดินแดนไทย” หรือเลวร้ายที่สุดก็แค่พื้นที่พิพาทอ้างสิทธิ์ เท่านั้น ทำเหมือนกับว่า ทั้งวีระ-ราตรี ไปก่อคดีปล้นวัวปล้นควายชาวบ้านแถวนั้นถึงได้เสือกใสไปติดคุก
00 คำโกหกพรั่งพรูออกมาจากปากของ อภิสิทธิ์ ออกมารายวัน ก็เพียงเพื่อให้ตัวเองได้อยู่ในตำแหน่งนายกฯ ต่อไป และได้ขึ้นเวทีปาถกฐาแสดงวาทศิลป์ตามที่ตัวเองชอบเท่านั้น เพราะทุกถ้อยคำหากให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ล้วนแล้วแต่ไร้แก่นสาร วันนี้พูดอย่างพรุ่งนี้พูดอีกอย่างหรือไม่ก็สรรหาถ้อยคำมาแก้ตัว หาความชอบธรรมให้ตัวเองตลอดเวลา เอาง่ายๆแค่คำแถลงการณ์อย่างเป็นทางการของกระทรวงต่างประเทศไทย ที่เผยแพร่ไปทั่วโลก ที่ให้เขมรรื้อวัดแก้วปลดธงชาติออกไป แต่วันรุ่งขึ้นตัวเองก็มาปฏิเสธหน้าตาเฉยว่าไม่ได้สั่งให้รื้อวัด แสดงว่าแถลงการณ์ดังกล่าวเป็นแค่ “กระดาษชำระ” อย่างนั้นหรือ เพียงแค่นี้ก็ไม่สมควรอยู่ในตำแหน่งแล้ว เพราะทำให้เสียเกียรติภูมิของชาติ
00 ขณะที่ผู้นำกองทัพก็ดีแต่ปากพึ่งพาอาศัยอะไรไม่ได้ ไม่รู้ว่าอะไรมา “บังตา” จนทำให้ต้อง “หงอ” ประเทศอย่างกัมพูชา ถึงได้ปล่อยปละละเลยไม่สนใจทุกข์ร้อนในการรักษาอธิปไตยของชาติ เพราะการรุกล้ำไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นแต่มีมานานแล้วนับปี แต่ที่เงียบเพราะไม่มีใครเปิดโปงต่างหาก กลายเป็นว่าเมื่อ “ก้นร้อน” ก็แสดงละครตบตาคราหนึ่ง เหมือนกับการ “แข่งขัน” ยกธงกับเขมร ตามที่ ผบ.ทบ.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ภูมิใจหนักหนา ว่าธงไทย “สูงกว่า” และ “ผืนใหญ่กว่า” ซึ่งดูแล้วเรื่องนี้เขมรมันแพ้จริงๆ(วะ)
00 แต่ถามว่าพื้นที่ที่เราไปปักธงอยู่นั้นมันอยู่ในเขตไทยใช่หรือไม่ หรืออย่างมากที่ พล.อ.ประยุทธ์ และ รมว.กลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ระบุยกให้เขาให้เสร็จสรรพว่าเป็นพื้นที่ “ทับซ้อน” แต่ทีฝั่งเขมร กลับบอกว่าเป็นพื้นที่ของมันไม่เห็นบอกว่าทับซ้อนเหมือนไทยสักหน่อย
00 เชื่อว่าภายในวันสองวันนี้หรือไม่น่าจะเกินสัปดาห์หน้า พรรคเพื่อไทยคงจะยื่น “ซักฟอก” รัฐบาลมาร์ค แม้ว่าหัวหน้าทีมคือ “เจ๊มิ่ง” จะหน่อมแน้ม แต่คนก็ไม่ได้หวังอะไรมาตั้งนานแล้ว แต่ขณะเดียวกันถ้าดูตามอาการแล้วคงจะเป็นการถล่มส่งท้ายก่อนยุบสภา นั่นคือหลังจากการแก้ไข รธน.ผ่านวาระ 3 สำหรับพรรค “เพื่อแม้ว” นาทีนี้อาจมองอีกแบบแล้วก็ได้ ไม่อยากให้ยุบเร็วนัก คงจะนวดให้ “เละ” มากที่สุด เพราะตามรูปการแล้วสำหรับ “มาร์ค-เทือก” ยิ่งนานไปยิ่งติดลบกู่ไม่กลับ
00 เอาแค่เรื่อง “ชั่งไข่” คนก็ด่ากันพึมแล้ว ไหนยังเรื่องของแพง น้ำมันปาล์มแพง แถมยังขาดตลาด ลองไปถามพ่อค้าแม่ค้ารายไหนรายนั้นมีแต่สวดชยันโตทั้งสิ้น นี่ยังไม่นับเรื่อง “กลิ่นอุบาทว์” จากเรื่องการนำเข้าน้ำมันปาล์มมาผสมโรงอีก งานนี้ “ขาใหญ่-ตัวดำๆ”ในพรรคประชาธิปัตย์ถูกเขม้นมองก่อนใครเพื่อน แต่ถ้าไม่มีมูลหมาไม่ขี้หรอกใช่ไหมเทือก !!
