ASTVผู้จัดการรายวัน - ธปท.เผยทองคำที่ได้รับบริจาคจากหลวงตามหาบัว 12,079 กิโลกรัม เงินดอลลาร์ 10 ล้านเหรียญ คิดเป็นเงินบาทรวมทั้งสิ้น 1.6 หมื่นล้านบาท เตรียมเก็บไว้ในบัญชีพิเศษ ไม่ปะปนกับเงินอื่นและจะไม่นำมารวมเด็ดขาด ขณะที่พุทธศาสนิกชนยังคงหลั่งไหลกราบเคารพศพ วัดประกาศเตือนประชาชนระวังมิจฉาชีพเริ่มออกหากิน ด้านคอหวยทั่วประเทศเฮ เลขอายุ "หลวงตามหาบัว" ให้โชค ถูกกันถ้วนหน้า จวกเจ้ามือเละเอาเปรียบจ่ายครึ่งเดียว
นางสุชาดา กิระกุล รองผู้ว่าการ ด้านบริหาร ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.จะรักษาทองคำและเงินบริจาคในรูปเงินตราต่างประเทศภายใต้โครงการผ้าป่าช่วยชาติ ของหลวงตามหาบัวญาณสัมปันโนต่อไป โดยธปท.ได้รับมอบทองคำและเงินบริจาคครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 ก.ค.2541 และรับบริจาคต่อเนื่องจนถึง 15 ครั้ง คิดเป็นทองคำแท่ง 967 แท่ง คิดเป็น 12,079.8 กิโลกรัม หรือคิดเป็น 388,000 ออนซ์ และเงินตราต่างประเทศ 10 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งอยู่ในส่วนของบัญชีทุนสำรองพิเศษหรือคลังหลวง ทำให้สินทรัพย์ทุกอย่างได้เก็บรักษาไว้ในห้องมั่นคงพิเศษอย่างปลอดภัย ซึ่งใช้นับเป็นเงินสำรองทางการระหว่างประเทศของไทย
ขณะที่ในส่วนของเงินตราต่างประเทศจำนวน 10 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งได้แยกกองและมีหมายเลขกำกับไว้ชัดเจน ธปท.นำเงินตราต่างประเทศเหล่านี้ไปบริหารร่วมกับเงินในบัญชีทุนสำรองเงินตรา เพื่อเป็นดอกผลตามที่ได้ระบุไว้ในกฎหมาย พ.ร.ก.เมื่อปี 2545 ซึ่งระบุไว้ว่า “ทองคำที่ได้รับบริจาคเข้ามาเก็บไว้ในบัญชีสำรองพิเศษ เพื่อเก็บรักษาให้มั่นคงตามวัตถุประสงค์ของผู้บริจาค แต่ในกรณีจำเป็นให้สามารถโอนสินทรัพย์เข้ามาในทุนสำรองเงินตรา ซึ่งใช้หนุนหลังธนบัตรของประเทศให้มั่นคงได้”
สำหรับกรณีที่พินัยกรรมของหลวงตามหาบัว ระบุให้มอบทองคำและเงินบริจาคไปซื้อทองคำให้ธปท.เก็บรักษาไว้บัญชีสำรองพิเศษเพิ่มเติมนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่ออย่างเป็นทางการและทราบจากข่าวในสื่อต่างๆ เท่านั้น อย่างไรก็ตาม หากได้รับมอบเพิ่มเติม ธปท.จะตั้งคณะกรรมการรับมอบ ซึ่งประกอบด้วยสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ศิษยานุศิษย์ของหลวงตามหาบัว และกรรมการเฉพาะกิจร่วมสังเกตการณ์ พร้อมทั้งจัดจ้างบริษัทพิสูจน์น้ำหนักและความบริสุทธิ์ของทองคำต่อไปและตรวจสอบเป็นประจำทุกปี
ประเด็นคำถามที่ว่า หากในอนาคตรัฐบาลอาจจะต้องการรวมบัญชีทุนสำรองทางการของธปท. และทุนสำรองเงินตราเข้าเป็นบัญชีเดียว รองผู้ว่าการธปท. ยืนยันว่า ขอให้ศิษยานุศิษย์ของหลวงตามหาบัว และประชาชนทุกคนมีความมั่นใจว่า เงินและทองคำทั้งหมดในโครงการนี้เป็นทรัพย์สินที่หลวงตามหาบัว และประชาชนมีจิตศรัทธาบริจาค ดังนั้น หากมีความจำเป็นต้องรวมบัญชีก็จะแยกสินทรัพย์ส่วนนี้ออกมาเป็นกรณีพิเศษ โดยไม่มีการนำไปรวมบัญชีอื่นแน่นอน
***เงิน-ทองหลวงตาบัวรวม1.6หมื่นล้าน
นางสุชาดากล่าวว่า การตีมูลค่าสินทรัพย์ดังกล่าวเป็นเงินบาทนั้น เนื่องจากราคาทองคำเปลี่ยนแปลงเป็นรายวัน ดังนั้น จึงไม่อยากตีราคาเป็นมูลค่า หรือเป็นเงินบาท เพราะไม่อยากให้เกิดความสับสน เพราะบางวัน มูลค่าทองคำอาจจะสูงขึ้น และลดลงจากการเปลี่ยนแปลงราคาทองคำโลก ซึ่งจะสร้างความเข้าใจที่ผิดของผู้ที่ติดตามข่าวได้
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาว่า ทองคำ 1 กก.เท่ากับ 65.79 บาททอง และราคาทองคำแท่งล่าสุด (1 ก.พ.) บาทละ 19,650 บาท ทองคำ บริจาคทั้งสิ้น 12,079.8 กก.จะคิดเป็นประมาณ 794,723 บาททอง และมีมูลค่าทั้งสิ้น 15,616.31 ล้านบาท ส่วนเงินตราต่างประเทศ 10 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินไทย 300 ล้านบาท (30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ) รวมเป็นสินทรัพย์ทั้งเงินตราต่างประเทศ และทองคำบริจาคทั้งสิ้น 15,916.31 ล้านบาท
นางสุชาดากล่าวว่า ในฐานะที่หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน มีคุณูปการกับ ธปท. และประเทศไทยอย่างยิ่ง ธปท.จึงขอมีส่วนเข้าไปเป็นเจ้าภาพรวมในงานพิธีธรรมของหลวงตามหาบัว ในวันที่ 12 ก.พ.ที่จะถึงนี้ และจะมีการจัดนิทรรศการเกี่ยวกับการรับมองทองคำจากหลวงตา ทั้ง 15 ครั้ง ทั้งที่วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี และที่สำนักงานใหญ่ ธปท. เพื่อระลึกถึงพระคุณของหลวงตาบัวโดยจะเริ่มในวันศุกร์ที่ 5 ก.พ.ที่จะถึงนี้
***ประชาชนแห่กราบเคารพสังขาร
วานนี้ (1 ก.พ.) ที่วัดป่าบ้านตาด อ.เมืองอุดรธานี ยังคงมีพระภิกษุ สามเณร และประชาชนทั่วไปเดินทางมากราบนมัสการศพองค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน แม้ว่าจะไม่หนาแน่นเหมือนกับวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แต่ประชาชนยังคงต้องเข้าคิวรอขึ้นกราบศพองค์หลวงตา บริเวณด้านหน้าศาลาการเปรียญภายในวัดป่าบ้านตาดอย่างต่อเนื่อง โดยที่ศาลาด้านหน้าวัดมีคณะลูกศิษย์จัดตั้งโรงทานอาหาร เครื่องดื่มบริการประชาชนฟรีตลอด 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้ ที่บริเวณด้านหน้าศาลาใหญ่วัดป่าบ้านตาด เริ่มมีการปรับพื้นที่หน้าดิน เพื่อเตรียมการก่อสร้างเมรุเผาศพหลวงตามหาบัวแล้ว โดยมีรถบรรทุกหลายคันนำดินมาถมปรับหน้าดิน ซึ่งจะมีการก่อสร้างตัวเมรุสูง 3 เมตร มี 3 ชั้น แต่ละชั้นสูง 1 เมตร มีฐานกว้างประมาณ 26-40 เมตร และบนยอดสุดจะเป็นกรดกว้าง 8 เมตร ซึ่งแบบก่อสร้างจะเรียบง่ายแต่ให้สมเกียรติกับองค์หลวงตามหาบัวที่มีประชาชนเคารพศรัทธาทั่วประเทศ
***“สรพงษ์-ภรรยา”เดินทางไปร่วมด้วย
ขณะที่เวลาประมาณ 15.00 น.นายกรีพงษ์ เทียมเศวต หรือนายสรพงษ์ ชาตรี ดาราชื่อดัง น.ส.ดวงเดือน จิไธสงค์ ภรรยา อดีตรองนางสาวไทย และคณะ ได้เดินทางมากราบสังขารหลวงตามหาบัวเช่นกัน โดยนายสรพงษ์ เปิดเผยว่า รู้สึกเสียดายที่หลวงตาละสังขาร แต่ถือเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่สิ่งสำคัญที่หลวงตาทิ้งไว้คือพระธรรมคำสั่งสอนที่ชาวพุทธทั้งหลายอย่างเราๆ สามารถนำไปประพฤติปฏิบัติต่อได้ไม่ดับสูญ ทำให้ชีวิตอยู่ในศิลในธรรมเป็นศิริมงคลแก่ชีวิต
"หลวงตาเป็นที่พึ่งทางใจของพี่น้องชาวพุทธ คำเทศนาสั่งสอนของท่านมีค่ามาก เมื่อหลวงตายังอยู่ทุกคนมีความสุขใจ แต่เมื่อท่านละสังขารไปแล้วเราก็ต้องไม่ลืมเทศนาธรรมของท่าน ต้องนำไปปฏิบัติ หลวงตาท่านบอกเสมอว่าให้ทุกคนสั่งสมบุญให้มากๆ เมื่อบุญอยู่ในจิต ก็จะคิดดีทำดี มีเมตตา ความสงบสุขก็จะเกิดขึ้นเอง"
นายสรพงษ์ เล่าต่อว่า ครั้งล่าสุดที่ได้มีโอกาสกราบหลวงตาที่วัดป่าบ้านตาด ก่อนที่ท่านจะละสังขาร คือหลังจากที่ท่านกลับจากรักษาอาการอาพาธที่โรงพยาบาลศิริราช และในโอกาสเดียวกันนั้นก็ได้กราบหลวงพ่อหรือหลวงปู่บุญมีด้วย ซึ่งหลวงปู่บุญมีบอกว่า “หลวงตากำลังชั่งจิตว่าจะละสังขารหรือจะอยู่สงเคราะห์โลกต่อ” ที่ผ่านมาหลวงตาท่านสงเคราะห์โลกไว้มากมายผ่านโครงการต่างๆ โดยเฉพาะการสร้างโรงพยาบาลและโครงการผ้าป่าทองคำช่วยชาติ โครงการต่างๆเหล่านี้พวกเราญาติโยมที่มีกำลังต้องช่วยกันต่อไปเพื่อให้สมเจตนาของหลวงตาท่าน
"สำหรับศาลาการเปรียญไม้หลังนี้หลังที่เรามากราบสังขารท่าน หลวงตา เคยบอกว่าอยากจะช่วยกันอนุรักษ์ไว้ แม้จะเป็นศาลาไม้เก่าๆ แต่มีค่าประเมินไม่ได้เพราะเป็นสถานที่สถิตรอยเท้าของหมู่เทพเทวดา พระราชาและพระบรมวงศ์ษานุวงศ์ ไม่อยากให้มีการเปลี่ยนแปลง”
***เตือนระวังมิจฉาชีพฉวยโอกาส
พระอาจารย์นภดล นนทะโน เจ้าอาวาสวัดป่าดอยลับงา จ.กำแพงเพชร เปิดเผยถึงการก่อสร้างเมรุเผาศพหลวงตามหาบัวว่า คาดว่าจะใช้เวลาในการก่อสร้างเมรุเผาศพประมาณ 10 วันน่าจะแล้วเสร็จทันกำหนดงานพระราชทานเพลิงศพ เบื้องต้นที่กำหนดไว้ที่ 5 มี.ค.นี้ เพราะเป็นการก่อสร้างแบบเรียบง่าย เน้นการใช้ปูนและดิน แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ การก่อสร้างห้องน้ำและส่วนขยายที่ต้องรองรับประชาชนที่มาร่วมงานพระราชทานเพลิงศพ
"หลวงตามหาบัว ได้สั่งเสียไว้ว่า อย่าให้ประชาชนที่มาร่วมงานศพได้รับความเดือดร้อน จึงต้องสร้างห้องน้ำ และที่จอดรถให้เพียงพอกับจำนวนประชาชน ขณะเดียวกันได้มีการประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และตำรวจตระเวนชายแดน มากกว่า 150 คน/วัน มาดูแลความปลอดภัยให้กับผู้มาร่วมงานศพในระยะนี้ และหากถึงวันงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงศพ จะมีการประสานเจ้าหน้าที่มาดูแลให้มากกว่านี้ ที่สำคัญประชาชนที่มาร่วมงานศพหลวงตามหาบัว ต้องระวังดูแลตัวเองด้วย เพราะเริ่มมีกลุ่มมิจฉาชีพเข้ามาหาผลประโยชน์ภายในงานวัดป่าบ้านตาดบ้างแล้ว"
อย่างไรก็ตาม ในคืนวันที่ 1 ก.พ. มีการแสดงพระธรรมเทศนา โดยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีตั้งบำเพ็ญกุศลสรีระหลวงตามหาบัว ในพระบรมราชานุเคราะห์ เป็นวันที่สาม
***บริการรถตู้ฟรีกราบสังขาร"หลวงตา"
นายปรเรศร์ ศิรินทร์ภาณุ เจ้าของบริษัท มะลิไท จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการรถเช่าในสนามบินนานาชาติอุดรธานี เปิดเผยว่า ได้นำเอารถตู้ขนาด 10 ที่นั่งมาให้บริการส่งผู้ที่เดินทางมาทางเครื่องบินระหว่างสนามบินอุดรธานี ถึงวัดป่าบ้านตาดฟรี โดยจะจอดรับที่สนามบินให้บริการทุกๆ เที่ยวบินและทุกวัน ดังนั้น ลูกศิษย์และผู้โดยสารที่มีความประสงค์จะเดินทางไปที่วัดป่าบ้านตาด เพื่อนมัสการสังขารขององค์หลวงตามหาบัว ก็สามารถใช้บริการรถตู้ของทางบริษัทได้ โดยทางบริษัทบริการฟรี ไม่ต้องจ่ายค่าโดยสาร ตั้งแต่เที่ยวแรกวันละ 10 เที่ยว โดยจะนำผู้โดยสารไปส่งที่หน้าวัดป่าบ้านตาด
***ห้องพักโรงแรมเกือบเต็มหมดแล้ว
นายสุทัศน์ แพรสุรินทร์ กรรมการสมาคมโรงแรมไทย-สมาคมโรงแรมไทยอิสาน ผู้จัดการฝ่ายห้องพักโรงแรมเจริญโฮเต็ล เปิดเผยว่า ช่วงนี้ห้องพักในจังหวัดอุดรธานีเต็มเกือบทุกที่ โดยเฉพาะโรงแรมเจริญโฮเต็ล มียอดการจองห้องพักล่วงหน้าเกือบ 90% ของห้องพักที่โรงแรมมีอยู่ และขณะนี้ได้มีงานศพของหลวงตามหาบัวขึ้นมาอีก ห้องพักจึงถูกสั่งจองและเข้าพักจากญาติโยมและลูกศิษย์ คาดว่าไม่นานห้องพักของโรงแรมทุกแห่งในอุดรธานีจะเต็มหมด
***คอหวยเฮ!เลขอายุ"หลวงตา"ให้โชค 89
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานีว่า วานนี้ (1ก.พ.) หลังจากที่สลากกินแบ่งรัฐบาลได้ออกประกาศผลการออกสลากงวดประจำวันที่ 1 ก.พ.2554 รางวัลที่ 1 ออกเลข 610089 ทำให้บรรดานักเสี่ยงโชคคอหวยใต้ดินทั้งหลายได้ส่งเสียงเฮลั่น เนื่องจากถูกหวยเลข 89 กันเป็นจำนวน เนื่องจากเลข 89 เป็นตัวเลขที่มาจากอายุของหลวงตามหาบัว ที่ละสังขารในขณะที่อายุ 98 ปี นอกจากนี้เลขท้ายสองตัวล่าง 55 ก็ยังทำให้คอหวยนำไปตีเลขหลังจากที่มีพระรูปหนึ่งบอกว่าหลวงตามหาบัว ละสังขารด้วยอาการสงบจริงๆ ในเวลา 03.55 น.
นอกจากคอหวยในพื้นที่ จ.อุดรธานีที่ถูกเลข 89 และ 55 กันแล้ว คอหวยในพื้นที่จังหวัดอื่นทั่วประเทศต่างก็ถูกเลขดังกล่าวเช่นกัน
***โวยเจ้ามือเอาเปรียบจ่ายครึ่งเดียว
นายเจียม ศรชัย อายุ 60 ปี เจ้าของร้านตัดผมแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ เปิดเผยภายหลังเลข 2 ตัวท้ายสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ออก 610089 ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับอายุของหลวงตามหาบัวว่า บรรดาคอหวยใต้ดินที่ได้แวะเวียนมาใช้บริการตัดผมที่ร้านต่างบ่นว่าหวยที่เกี่ยวเนื่องกับอายุ วันเกิด และเวลาที่มรณภาพของหลวงตามหาบัว เมื่อซื้อถูกเจ้ามือจ่ายเพียงครึ่งเดียว ขณะที่เจ้ามือบางรายล็อกไว้ไม่ยอมขายอ้างว่าเต็ม บางคนไม่สามารถที่จะหาซื้อได้ ต้องไปซื้อเลขตัวที่ใกล้เคียงแทน และหลายคนยังจะติดตามซื้อเลขที่เกี่ยวเนื่องกับหลวงตามหาบัว ไปจนกว่าจะประกอบพิธีพระราชทานเพลิง เพราะเชื่อว่าหลวงตาจะให้โชคกับลูกศิษย์ หรือผู้ที่ให้ความเคารพศรัทธา เพื่อจะได้นำเงินไปร่วมทำบุญสมทบกองทุนช่วยชาติกับหลวงตา ตามความประสงค์ที่หลวงตาได้มุ่งมั่นก่อตั้งเพื่อช่วยเหลือประเทศชาติและสังคมให้พ้นจากวิกฤต
นางสุชาดา กิระกุล รองผู้ว่าการ ด้านบริหาร ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.จะรักษาทองคำและเงินบริจาคในรูปเงินตราต่างประเทศภายใต้โครงการผ้าป่าช่วยชาติ ของหลวงตามหาบัวญาณสัมปันโนต่อไป โดยธปท.ได้รับมอบทองคำและเงินบริจาคครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 ก.ค.2541 และรับบริจาคต่อเนื่องจนถึง 15 ครั้ง คิดเป็นทองคำแท่ง 967 แท่ง คิดเป็น 12,079.8 กิโลกรัม หรือคิดเป็น 388,000 ออนซ์ และเงินตราต่างประเทศ 10 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งอยู่ในส่วนของบัญชีทุนสำรองพิเศษหรือคลังหลวง ทำให้สินทรัพย์ทุกอย่างได้เก็บรักษาไว้ในห้องมั่นคงพิเศษอย่างปลอดภัย ซึ่งใช้นับเป็นเงินสำรองทางการระหว่างประเทศของไทย
ขณะที่ในส่วนของเงินตราต่างประเทศจำนวน 10 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งได้แยกกองและมีหมายเลขกำกับไว้ชัดเจน ธปท.นำเงินตราต่างประเทศเหล่านี้ไปบริหารร่วมกับเงินในบัญชีทุนสำรองเงินตรา เพื่อเป็นดอกผลตามที่ได้ระบุไว้ในกฎหมาย พ.ร.ก.เมื่อปี 2545 ซึ่งระบุไว้ว่า “ทองคำที่ได้รับบริจาคเข้ามาเก็บไว้ในบัญชีสำรองพิเศษ เพื่อเก็บรักษาให้มั่นคงตามวัตถุประสงค์ของผู้บริจาค แต่ในกรณีจำเป็นให้สามารถโอนสินทรัพย์เข้ามาในทุนสำรองเงินตรา ซึ่งใช้หนุนหลังธนบัตรของประเทศให้มั่นคงได้”
สำหรับกรณีที่พินัยกรรมของหลวงตามหาบัว ระบุให้มอบทองคำและเงินบริจาคไปซื้อทองคำให้ธปท.เก็บรักษาไว้บัญชีสำรองพิเศษเพิ่มเติมนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่ออย่างเป็นทางการและทราบจากข่าวในสื่อต่างๆ เท่านั้น อย่างไรก็ตาม หากได้รับมอบเพิ่มเติม ธปท.จะตั้งคณะกรรมการรับมอบ ซึ่งประกอบด้วยสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ศิษยานุศิษย์ของหลวงตามหาบัว และกรรมการเฉพาะกิจร่วมสังเกตการณ์ พร้อมทั้งจัดจ้างบริษัทพิสูจน์น้ำหนักและความบริสุทธิ์ของทองคำต่อไปและตรวจสอบเป็นประจำทุกปี
ประเด็นคำถามที่ว่า หากในอนาคตรัฐบาลอาจจะต้องการรวมบัญชีทุนสำรองทางการของธปท. และทุนสำรองเงินตราเข้าเป็นบัญชีเดียว รองผู้ว่าการธปท. ยืนยันว่า ขอให้ศิษยานุศิษย์ของหลวงตามหาบัว และประชาชนทุกคนมีความมั่นใจว่า เงินและทองคำทั้งหมดในโครงการนี้เป็นทรัพย์สินที่หลวงตามหาบัว และประชาชนมีจิตศรัทธาบริจาค ดังนั้น หากมีความจำเป็นต้องรวมบัญชีก็จะแยกสินทรัพย์ส่วนนี้ออกมาเป็นกรณีพิเศษ โดยไม่มีการนำไปรวมบัญชีอื่นแน่นอน
***เงิน-ทองหลวงตาบัวรวม1.6หมื่นล้าน
นางสุชาดากล่าวว่า การตีมูลค่าสินทรัพย์ดังกล่าวเป็นเงินบาทนั้น เนื่องจากราคาทองคำเปลี่ยนแปลงเป็นรายวัน ดังนั้น จึงไม่อยากตีราคาเป็นมูลค่า หรือเป็นเงินบาท เพราะไม่อยากให้เกิดความสับสน เพราะบางวัน มูลค่าทองคำอาจจะสูงขึ้น และลดลงจากการเปลี่ยนแปลงราคาทองคำโลก ซึ่งจะสร้างความเข้าใจที่ผิดของผู้ที่ติดตามข่าวได้
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาว่า ทองคำ 1 กก.เท่ากับ 65.79 บาททอง และราคาทองคำแท่งล่าสุด (1 ก.พ.) บาทละ 19,650 บาท ทองคำ บริจาคทั้งสิ้น 12,079.8 กก.จะคิดเป็นประมาณ 794,723 บาททอง และมีมูลค่าทั้งสิ้น 15,616.31 ล้านบาท ส่วนเงินตราต่างประเทศ 10 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินไทย 300 ล้านบาท (30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ) รวมเป็นสินทรัพย์ทั้งเงินตราต่างประเทศ และทองคำบริจาคทั้งสิ้น 15,916.31 ล้านบาท
นางสุชาดากล่าวว่า ในฐานะที่หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน มีคุณูปการกับ ธปท. และประเทศไทยอย่างยิ่ง ธปท.จึงขอมีส่วนเข้าไปเป็นเจ้าภาพรวมในงานพิธีธรรมของหลวงตามหาบัว ในวันที่ 12 ก.พ.ที่จะถึงนี้ และจะมีการจัดนิทรรศการเกี่ยวกับการรับมองทองคำจากหลวงตา ทั้ง 15 ครั้ง ทั้งที่วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี และที่สำนักงานใหญ่ ธปท. เพื่อระลึกถึงพระคุณของหลวงตาบัวโดยจะเริ่มในวันศุกร์ที่ 5 ก.พ.ที่จะถึงนี้
***ประชาชนแห่กราบเคารพสังขาร
วานนี้ (1 ก.พ.) ที่วัดป่าบ้านตาด อ.เมืองอุดรธานี ยังคงมีพระภิกษุ สามเณร และประชาชนทั่วไปเดินทางมากราบนมัสการศพองค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน แม้ว่าจะไม่หนาแน่นเหมือนกับวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แต่ประชาชนยังคงต้องเข้าคิวรอขึ้นกราบศพองค์หลวงตา บริเวณด้านหน้าศาลาการเปรียญภายในวัดป่าบ้านตาดอย่างต่อเนื่อง โดยที่ศาลาด้านหน้าวัดมีคณะลูกศิษย์จัดตั้งโรงทานอาหาร เครื่องดื่มบริการประชาชนฟรีตลอด 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้ ที่บริเวณด้านหน้าศาลาใหญ่วัดป่าบ้านตาด เริ่มมีการปรับพื้นที่หน้าดิน เพื่อเตรียมการก่อสร้างเมรุเผาศพหลวงตามหาบัวแล้ว โดยมีรถบรรทุกหลายคันนำดินมาถมปรับหน้าดิน ซึ่งจะมีการก่อสร้างตัวเมรุสูง 3 เมตร มี 3 ชั้น แต่ละชั้นสูง 1 เมตร มีฐานกว้างประมาณ 26-40 เมตร และบนยอดสุดจะเป็นกรดกว้าง 8 เมตร ซึ่งแบบก่อสร้างจะเรียบง่ายแต่ให้สมเกียรติกับองค์หลวงตามหาบัวที่มีประชาชนเคารพศรัทธาทั่วประเทศ
***“สรพงษ์-ภรรยา”เดินทางไปร่วมด้วย
ขณะที่เวลาประมาณ 15.00 น.นายกรีพงษ์ เทียมเศวต หรือนายสรพงษ์ ชาตรี ดาราชื่อดัง น.ส.ดวงเดือน จิไธสงค์ ภรรยา อดีตรองนางสาวไทย และคณะ ได้เดินทางมากราบสังขารหลวงตามหาบัวเช่นกัน โดยนายสรพงษ์ เปิดเผยว่า รู้สึกเสียดายที่หลวงตาละสังขาร แต่ถือเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่สิ่งสำคัญที่หลวงตาทิ้งไว้คือพระธรรมคำสั่งสอนที่ชาวพุทธทั้งหลายอย่างเราๆ สามารถนำไปประพฤติปฏิบัติต่อได้ไม่ดับสูญ ทำให้ชีวิตอยู่ในศิลในธรรมเป็นศิริมงคลแก่ชีวิต
"หลวงตาเป็นที่พึ่งทางใจของพี่น้องชาวพุทธ คำเทศนาสั่งสอนของท่านมีค่ามาก เมื่อหลวงตายังอยู่ทุกคนมีความสุขใจ แต่เมื่อท่านละสังขารไปแล้วเราก็ต้องไม่ลืมเทศนาธรรมของท่าน ต้องนำไปปฏิบัติ หลวงตาท่านบอกเสมอว่าให้ทุกคนสั่งสมบุญให้มากๆ เมื่อบุญอยู่ในจิต ก็จะคิดดีทำดี มีเมตตา ความสงบสุขก็จะเกิดขึ้นเอง"
นายสรพงษ์ เล่าต่อว่า ครั้งล่าสุดที่ได้มีโอกาสกราบหลวงตาที่วัดป่าบ้านตาด ก่อนที่ท่านจะละสังขาร คือหลังจากที่ท่านกลับจากรักษาอาการอาพาธที่โรงพยาบาลศิริราช และในโอกาสเดียวกันนั้นก็ได้กราบหลวงพ่อหรือหลวงปู่บุญมีด้วย ซึ่งหลวงปู่บุญมีบอกว่า “หลวงตากำลังชั่งจิตว่าจะละสังขารหรือจะอยู่สงเคราะห์โลกต่อ” ที่ผ่านมาหลวงตาท่านสงเคราะห์โลกไว้มากมายผ่านโครงการต่างๆ โดยเฉพาะการสร้างโรงพยาบาลและโครงการผ้าป่าทองคำช่วยชาติ โครงการต่างๆเหล่านี้พวกเราญาติโยมที่มีกำลังต้องช่วยกันต่อไปเพื่อให้สมเจตนาของหลวงตาท่าน
"สำหรับศาลาการเปรียญไม้หลังนี้หลังที่เรามากราบสังขารท่าน หลวงตา เคยบอกว่าอยากจะช่วยกันอนุรักษ์ไว้ แม้จะเป็นศาลาไม้เก่าๆ แต่มีค่าประเมินไม่ได้เพราะเป็นสถานที่สถิตรอยเท้าของหมู่เทพเทวดา พระราชาและพระบรมวงศ์ษานุวงศ์ ไม่อยากให้มีการเปลี่ยนแปลง”
***เตือนระวังมิจฉาชีพฉวยโอกาส
พระอาจารย์นภดล นนทะโน เจ้าอาวาสวัดป่าดอยลับงา จ.กำแพงเพชร เปิดเผยถึงการก่อสร้างเมรุเผาศพหลวงตามหาบัวว่า คาดว่าจะใช้เวลาในการก่อสร้างเมรุเผาศพประมาณ 10 วันน่าจะแล้วเสร็จทันกำหนดงานพระราชทานเพลิงศพ เบื้องต้นที่กำหนดไว้ที่ 5 มี.ค.นี้ เพราะเป็นการก่อสร้างแบบเรียบง่าย เน้นการใช้ปูนและดิน แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ การก่อสร้างห้องน้ำและส่วนขยายที่ต้องรองรับประชาชนที่มาร่วมงานพระราชทานเพลิงศพ
"หลวงตามหาบัว ได้สั่งเสียไว้ว่า อย่าให้ประชาชนที่มาร่วมงานศพได้รับความเดือดร้อน จึงต้องสร้างห้องน้ำ และที่จอดรถให้เพียงพอกับจำนวนประชาชน ขณะเดียวกันได้มีการประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และตำรวจตระเวนชายแดน มากกว่า 150 คน/วัน มาดูแลความปลอดภัยให้กับผู้มาร่วมงานศพในระยะนี้ และหากถึงวันงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงศพ จะมีการประสานเจ้าหน้าที่มาดูแลให้มากกว่านี้ ที่สำคัญประชาชนที่มาร่วมงานศพหลวงตามหาบัว ต้องระวังดูแลตัวเองด้วย เพราะเริ่มมีกลุ่มมิจฉาชีพเข้ามาหาผลประโยชน์ภายในงานวัดป่าบ้านตาดบ้างแล้ว"
อย่างไรก็ตาม ในคืนวันที่ 1 ก.พ. มีการแสดงพระธรรมเทศนา โดยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีตั้งบำเพ็ญกุศลสรีระหลวงตามหาบัว ในพระบรมราชานุเคราะห์ เป็นวันที่สาม
***บริการรถตู้ฟรีกราบสังขาร"หลวงตา"
นายปรเรศร์ ศิรินทร์ภาณุ เจ้าของบริษัท มะลิไท จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการรถเช่าในสนามบินนานาชาติอุดรธานี เปิดเผยว่า ได้นำเอารถตู้ขนาด 10 ที่นั่งมาให้บริการส่งผู้ที่เดินทางมาทางเครื่องบินระหว่างสนามบินอุดรธานี ถึงวัดป่าบ้านตาดฟรี โดยจะจอดรับที่สนามบินให้บริการทุกๆ เที่ยวบินและทุกวัน ดังนั้น ลูกศิษย์และผู้โดยสารที่มีความประสงค์จะเดินทางไปที่วัดป่าบ้านตาด เพื่อนมัสการสังขารขององค์หลวงตามหาบัว ก็สามารถใช้บริการรถตู้ของทางบริษัทได้ โดยทางบริษัทบริการฟรี ไม่ต้องจ่ายค่าโดยสาร ตั้งแต่เที่ยวแรกวันละ 10 เที่ยว โดยจะนำผู้โดยสารไปส่งที่หน้าวัดป่าบ้านตาด
***ห้องพักโรงแรมเกือบเต็มหมดแล้ว
นายสุทัศน์ แพรสุรินทร์ กรรมการสมาคมโรงแรมไทย-สมาคมโรงแรมไทยอิสาน ผู้จัดการฝ่ายห้องพักโรงแรมเจริญโฮเต็ล เปิดเผยว่า ช่วงนี้ห้องพักในจังหวัดอุดรธานีเต็มเกือบทุกที่ โดยเฉพาะโรงแรมเจริญโฮเต็ล มียอดการจองห้องพักล่วงหน้าเกือบ 90% ของห้องพักที่โรงแรมมีอยู่ และขณะนี้ได้มีงานศพของหลวงตามหาบัวขึ้นมาอีก ห้องพักจึงถูกสั่งจองและเข้าพักจากญาติโยมและลูกศิษย์ คาดว่าไม่นานห้องพักของโรงแรมทุกแห่งในอุดรธานีจะเต็มหมด
***คอหวยเฮ!เลขอายุ"หลวงตา"ให้โชค 89
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานีว่า วานนี้ (1ก.พ.) หลังจากที่สลากกินแบ่งรัฐบาลได้ออกประกาศผลการออกสลากงวดประจำวันที่ 1 ก.พ.2554 รางวัลที่ 1 ออกเลข 610089 ทำให้บรรดานักเสี่ยงโชคคอหวยใต้ดินทั้งหลายได้ส่งเสียงเฮลั่น เนื่องจากถูกหวยเลข 89 กันเป็นจำนวน เนื่องจากเลข 89 เป็นตัวเลขที่มาจากอายุของหลวงตามหาบัว ที่ละสังขารในขณะที่อายุ 98 ปี นอกจากนี้เลขท้ายสองตัวล่าง 55 ก็ยังทำให้คอหวยนำไปตีเลขหลังจากที่มีพระรูปหนึ่งบอกว่าหลวงตามหาบัว ละสังขารด้วยอาการสงบจริงๆ ในเวลา 03.55 น.
นอกจากคอหวยในพื้นที่ จ.อุดรธานีที่ถูกเลข 89 และ 55 กันแล้ว คอหวยในพื้นที่จังหวัดอื่นทั่วประเทศต่างก็ถูกเลขดังกล่าวเช่นกัน
***โวยเจ้ามือเอาเปรียบจ่ายครึ่งเดียว
นายเจียม ศรชัย อายุ 60 ปี เจ้าของร้านตัดผมแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ เปิดเผยภายหลังเลข 2 ตัวท้ายสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ออก 610089 ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับอายุของหลวงตามหาบัวว่า บรรดาคอหวยใต้ดินที่ได้แวะเวียนมาใช้บริการตัดผมที่ร้านต่างบ่นว่าหวยที่เกี่ยวเนื่องกับอายุ วันเกิด และเวลาที่มรณภาพของหลวงตามหาบัว เมื่อซื้อถูกเจ้ามือจ่ายเพียงครึ่งเดียว ขณะที่เจ้ามือบางรายล็อกไว้ไม่ยอมขายอ้างว่าเต็ม บางคนไม่สามารถที่จะหาซื้อได้ ต้องไปซื้อเลขตัวที่ใกล้เคียงแทน และหลายคนยังจะติดตามซื้อเลขที่เกี่ยวเนื่องกับหลวงตามหาบัว ไปจนกว่าจะประกอบพิธีพระราชทานเพลิง เพราะเชื่อว่าหลวงตาจะให้โชคกับลูกศิษย์ หรือผู้ที่ให้ความเคารพศรัทธา เพื่อจะได้นำเงินไปร่วมทำบุญสมทบกองทุนช่วยชาติกับหลวงตา ตามความประสงค์ที่หลวงตาได้มุ่งมั่นก่อตั้งเพื่อช่วยเหลือประเทศชาติและสังคมให้พ้นจากวิกฤต