วานนี้(1 ก.พ.)นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกรณีนายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายกลุ่มคนเสื้อแดง ฟ้องนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ ในข้อหาก่อคดีอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ ว่าพี่น้องประชาชนคนไทยเห็นชัดแล้วว่าทนายความคนนี้ พยายามที่จะหลอกต้มมหาเศรษฐี เพื่อเอาเงินเท่านั้น และเป็นคนที่ให้ร้ายประเทศไทยมาโดยตลอด ซึ่งทางกระทรวงการต่างประเทศ ก็ไม่ได้ให้เข้ามาในประเทศไทยอยู่แล้ว ซึ่งเราต้องดูต่อไปว่า สิ่งที่เขาทำ ถ้าเข้าข่ายต้องดำเนินคดีทางกฎหมายก็ต้องว่ากัน
เมื่อถามว่าเพราะอะไรนาย โรเบิร์ต จึงไปยื่นฟ้องศาลที่ประเทศญี่ปุ่น นายสุเทพ กล่าวว่า เขาได้เงิน ได้ค่าจ้างมาก เขาจ้างไว้ทำหน้าที่รับใช้เศรษฐี เพราะฉะนั้นเขาจึงทำ ถามต่อว่า มองว่าเป็นการพยายามเชื่อมโยง ที่นักข่าวญี่ปุ่นถูกยิงเสียชีวิต หรือไม่ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคงกล่าวว่า ไม่ แต่เขาพยายามหาที่จะสร้างภาพ สร้างให้ดูเป็นเรื่องยิ่งใหญ่สำคัญ
“ที่จริง นายโรเบิร์ต ไม่ได้เป็นคนที่รักในเรื่องความถูกต้อง หรือยุติธรรมหรอก แต่เขารักเงินค่าจ้างมากกว่า” นายสุเทพ กล่าว
เมื่อถามว่าการกระทำครั้งนี้จะส่งผลแก่ภาพลักษณ์ของประเทศหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เรามีหน้าที่ที่จะต้องชี้แจงต่อชาวโลก เมือเขาตั้งประเด็นมาไม่ว่าจะเป็นกระทรวงการต่างประเทศ เจ้าหน้าที่ ที่มีหน้าที่ก็ต้องชี้แจงไป เมื่อถามว่าในเมื่อคดีการสลายการชุมนุมเป็นคดีที่สำคัญ ทำไมจึงไม่เร่งดำเนินการ นายสุเทพ กล่าวว่า กำลังรีบเร่งอยู่ ซึ่งนายกฯจึงได้ตั้งคณะกรรมการชุดพิเศษที่มี นายคณิต ณ นคร เป็นประธาน สืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงทั้งหมด ส่วนทางฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งกรมสอบสวนพิเศษ ได้ทำหน้าที่กันอยู่
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่าทางนายคณิต เองกำลังจะหมดความอดทนเพราะไม่ได้รับความร่วมมืออะไรเลยในการทำงาน และในส่วนที่เสนอรัฐบาล รัฐบาลเองก็ไม่ได้ทำอะไร นายสุเทพ กล่าวว่า ท่านอาจารย์คณิต ยังไม่หมดความอดทน เพราะว่า ท่านเป็นผู้ใหญ่ แต่สิ่งที่ท่านอธิบายและบอกออกมานั้น อะไรที่รัฐบาลทำได้ก็ทำ อะไรที่เกินกำลังที่รัฐบาลจะทำได้ก็กราบเรียนท่านให้ทราบ
**อ้าง“มาร์ค” เลือกถือสัญชาติเดียว
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ทังหมดเป็นข้อมูลเก่าที่ยังพยายามอ้างเหตุเพื่อฟ้องนายกฯให้ได้ โดยอ้างสัญชาติว่านายกฯเกิดที่ประเทศอังกฤษสามารถฟ้องร้องศาลอาญาระหว่างประเทศได้ ทั้งที่ในข้อเท็จจริงนายกฯเลือกที่จะใช้สัญชาติไทยมาโดยตลอด ดังนั้น กรณีนี้อาจทำให้ขัดต่อข้อกฎหมายที่ศาลอาญาระหว่างประเทศจะไม่รับฟ้อง ได้แสดงให้เห็นว่านายรอเบิร์ต ไม่ได้ศึกษาข้อกฎหมายอย่างลึกซึ้ง
**ผบ.ทบ.ฮึมฟ้องได้ฟ้องไป
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. กล่าวว่า ก็ฟ้องไป และว่ากันไปตามพยานหลักฐาน ใครใช้อาวุธบ้าง ก็รู้กันอยู่ ขี้เกียจพูดหลายครั้ง เพราะตอบเหมือนเดิมว่า มีการใช้อาวุธกันอยู่ และต้องไปหาสาเหตุว่า ทหาร ตำรวจโดนอะไร ถึงเสียชีวิต
** “ธาริต”โต้ยัน DSI สอบสวนอิสระ
ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวถึงกรณีที่นายอัมสเตอร์ดัมอ้างว่าการทำสำนวนการสอบสวนของดีเอสไอ หากไม่พบหลักฐานว่าใครเป็นคนฆ่าประชาชนก็จะระบุว่าเป็นฝีมือของคนเสื้อแดงว่า การกล่าว หาดังกล่าวไม่เป็นความจริง ที่ผ่านมาสำนวนการสอบสวนสาเหตุการเสียชีวิต 89 ศพ ของดีเอสไอสรุปค่อนข้างชัดเจนโดยแยกพฤติการณ์การกระทำความผิดออกเป็น 3 ส่วน กลุ่มแรกมีความชัดเจนว่าเป็นฝีมือของคนเสื้อแดงกลุ่มการ์ดฮาร์ดคอร์ เนื่องจากเป็นการยิงเอ็ม 79 ใส่ทหาร ตำรวจ และประชาชน โดยกลุ่มการ์ดชุดดำ ซึ่งอาวุธเอ็ม 79 ไม่ใช่อาวุธประจำกายของทหารและตำรวจ โดยมีหลักฐานชัดเจนว่าชุดปฏิบัติการในพื้นที่ไม่ได้เบิกใช้เครื่องยิงเอ็ม79 ในส่วนของการ์ดชุดดำก็ถูกจับกุมดำเนินคดีแล้วจำนวนหนึ่ง
สำนวนคดีกลุ่มที่ 2 เป็นการสรุปสำนวนเบื้องต้นว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิต จึงได้ส่งสำนวนให้ตำรวจพื้นที่ทำสำนวนชันสูตรพลิกศพใหม่ ซึ่งในที่สุดคดีในกลุ่มที่ 2 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตรวม 13 ศพ อาจมีการนำเสนอให้ศาลไต่สวน สำหรับคดีการเสียชีวิตในกลุ่มที่ 3 ยอมรับว่า ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่ากลุ่มใดเป็นผู้กระทำความผิด เนื่องจากยังไม่มีหลักฐานและพยานบ่งชี้จึงจะเห็นได้ว่าดีเอสไอไม่ได้สอบสวนโดยไร้พยานหลักฐาน ตามที่นายอัมสเตอร์ดัมกล่าวอ้าง อย่างไรก็ตาม ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบคำแถลงและคำสัมภาษณ์ของนายอัมสเตอร์ดัมอย่างละเอียดแล้ว
ส่วนกรณีที่นายอัมสเตอร์ดัม กล่าวหาว่าการเสียชีวิตของคนเสื้อแดงไม่ได้รับการตรวจสอบตามกระบวนการยุติธรรมไทย เพราะหน่วยงานภาครัฐไม่มีอิสระในการทำงาน นายธาริต กล่าวว่า ที่ผ่านมาดีเอสไอสอบสวนด้วยความเป็นอิสระตรงไปตรงมา การสรุปสำนวนสาเหตุการเสียชีวิตโดยแยกออกเป็น 3 กลุ่ม เป็นเครื่องยืนยันถึงความโปร่งใส
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นายอัมสเตอร์ดัมยกข้ออ้างว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เกิดที่อังกฤษจึงมีสัญชาติอังกฤษซึ่งเข้าเงื่อนไขการฟ้องร้องต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) นั้น ตนมองว่าการฟ้องคดีต่อไอซีซีจะต้องเป็นการยื่นฟ้องรัฐบาลไม่ใช่การยื่นฟ้องตัวบุคคล
**กกต.ยันสัญชาติ “มาร์ค”ไม่กระทบ
นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวถึงกรณีนายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายความสำนักงานกฎหมายอัมสเตอร์ดัม แอนด์ เปรอฟได้ยื่นฟ้องนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีต่อศาลอาญาระหว่างประเทศโดยอ้างถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ถือสัญชาติอังกฤษซึ่งจะกระทบต่อคุณสมบัติการเป็นส.ส.หรือไม่เพราะต้องถือสัญชาติไทยโดยการเกิดตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 ว่า ตามพ.ร.บ.สัญชาตินั้น ผู้ที่เกิดในประเทศใดก็จะได้รับสัญชาติโดยการเกิดของประเทศนั้น ซึ่งนายอภิสิทธิ์เกิดในประเทศอังกฤษก็จะได้รับสัญชาติอังกฤษโดยการเกิด แต่ทั้งนี้เมื่อบรรลุนิติภาวะแล้วตามพ.ร.บ.สัญชาติสามารถให้บุคคลนั้นเลือกได้ว่าจะถือสัญชาติในประเทศที่เกิดหรือจะถือสัญชาติตามบิดาและมารดา ซึ่งในกรณีนี้นายอภิสิทธิ์จะถือสัญชาติอังกฤษหรือจะถือสัญชาติไทยตามบิดาและมารดาก็ได้เพราะต้องถือสัญชาติใดสัญชาติหนึ่งตามกฎหมาย และเป็นไปได้ที่นายอภิสิทธิ์จะถือสัญชาติไทยตามบิดาและมารดาในภายหลังก่อนจะมาลงสมัครส.ส.
กรณีของนายอภิสิทธิ์ ก่อนลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.จะต้องถือสัญชาติไทยเท่านั้น ซึ่งตนเชื่อว่ากรณีดังกล่าวไม่น่ามีปัญหาในคุณสมบัติการเป็นส.ส.ของนายอภิสิทธิ์ เนื่องจากก่อนจะลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.ทาง กกต.จะต้องมีการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครก่อนลงเลือกตั้ง อย่างไรก็ตามหากเกิดกรณีมีผู้ขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติความเป็นส.ส.ของนายอภิสิทธิ์แล้วก็คงต้องมาตรวจสอบข้อเท็จจริงและกฎหมายอีกครั้ง แต่ทั้งนี้ในกรณีนายอภิสิทธิ์เมื่อลงสมัครส.ส.ได้ก็คงไม่น่ามีปัญหาในเรื่องคุณสมบัติส.ส. ซึ่งตามรัฐธรรมนูญจะกำหนดไว้ในกรณีส.ส.และส.ว.จะลงสมัครรับเลือกตั้งได้จะต้องมีสัญชาติไทย
** “ไอ้ตู่” คุย “ไอ้ดัม” ข้อมูลเจ๋ง
นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช. กล่าวว่า ขณะนี้มีกระบวนการขัดขวางการไปให้การต่อองค์กรสิทธิมนุษยชนที่ประเทศอังกฤษ ของนางพะเยาว์ อัดฮาด มารดา ของ น.ส.กมลเกด อัคฮาด อาสาสมัครพยาบาล ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ในวัดปทุมวนาราม ทั้งที่ประเทศอังกฤษเป็นคนเชิญ เรื่องนี้ทุกคนรู้ดีว่า ทูตอังกฤษในประเทศไทยบางคนไปรับเงินจากบริษัทไทยเบฟเวอเรจ แล้วก็มาเล่นบทเป็นทูตในประเทศไทย เป็นเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนคนอังกฤษบางคนพยายามปิดกั้นไม่ให้คนไทยไปให้ ข้อมูล
ส่วนกรณีสัญชาติของนายอภิสิทธิ์ นั้น นายอภิสิทธิ์ เกิดที่เมืองนิวคาสเซิ่ล ประเทศอังกฤษ โดยการเกิดจึงได้รับสิทธิแล้วทางสำนักกฎหมายอัมสเตอร์ดัม แอนด์เปรอฟ ไปค้นพบหลักฐานชิ้นนี้ เชื่อว่าอัมสเตอร์ดัมฯ ที่ทำเรื่องนี้ไม่หมูแน่นอน และนายอภิสิทธิ์ก็ไม่ได้ ตอบในเรื่องนั้นๆ เพียงแต่มาเฉไฉ ย้อนด้วยเรื่องสัญชาติมอนเตเนโกร
เมื่อถามว่าเพราะอะไรนาย โรเบิร์ต จึงไปยื่นฟ้องศาลที่ประเทศญี่ปุ่น นายสุเทพ กล่าวว่า เขาได้เงิน ได้ค่าจ้างมาก เขาจ้างไว้ทำหน้าที่รับใช้เศรษฐี เพราะฉะนั้นเขาจึงทำ ถามต่อว่า มองว่าเป็นการพยายามเชื่อมโยง ที่นักข่าวญี่ปุ่นถูกยิงเสียชีวิต หรือไม่ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคงกล่าวว่า ไม่ แต่เขาพยายามหาที่จะสร้างภาพ สร้างให้ดูเป็นเรื่องยิ่งใหญ่สำคัญ
“ที่จริง นายโรเบิร์ต ไม่ได้เป็นคนที่รักในเรื่องความถูกต้อง หรือยุติธรรมหรอก แต่เขารักเงินค่าจ้างมากกว่า” นายสุเทพ กล่าว
เมื่อถามว่าการกระทำครั้งนี้จะส่งผลแก่ภาพลักษณ์ของประเทศหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เรามีหน้าที่ที่จะต้องชี้แจงต่อชาวโลก เมือเขาตั้งประเด็นมาไม่ว่าจะเป็นกระทรวงการต่างประเทศ เจ้าหน้าที่ ที่มีหน้าที่ก็ต้องชี้แจงไป เมื่อถามว่าในเมื่อคดีการสลายการชุมนุมเป็นคดีที่สำคัญ ทำไมจึงไม่เร่งดำเนินการ นายสุเทพ กล่าวว่า กำลังรีบเร่งอยู่ ซึ่งนายกฯจึงได้ตั้งคณะกรรมการชุดพิเศษที่มี นายคณิต ณ นคร เป็นประธาน สืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงทั้งหมด ส่วนทางฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งกรมสอบสวนพิเศษ ได้ทำหน้าที่กันอยู่
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่าทางนายคณิต เองกำลังจะหมดความอดทนเพราะไม่ได้รับความร่วมมืออะไรเลยในการทำงาน และในส่วนที่เสนอรัฐบาล รัฐบาลเองก็ไม่ได้ทำอะไร นายสุเทพ กล่าวว่า ท่านอาจารย์คณิต ยังไม่หมดความอดทน เพราะว่า ท่านเป็นผู้ใหญ่ แต่สิ่งที่ท่านอธิบายและบอกออกมานั้น อะไรที่รัฐบาลทำได้ก็ทำ อะไรที่เกินกำลังที่รัฐบาลจะทำได้ก็กราบเรียนท่านให้ทราบ
**อ้าง“มาร์ค” เลือกถือสัญชาติเดียว
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ทังหมดเป็นข้อมูลเก่าที่ยังพยายามอ้างเหตุเพื่อฟ้องนายกฯให้ได้ โดยอ้างสัญชาติว่านายกฯเกิดที่ประเทศอังกฤษสามารถฟ้องร้องศาลอาญาระหว่างประเทศได้ ทั้งที่ในข้อเท็จจริงนายกฯเลือกที่จะใช้สัญชาติไทยมาโดยตลอด ดังนั้น กรณีนี้อาจทำให้ขัดต่อข้อกฎหมายที่ศาลอาญาระหว่างประเทศจะไม่รับฟ้อง ได้แสดงให้เห็นว่านายรอเบิร์ต ไม่ได้ศึกษาข้อกฎหมายอย่างลึกซึ้ง
**ผบ.ทบ.ฮึมฟ้องได้ฟ้องไป
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. กล่าวว่า ก็ฟ้องไป และว่ากันไปตามพยานหลักฐาน ใครใช้อาวุธบ้าง ก็รู้กันอยู่ ขี้เกียจพูดหลายครั้ง เพราะตอบเหมือนเดิมว่า มีการใช้อาวุธกันอยู่ และต้องไปหาสาเหตุว่า ทหาร ตำรวจโดนอะไร ถึงเสียชีวิต
** “ธาริต”โต้ยัน DSI สอบสวนอิสระ
ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวถึงกรณีที่นายอัมสเตอร์ดัมอ้างว่าการทำสำนวนการสอบสวนของดีเอสไอ หากไม่พบหลักฐานว่าใครเป็นคนฆ่าประชาชนก็จะระบุว่าเป็นฝีมือของคนเสื้อแดงว่า การกล่าว หาดังกล่าวไม่เป็นความจริง ที่ผ่านมาสำนวนการสอบสวนสาเหตุการเสียชีวิต 89 ศพ ของดีเอสไอสรุปค่อนข้างชัดเจนโดยแยกพฤติการณ์การกระทำความผิดออกเป็น 3 ส่วน กลุ่มแรกมีความชัดเจนว่าเป็นฝีมือของคนเสื้อแดงกลุ่มการ์ดฮาร์ดคอร์ เนื่องจากเป็นการยิงเอ็ม 79 ใส่ทหาร ตำรวจ และประชาชน โดยกลุ่มการ์ดชุดดำ ซึ่งอาวุธเอ็ม 79 ไม่ใช่อาวุธประจำกายของทหารและตำรวจ โดยมีหลักฐานชัดเจนว่าชุดปฏิบัติการในพื้นที่ไม่ได้เบิกใช้เครื่องยิงเอ็ม79 ในส่วนของการ์ดชุดดำก็ถูกจับกุมดำเนินคดีแล้วจำนวนหนึ่ง
สำนวนคดีกลุ่มที่ 2 เป็นการสรุปสำนวนเบื้องต้นว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิต จึงได้ส่งสำนวนให้ตำรวจพื้นที่ทำสำนวนชันสูตรพลิกศพใหม่ ซึ่งในที่สุดคดีในกลุ่มที่ 2 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตรวม 13 ศพ อาจมีการนำเสนอให้ศาลไต่สวน สำหรับคดีการเสียชีวิตในกลุ่มที่ 3 ยอมรับว่า ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่ากลุ่มใดเป็นผู้กระทำความผิด เนื่องจากยังไม่มีหลักฐานและพยานบ่งชี้จึงจะเห็นได้ว่าดีเอสไอไม่ได้สอบสวนโดยไร้พยานหลักฐาน ตามที่นายอัมสเตอร์ดัมกล่าวอ้าง อย่างไรก็ตาม ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบคำแถลงและคำสัมภาษณ์ของนายอัมสเตอร์ดัมอย่างละเอียดแล้ว
ส่วนกรณีที่นายอัมสเตอร์ดัม กล่าวหาว่าการเสียชีวิตของคนเสื้อแดงไม่ได้รับการตรวจสอบตามกระบวนการยุติธรรมไทย เพราะหน่วยงานภาครัฐไม่มีอิสระในการทำงาน นายธาริต กล่าวว่า ที่ผ่านมาดีเอสไอสอบสวนด้วยความเป็นอิสระตรงไปตรงมา การสรุปสำนวนสาเหตุการเสียชีวิตโดยแยกออกเป็น 3 กลุ่ม เป็นเครื่องยืนยันถึงความโปร่งใส
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นายอัมสเตอร์ดัมยกข้ออ้างว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เกิดที่อังกฤษจึงมีสัญชาติอังกฤษซึ่งเข้าเงื่อนไขการฟ้องร้องต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) นั้น ตนมองว่าการฟ้องคดีต่อไอซีซีจะต้องเป็นการยื่นฟ้องรัฐบาลไม่ใช่การยื่นฟ้องตัวบุคคล
**กกต.ยันสัญชาติ “มาร์ค”ไม่กระทบ
นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวถึงกรณีนายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายความสำนักงานกฎหมายอัมสเตอร์ดัม แอนด์ เปรอฟได้ยื่นฟ้องนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีต่อศาลอาญาระหว่างประเทศโดยอ้างถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ถือสัญชาติอังกฤษซึ่งจะกระทบต่อคุณสมบัติการเป็นส.ส.หรือไม่เพราะต้องถือสัญชาติไทยโดยการเกิดตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 ว่า ตามพ.ร.บ.สัญชาตินั้น ผู้ที่เกิดในประเทศใดก็จะได้รับสัญชาติโดยการเกิดของประเทศนั้น ซึ่งนายอภิสิทธิ์เกิดในประเทศอังกฤษก็จะได้รับสัญชาติอังกฤษโดยการเกิด แต่ทั้งนี้เมื่อบรรลุนิติภาวะแล้วตามพ.ร.บ.สัญชาติสามารถให้บุคคลนั้นเลือกได้ว่าจะถือสัญชาติในประเทศที่เกิดหรือจะถือสัญชาติตามบิดาและมารดา ซึ่งในกรณีนี้นายอภิสิทธิ์จะถือสัญชาติอังกฤษหรือจะถือสัญชาติไทยตามบิดาและมารดาก็ได้เพราะต้องถือสัญชาติใดสัญชาติหนึ่งตามกฎหมาย และเป็นไปได้ที่นายอภิสิทธิ์จะถือสัญชาติไทยตามบิดาและมารดาในภายหลังก่อนจะมาลงสมัครส.ส.
กรณีของนายอภิสิทธิ์ ก่อนลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.จะต้องถือสัญชาติไทยเท่านั้น ซึ่งตนเชื่อว่ากรณีดังกล่าวไม่น่ามีปัญหาในคุณสมบัติการเป็นส.ส.ของนายอภิสิทธิ์ เนื่องจากก่อนจะลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.ทาง กกต.จะต้องมีการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครก่อนลงเลือกตั้ง อย่างไรก็ตามหากเกิดกรณีมีผู้ขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติความเป็นส.ส.ของนายอภิสิทธิ์แล้วก็คงต้องมาตรวจสอบข้อเท็จจริงและกฎหมายอีกครั้ง แต่ทั้งนี้ในกรณีนายอภิสิทธิ์เมื่อลงสมัครส.ส.ได้ก็คงไม่น่ามีปัญหาในเรื่องคุณสมบัติส.ส. ซึ่งตามรัฐธรรมนูญจะกำหนดไว้ในกรณีส.ส.และส.ว.จะลงสมัครรับเลือกตั้งได้จะต้องมีสัญชาติไทย
** “ไอ้ตู่” คุย “ไอ้ดัม” ข้อมูลเจ๋ง
นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช. กล่าวว่า ขณะนี้มีกระบวนการขัดขวางการไปให้การต่อองค์กรสิทธิมนุษยชนที่ประเทศอังกฤษ ของนางพะเยาว์ อัดฮาด มารดา ของ น.ส.กมลเกด อัคฮาด อาสาสมัครพยาบาล ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ในวัดปทุมวนาราม ทั้งที่ประเทศอังกฤษเป็นคนเชิญ เรื่องนี้ทุกคนรู้ดีว่า ทูตอังกฤษในประเทศไทยบางคนไปรับเงินจากบริษัทไทยเบฟเวอเรจ แล้วก็มาเล่นบทเป็นทูตในประเทศไทย เป็นเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนคนอังกฤษบางคนพยายามปิดกั้นไม่ให้คนไทยไปให้ ข้อมูล
ส่วนกรณีสัญชาติของนายอภิสิทธิ์ นั้น นายอภิสิทธิ์ เกิดที่เมืองนิวคาสเซิ่ล ประเทศอังกฤษ โดยการเกิดจึงได้รับสิทธิแล้วทางสำนักกฎหมายอัมสเตอร์ดัม แอนด์เปรอฟ ไปค้นพบหลักฐานชิ้นนี้ เชื่อว่าอัมสเตอร์ดัมฯ ที่ทำเรื่องนี้ไม่หมูแน่นอน และนายอภิสิทธิ์ก็ไม่ได้ ตอบในเรื่องนั้นๆ เพียงแต่มาเฉไฉ ย้อนด้วยเรื่องสัญชาติมอนเตเนโกร