xs
xsm
sm
md
lg

“เทพไท” เฉ่ง พท.ดึง “ป๋า” เอี่ยวการเมือง จินตนาการหลอนกระแสปฏิวัติ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เทพไท  เสนพงศ์
โฆษกมาร์ค ชำแหละเพื่อไทย ปูดข่าวชั่วดึง “ป๋า” เอี่ยวการเมือง จินตนาการหลอนกระแสปฏิวัติ อ้างทนายแม้ว งัดข้อมูลเก่าเล่นงานสัญชาติ “มาร์ค” เย้ย แค่สุกเอาเผากินหวังโกยเงิน “แม้ว” มั่นใจ “เสธ.หนั่น” ไม่หลวมตัวให้ฝ่ายค้านยืมชื่อเสนอตัวนายกฯสำรองในญัตติซักฟอก ชี้ แค่ข่าวปล่อยเสี้ยมให้พรรคร่วมแตก

วันนี้ (1 ก.พ.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ส.ส.พรรคเพื่อไทยออกมาตอกย้ำกระแสข่าวการปฏิวัติ ว่า เรื่องดังกล่าวสังคมต่างเอือมระอา แต่พรรคเพื่อไทยก็พยายามสร้างเรื่องขึ้นมาสนับสนุนว่าการปฏิวัติมีอยู่จริง เช่น การพูดถึง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี เดินทางไป จ.เพชรบูรณ์ โดยพยายามตั้งข้อสังเกตว่า ไปเพื่อเตรียมการปฏิวัติหรือไม่ ทั้งที่ท่านมีตำแหน่งเป็นประธานองคมนตรี ไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองอายุของท่านก็ถือเป็นผู้อาวุโส จะเกี่ยวข้องกับการปฏิวัติได้อย่างไร แต่กลุ่มคนเหล่านี้ก็พยายามลาก และป้ายสีใส่ร้าย พล.อ.เปรม ว่า มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ตลอดมา ตั้งแต่ในยุค คมช.จนถึงปัจจุบัน จึงขอถามว่าเมื่อไหร่คนเหล่านี้จะเลิกดึงสถาบันองคมนตรีมาเกี่ยวโยงกับการเมืองเสียที ควรจะยกเลิกการเคลื่อนไหวทางการเมืองในลักษณะตีวัวกระทบคราด เพราะการใส่ร้ายสถาบันองคมนตรียิ่งกระทบสถาบันเบื้องสูงไม่ได้

ส่วนที่ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยออกมาปูดข่าวว่า มีการเคลื่อนย้ายกำลังพลผ่านถนนมอเตอร์เวย์สู่ ม.พัน 2 โดยอ้างว่าเป็นการเคลื่อนกำลังจากกลุ่มบูรพาพยัคฆ์มาเตรียมการปฏิวัตินั้น ก็ล้วนเป็นการสร้างเรื่องจากจินตนาการให้สอดคล้องกับประเด็นที่พวกพ้องของพรรคเพื่อไทยและแกนนำนปช.ได้สร้างกระแสไว้แล้วทั้งสิ้น คนพวกนี้พยายามปล่อยข่าวด้วยข้อมูลเท็จเพื่อสร้างข่าวลือ เมื่อข่าวได้รับการนำมาลือต่อไปเรื่อยๆ และวกกลับมาถึงตัวเอง จึงเชื่อว่ามีมูลความจริง จึงจัดเข้าเป็นคนประเภทขวัญอ่อน กลัวการปฏิวัติจนขี้ขึ้นหัวเหมือนกุ้ง ดังนั้นจึงอยากให้พรรคเพื่อไทยหยุดสร้างข่าวเท็จปล่อยข่าวลือและทำงานประเภทปั้นน้ำเป็นตัวเสียที เพราะขณะนี้สังคมสับสนกับข่าวปล่อยต่างๆ มากพอแล้ว

นายเทพไท กล่าวถึงกรณีที่ นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยื่นฟ้องนายกฯต่อศาลอาญาระหว่างประเทศและได้วีดีโอลิ้งค์มายังประเทศไทย ว่า ทั้งหมดเป็นข้อมูลเก่าที่ยังพยายามอ้างเหตุเพื่อฟ้องนายกฯให้ได้ โดยอ้างสัญชาติว่านายกฯเกิดที่ประเทศอังกฤษ สามารถฟ้องร้องศาลอาญาระหว่างประเทศได้ ทั้งที่ในข้อเท็จจริงนายกฯเลือกที่จะใช้สัญชาติไทยมาโดยตลอด ดังนั้น กรณีนี้อาจทำให้ขัดต่อข้อกฏหมายที่ศาลอาญาระหว่างประเทศจะไม่รับฟ้องได้ แสดงให้เห็นว่า นายโรเบิร์ต ไม่ได้ศึกษาข้อกฎหมายอย่างลึกซึ้ง ทำงานในลักษณะสุกเอาเผากิน เพื่อรับจ้างแค่เอาเงินจาก พ.ต.ท.ทักษิณ โดยทำให้เกิดข่าวเป็นกระแสแต่ไม่หวังในผลคดี การฟ้องร้องครั้งนี้อาจเป็นผลดีต่อนายโรเบิร์ต และ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่เป็นการทำลายชื่อเสียง และภาพลักษณ์ของชาติไทยและคนไทยทั้งชาติ ถือเป็นอีกขบวนการที่มีการเคลื่อนไหวทุกรูปแบบเพื่อประโยชน์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพียงคนเดียว

โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าวที่พรรคเพื่อไทยใช้ชื่อของ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกฯ และกรรมการที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา มาใช้ในการแนบญัตติเป็นชื่อนายกฯสำรองในญัตติการขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ไม่น่าเชื่อว่าข่าวนี้จะเป็นความจริง เพราะ พล.ต.สนั่น ถือเป็นผู้อาวุโสทางการเมืองและผ่านร้อนหนาวทางการเมืองมามาก คงไม่หลวมตัวตกเป็นเครื่องมือของคนพรรคเพื่อไทย เพียงเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งภายในพรรคเพื่อไทยที่ยังมีการชิงการนำระหว่างกลุ่มของนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ และร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.พรรคเพื่อไทย และเชื่อว่าพล.ต.สนั่นรู้มารยาททางการเมืองดีว่า ขณะนี้ยังเป็นรองนายกฯในรัฐบาลปัจจุบัน และเชื่อว่า การออกมาปล่อยข่าวนี้ของพรรคเพื่อไทยคาดว่าจะเป็นการเสี้ยมให้พรรคร่วมรัฐบาลแตกแยกหวาดระแวงกันเอง 2.เกิดจากความไม่ลงตัวของคนในพรรคเพื่อไทยที่ชิงการนำในพรรค 3.การหวังผลทางการเมืองในอนาคต เป็นการโยนหินถามทางเพื่อทาบทาม พล.ต.สนั่น มาเป็นผู้นำพรรคในการเลือกตั้งครั้งหน้า 4.อาจเป็นการได้รับสัญญาณจากนายใหญ่ให้เอาคนนอกพรรคที่มีประสบการณ์ทางการเมืองมานำพรรค

นายเทพไท กล่าวว่า หากเป็นจริงก็เชื่อว่าจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาในพรรคเพื่อไทยได้ แต่กลับเป็นการเพิ่มปัญหาความขัดแย้งขึ้นอีก เพราะเดิมก็มีผู้อาวุโสที่เฝ้าพรรคหลายคนแล้ว ทั้งพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย กลุ่มของร.ต.อ.เฉลิมที่มีส.ส.ฮาร์ตคอร์ ยังยืนยันที่จะผลักดันนายตัวเองขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค และกลุ่มของนายมิ่งขวัญที่ลงทุนควักกระเป๋าจ่ายท่อน้ำเลี้ยงให้ส.ส.ทุกเดือนก็คงไม่ยอม นอกจากนี้ยังมีกลุ่มหวังฟลุ๊คของนายวิทยา บูรณศิริ ประธานวิปฝ่ายค้าน พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาคนที่ 2 พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย และ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย ฉะนั้นการที่พรรคเพื่อไทยประกาศจะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจก่อนวันที่ 11 ก.พ.นี้จึงเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ การตีปี๊บสร้างข่าวนี้ก็คงเป็นแค่การสร้างข่าวข่มขวัญทางการเมืองมากกว่า เพราะแม้แต่ตัวของนายกฯสำรองยังต้องไปขอยืมชื่อจากพรรคการเมืองอื่นมาใช้ซึ่งเข้าภาษิตไทยที่ว่า เอาลูกเขามาเลี้ยง เอาเมี่ยงเขามาอม นับประสาอะไรกับตัวเนื้อหาในญัตติคงจะเอาข้อมูลตัดแปะจากสื่อมายื่นเป็นญัตติเช่นที่เคยทำแน่

นายเทพไท ยังกล่าวตอบโต้กรณีที่ นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย อ้างคำพูดของแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ว่า พรรคประชาธิปัตย์ ได้เกณฑ์คนมาร่วมชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช และ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ โดยได้แจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับ ส.ส.ประชาธิปัตย์ ทั้งพรรคว่ามีส่วนร่วมในการปิดล้อมรัฐสภาและทำเนียบรัฐบาล เพื่อล้มล้างรัฐบาล ว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการชุมนุมของกลุ่ม พธม.แต่อย่างใด ส่วนการจะเข้าร่วมชุมนุมของสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ก็ถือเป็นสิทธิส่วนบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคจึงไม่ควรเหมารวมว่าเป็นเรื่องของพรรค การชุมนุมครั้งนั้น เมื่อสมาชิกพรรคเห็นว่าข้อเรียกร้องในการชุมนุมสอดคล้องกับอารมณ์ความรู้สึกและกระแสของสังคมไทยส่วนใหญ่ ก้เป็นเรื่องที่แต่ละบุคคลจะเข้าร่วมชุมนุมได้โดยอิสระ และไม่มีเฉพาะสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้น ยังมีสมาชิกพรรคการเมืองอื่นและคนทั่วไปที่เห็นว่าระบอบทักษิณเป็นต่อชาติบ้านเมือง เหมือนกับการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯครั้งนี้ เมื่อข้อเรียกร้องไม่สมเหตุผล ก็มีผู้เข้าร่วมชุมนุมน้อย ถือเป็นเรื่องธรรมดาของการชุมนุมทางการเมือง ขอยืนยันว่าพรรคไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวทางการเมืองนอกสภาเด็ดขาด
กำลังโหลดความคิดเห็น