ASTV ผู้จัดการรายวัน - เอส เอ็น ซี ฟอร์เมอร์ เผย อยู่ระหว่างพิจารณาเข้าร่วมทุนกับบริษัทเครื่องปรับอากาศทั้งในประเทศ-ต่างประเทศ หวังดันรายได้เติบโตต่อเนื่อง คาดได้ข้อสรุปภายใน 3 ปี เล็ง โรดโชว์ต่างประเทศ ก.พ.-มี.ค. ดึงต่างชาติถือหุ้นเพิ่ม คาดรายได้ปีนี้แตะ 1 หมื่นล้านบาท พร้อมปันผลงวดปี 53 รวม 1 บาทต่อหุ้น
นายสมชัย ไทยสงวนวรกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอส เอ็น ซี ฟอร์เมอร์ จำกัด (มหาชน)หรือ SNC เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนที่จะเข้าไปร่วมทุนกับบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับทาง SNC เพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้า –กำลังการผลิตของบริษัทมากขึ้น เพื่อให้บริษัทมีรายได้เติบโตที่สูงมากขึ้น โดยการร่วมทุนมี 3 แนวทางคือการเข้าไปถือหุ้น หรือ การจัดตั้งบริษัทร่วมทุน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับบริษัททั้งในประเทศและต่างประเทศจำนวน 3 ราย โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 3 ปี
ทั้งนี้บริษัทมีแผนที่จะไปนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์)ต่างประเทศมากขึ้น เนื่องจากบริษัทอยากมีผู้ถือหุ้นเป็นนักลงทุนต่างชาติมากขึ้น เพราะจะทำให้บริษัทมีภาพลักษณ์ที่ดี เป็นบริษัทที่ดี และจะยิ่งส่งผลให้เป็นที่น่าสนใจของนักลงทุนรายย่อยให้เข้ามาลงทุนในหุ้นของบริษัทมากขึ้น โดยประเทศที่บริษัทจะไปโรดโชว์เบื้องต้นจะเป็นแถบเอเซียก่อน ซึ่งจะไปประมาณเดือนกุมภาพันธ์ หรือ มีนาคมนี้
“หากนักลงทุนต่างประเทศสนใจที่จะเข้ามาลงทุนนั้นก็จะเข้ามาจากการซื้อหุ้นในกระดานไม่ได้มีการเอาหุ้นของตนเองมาขาย เพราะ ส่วนตัวมีนโยบายที่จะไม่ขายหุ้นออกมาจากที่ต้องการเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ และป้องกันไม่ให้มีใครเข้ามาเทคโอเวอร์บริษัท จากการที่บริษัทมีฐานรายได้ที่สูงขึ้นการที่จะบริษัทจะมีอัตราการเติบรายได้โตที่สูงนั้นก็จะต้องไปลงทุนหรือร่วมทุนกับบริษัทอื่น ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาที่จะหาพันธมิตรใหม่ ”นายสมชัย กล่าว
สำหรับผลประกอบการปีนี้ บริษัทคาดว่าจะมีรายได้เติบโต 20% หรือมีรายได้ 10,000 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิคาดว่าจะมีการเติบโตเป็นเลข 2 หลักเช่นกัน จากปี2553 ที่มีรายได้รวมจำนวน 8,200 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 380 ล้านบาท เนื่องจาก ยอดขายที่เพิ่มขึ้น และบริษัทบริหารต้นทุนได้ดีจากการใช้ประสิทธิภาพของโรงงานได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับในปีนี้บริษัทฯไม่มีแผนที่จะใช้เงินลงทุนเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันที่ใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 60% ของกำลังการผลิตรวม
ขณะเดียวกัน บริษัทฯจะลงทุนขยายกำลังการผลิตเพิ่ม จากที่ใช้อยู่ 85% นอกจากนี้ปัจจุบันบริษัทฯยังได้รับคำสั่งซื้อเข้ามาแล้ว โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปในการเจรจากับลูกค้ารายใหม่และ Supplier จำนวน 3-4 ราย ซึ่งอยู่ในญี่ปุ่น ประมาณ ช่วงไตรมาส 1 /54 หรือ ไตรมาส2/54 นี้ รวมถึงจะมีการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการในปี 2553 รวม 1 บาท ซึ่งจ่ายไปแล้วในอัตรา 0.65 บาท ในงวดครึ่งปีแรกที่ผ่านมา และจะจ่ายอีกครั้งในอัตรา 0.35 บาทต่อหุ้น ในเดือนเมษายนนี้ ซึ่งจะสูงกว่าปี 2552 ที่มีการจ่ายรวมอัตรา 0.70 บาทต่อหุ้น
นายสมชัย ไทยสงวนวรกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอส เอ็น ซี ฟอร์เมอร์ จำกัด (มหาชน)หรือ SNC เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนที่จะเข้าไปร่วมทุนกับบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับทาง SNC เพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้า –กำลังการผลิตของบริษัทมากขึ้น เพื่อให้บริษัทมีรายได้เติบโตที่สูงมากขึ้น โดยการร่วมทุนมี 3 แนวทางคือการเข้าไปถือหุ้น หรือ การจัดตั้งบริษัทร่วมทุน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับบริษัททั้งในประเทศและต่างประเทศจำนวน 3 ราย โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 3 ปี
ทั้งนี้บริษัทมีแผนที่จะไปนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์)ต่างประเทศมากขึ้น เนื่องจากบริษัทอยากมีผู้ถือหุ้นเป็นนักลงทุนต่างชาติมากขึ้น เพราะจะทำให้บริษัทมีภาพลักษณ์ที่ดี เป็นบริษัทที่ดี และจะยิ่งส่งผลให้เป็นที่น่าสนใจของนักลงทุนรายย่อยให้เข้ามาลงทุนในหุ้นของบริษัทมากขึ้น โดยประเทศที่บริษัทจะไปโรดโชว์เบื้องต้นจะเป็นแถบเอเซียก่อน ซึ่งจะไปประมาณเดือนกุมภาพันธ์ หรือ มีนาคมนี้
“หากนักลงทุนต่างประเทศสนใจที่จะเข้ามาลงทุนนั้นก็จะเข้ามาจากการซื้อหุ้นในกระดานไม่ได้มีการเอาหุ้นของตนเองมาขาย เพราะ ส่วนตัวมีนโยบายที่จะไม่ขายหุ้นออกมาจากที่ต้องการเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ และป้องกันไม่ให้มีใครเข้ามาเทคโอเวอร์บริษัท จากการที่บริษัทมีฐานรายได้ที่สูงขึ้นการที่จะบริษัทจะมีอัตราการเติบรายได้โตที่สูงนั้นก็จะต้องไปลงทุนหรือร่วมทุนกับบริษัทอื่น ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาที่จะหาพันธมิตรใหม่ ”นายสมชัย กล่าว
สำหรับผลประกอบการปีนี้ บริษัทคาดว่าจะมีรายได้เติบโต 20% หรือมีรายได้ 10,000 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิคาดว่าจะมีการเติบโตเป็นเลข 2 หลักเช่นกัน จากปี2553 ที่มีรายได้รวมจำนวน 8,200 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 380 ล้านบาท เนื่องจาก ยอดขายที่เพิ่มขึ้น และบริษัทบริหารต้นทุนได้ดีจากการใช้ประสิทธิภาพของโรงงานได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับในปีนี้บริษัทฯไม่มีแผนที่จะใช้เงินลงทุนเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันที่ใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 60% ของกำลังการผลิตรวม
ขณะเดียวกัน บริษัทฯจะลงทุนขยายกำลังการผลิตเพิ่ม จากที่ใช้อยู่ 85% นอกจากนี้ปัจจุบันบริษัทฯยังได้รับคำสั่งซื้อเข้ามาแล้ว โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปในการเจรจากับลูกค้ารายใหม่และ Supplier จำนวน 3-4 ราย ซึ่งอยู่ในญี่ปุ่น ประมาณ ช่วงไตรมาส 1 /54 หรือ ไตรมาส2/54 นี้ รวมถึงจะมีการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการในปี 2553 รวม 1 บาท ซึ่งจ่ายไปแล้วในอัตรา 0.65 บาท ในงวดครึ่งปีแรกที่ผ่านมา และจะจ่ายอีกครั้งในอัตรา 0.35 บาทต่อหุ้น ในเดือนเมษายนนี้ ซึ่งจะสูงกว่าปี 2552 ที่มีการจ่ายรวมอัตรา 0.70 บาทต่อหุ้น