ASTVผู้จัดการรายวัน - “สนธิ” ยกคุณูปการ 98 ปี “หลวงตามหาบัว” ก่อนละสังขาร ให้เชื่อในคำสอนพระพุทธเจ้า “บาปบุญ นรกสวรรค์มีจริง ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว” เผยหลวงตาสู้นักการเมืองและพวกสมคบคิด “รวมบัญชี” จ้องหาประโยชน์จากคลังหลวง-ทุนสำรองประเทศ
วานนี้ (30 ม.ค.) นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวบนเวทีพันธมิตรฯ"รวมพลังปกป้องแผ่นดิน" ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ ตอนหนึ่ง ว่า ตนได้มีโอกาสเข้าพบหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด ก่อนที่ท่านจะละสังขาร ตนได้เข้าขอขมาที่ห้องท่าน เอาศรีษะไปนาบเท้าของท่าน เมื่อเวลา 12.50 น. วันที่ 29 ม.ค. และหลังจากนั้น 15 ชั่วโมงท่านก็ละสังขารไป หลาวงตามหาบัวท่านถือเป็นพระสายปฏิบัติ เป็นพ่อแม่ครูบาอาจารย์ ที่เอาธรรมมาสอนผม ท่านเคยบอกว่า สนธิ ขอให้เชื่อพระพุทธเจ้าว่า บาปมีจริง บุญมีจริง นรกมีจริง สวรรค์มีจริง ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
การที่หลวงตามาบัว ท่านละสังขารนั้น ตนยอมรับว่า ใจหาย แต่ไม่ได้ร้องไห้ ท่านบอกตนเสมอว่า เมื่อเราเป็นลูกศิษย์ ตถาคต ต้องเข้าใจการดับไป หลาวงตามหาบัวท่านอายุ 98 ปี มีคุณูปการ ในชีวิต ถือว่ามากกว่า พวกระยำที่นั่งอยู่ในทำเนียบรัฐบาลมาทุกยุคทุกสมัย โดยเฉพาะสมัยพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล ในสมัยนายชวน หลักภัย เป็นหัวหน้าพรรค มีนายธารินทร์ นิมมานเหมินท์ เป็น รมว.คลัง มีความพยายามที่จะสมคบคิดจะรวมบัญชี ระหว่างเงินคงคลังกับเงินประเทศ รวมบัญชีเอาเงินคลังหลวงไปใช้
“แต่ฌาณของท่านตั้งแต่ยุคนั้นแล้ว ท่านบอกว่า ไอ้พวกนี้มันกำลังจะขายชาติ ท่านพูดตั้งแต่ปี 2540 ว่าไอ้พวกนี้ มันจะขายชาติ เรายอมไม่ได้ เราต้องลุกมาสู้กับพวกมัน”นายสนธิ กล่าว
นายสนธิ กล่าวต่อว่า ครั้งหลังสุดก่อนที่หลาวงตามหาบัวท่านจะอาพาธหนัก ท่านพูดได้อยู่ ท่านจะไม่พูดเรื่องการเมืองใด ๆ กับใคร นอกจากจะอยู่ใกล้ ๆกัน เวลาที่ตนอยู่กับท่าน และกับเจ๊หมวยโยมอุปฐากท่าน ก็จะคุยกันเรื่องการบ้านการเมือง ครั้งหนึ่งท่านบอกกับตนว่า ไอ้คนที่ต้องตัดคอลงนรก มีอยู่ 5 คน และ 3 คนก็คือ คนในยุคที่มีความพยายาม ที่ตะรวมเงินคลังหลวง บอกว่า ยังเหลืออีก 2 คน อันนี้ตนไม่พูด แต่ให้เดากันเอง ว่า 2 คนนั้น คือใคร
หลวงตามหาบัว บอกกับตนว่า คนที่ตั้งใจทำงานให้ชาติบ้านเมืองจะถูกคนเข้าใจผิดเสมอ ในช่วงที่ท่านระดมเงินทำผ้าป่าช่วยชาติ พระสงฆ์หลายสาย นักการเมืองหลายคนตำหนิ ว่า ท่านไม่ควรอย่ามายุ่งเรื่องทางโลก อย่ามายุ่งเงินทอง ตนเห็นว่าตลอดชีวิตท่านไม่เคยแตะเงินแม้แต่บาทเดียว ใครเอาอะไรเอาเงินไปถวาย ท่านก็ให้เขียนใบปวารณา เงินที่เอาไปพึงพาโรงพยาบาลที่อุดรธานี ก็เป็นเงินที่รับบริจาคไปซื้อรถ เครื่อฉายเอ๊กซเรย์ ท่านยังนำรถยนต์ที่ท่านได้รับถวายไปให้โรงพยาบาลใช้ต่างกับ ไอ้พวกกระทรวงสาธารณสุขมันยังทำไม่ได้
นายสนธิ กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2540 ท่านทำผ้าป่าช่วยชาติ ให้คนไทยร่วมกับถวายทองคำให้คลังหลวง ถามว่าท่านรู้ได้อย่างไร ว่าววันนั้นทองคำบาทละทอง 4,000 บาท จะสูงถึงบาทละ 2 หมื่นบาทในวันนี้ ทองคำที่ท่านทำ ก็เพื่อไม่ให้ล่มประเทศไทยล้มสลาย ล้มละลายในสมัยไอเอ็มเอฟเข้ามา “พรรคประชาธิปัตย์ ขอให้ฟังไว้ เพราะประชาธิปัตย์เป็นตัวการที่ไป ตำหนิติเตียนท่าน เรื่องที่เล่าไปนี้ผมรูว่าพ่อแม่ครูอาจารย์ไม่ต้องการให้พูด แต่เราทำอะไรไปก็ควรรู้
อย่างสมัยนายเฉลียว อยู่วิทยา เจ้าพ่อกระทิงแดง ก็เคยไปเป็นโยมอุปฐากท่าน อย่างตนก็เป็นลูกศิษย์คนหนึ่งที่ท่านจะหน้าบึ้งใส่ตลอดเวลา แต่เป็นลูกศิษย์ที่ท่านเป่ากระหม่อมให้ 9 ครั้งในชีวิต อย่างไรก็ตามเมื่อเช้านี้ตนได้มีโอกาสทบทวน ว่า นี้คือธรรมของท่าน ที่ท่านสอนผม อย่างในวันที่ตนประกาศสู้กับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ท่านบอกกับตนว่า “ทักษิณ ก็เหมือนแขนขวา สนธิ เปรียบเหมือนแขนซ้าย แต่ถ้าแขนขวาเน่า ก็ไม่เป็นไร ให้ตัดแขนขวาทิ้งซะ ท่านก็บอกกับผมว่า หากจะออกไปสู้ ก็ขอสู้ด้วยการเอาธรรมนำหน้า ตนถึงรู้ว่าธรรม ก็คือความจริงที่เอามานำหน้า เหมือนกับที่เราบอกว่า “ไทยเสียดินแดนไปแล้ว ไอ้พวกรัฐบาลก็ยังมาบอกว่ายังไม่เสียดินแดน ตอนนี้พิสูจน์ชัดหรือยังว่า “เสียดินแดนไปหมดแล้ว”
นายสนธิ กล่าวว่า หลาวงตามหาบัว ท่านบอกว่า “ชีวิตมีแต่ความว่างเปล่า แต่ถ้าทำงานให้บ้านเมืองแต่ไม่ใช่เพื่อตัวเรา แต่จะถึงลูกหลานเรา ถึงบรรพบุรุษเราทุกคน อย่างเมื่อปี2548 จู่ๆท่านบอกให้ลูกศิษย์โทรมาหาตน บอกให้ทิ้งทุกอย่างเดินทางไปที่วัดป่าบ้านตาด ตนก็ไปทันที ประมาณตี 3-4 ปรากฎว่า ท่านเดินอยู่ถามตลอดว่า “สนธิ มาหรือยัง และท่านก็ไปนั่งรอที่กุฏิ ให้พ่อบ้านวัด พาเข้าไปกราบ หลวงตาท่านก็บอกให้ผมอยู่ 2-3 วันและท่านก็ไป ลั่นกุญแจประตูวัดด้วยตัวท่านเอง และไม่ให้ใครเข้าวัดเด็ดขาด
“ผมถึงรู้อีกทีจากนั้นว่ามีกระบวนการลอบสังหาร มารอสังหารผม มีชายฉกรรจ์เตรียมบุกเข้าไปในบ้านเพื่อฆ่าให้ตาย ทันที นั้นผมก็นึก ว่าเหมือนกับที่ท่านเคยช่วยชีวิตพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ให้ขึ้นเครื่องบิน และต่อมาเครื่อบินก็ระเบิด แต่คนอย่างนั้นมันไม่เคยฟังบุญคุณของพ่อแม่ครูบาอาจารย์เลย”
นายสนธิ กล่าวต่อว่า วันนี้ต้องเอาคุณงามความดีของท่านมาพูด ตอนนั้นตนรู้สึกอึดอัดใจมาก ก็เข้าไปถามท่าน ซึ่งท่านก็นั่งอยู่เฉยๆ ระหว่างที่กราบตนแค้นใจว่า เมื่อเรามาทำงานให้ชาติบ้านเมือง ทำไมถึงต้องมาโดนแบบนี้ แต่ท่านไม่พูดสักคำ จนตนเงียบและ ท่านก็พูดขึ้นมาว่า “สนธิ ทักษิณมันกำลังจะไม่มีแผ่นดินอยู่ เงินทองจะหมดไป ชีวิตก็จะรักษาไม่ได้ เรื่องนี้ท่านพูดเมื่อเดือน ธ.ค.2548 ตอนนั้น รัฐบาลไทยรักไทยได้รับเลือกตั้ง ยิ่งใหญ่มาก
นอกจากนั้นวันหนึ่งมีมจดหมายท่านแจ้งมายังตนว่า หลวงตามีจดหมายมาขอบิณฑบาตให้ไปพบหลวงตากับพ.ต.ท.ทักษิณและตนก็คิดว่า ถ้าหลวงตาซึ่งเป็นพ่อแม่ครูอาจารย์ สั่งผมจะหยุด เพราะท่านจะเห็นล่วงหน้าทุกอย่าวงแล้วว่า เป็นสิ่งที่ดีที่สุด และขณะนั้นมีตน และพวกของทักษิณนั่งรออยู่ แต่วันั้นสุดท้ายทักษิณก็ไม่มา มีเพียงผู้ว่าสมัยนั้นมาแทน ท่านก็ไล่ผู้ว่าคนนั้นกลับไป พอเห็นไม่มา ท่านก็จะกลับกุฏิ และหันมาบอกตนว่า “ทักษิณ มันหมดบุญแล้วนะ”
นายสนธิ กล่าวด้วยว่า เมื่อมาถึงครั้งนี้ที่ตนก็ออกมาสู้ อีกครั้งในเรื่องดินแดนไทย ช่วงที่ท่านยังพอพูดได้ ท่านก็บอกว่า ดินแดนไทยจะไปให้เขาขโมยไปได้อย่างไร แต่การต่อสู้ขอให้มีพุทโธ คือมีสติตลอดเวลา ท่านพูดออกมาตนยังจำได้ ท่านบอกว่า การทำงานใดๆก็ตาม ถ้าเริ่มต้นแม้คนไม่เข้าใจ จะทำให้บุญกุศลเข้าใจเรา และส่งเสริมให้พวกเราเจริญก้าวหน้า และให้เชื่อพระพุทธเจ้าว่า “บาปมี บุญมี นรกมี สวรรค์มี ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว”
“ในปี 2541พระสงฆ์แก่ๆ รูปหนึ่งที่หาเงินให้คลังหลวง คิดเป็นเงิน ป็นทองคำหมื่น ๆกิโลกรัม เป็นแสนๆล้านบาท แล้วคนอย่าง ทักษิณ สมชาย สมัคร อภิสิทธิ์ พวกนี้เทียบไม่ได้เลย แม้แต่ขี้ตีนของท่าน”
แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า เมื่อเราได้สูญเสียพระป่า ที่ประพฤติดี ประพฤติชอบ จะรู้ว่าท่านมีความเมตตาสูงมาก ท่านมุ่งมั่นอยู่อย่างเดียว คือ ให้ประทศไทยเจริญก้าวหน้า ให้คนศรัทธาพุทธศาสนา โดยให้เรารักษาจิตใจ และจิตใจเราก็จะสว่างไสวตลอดเวลา
“จะเห็นได้ว่า ตอนผมถูกยิง โดนคดีความ จิตผมไม่เคยตก ท่านสอนว่า สนธิ คนเรามันอิ่มเดียวหลับเดียว คือ ข้าวไข่เจียวหกินก็อิ่ม เมื่ออิ่มหูฉลามก็กินไม่ลง นั้นคืออิ่มเดียว นั้นคือพระป่าสายธรรมยุทต์ ถึงกินข้าวคลุกในบาตร เมื่อมันสวยงามอย่างไรมาอยู่ในท้องก็จะกลายเป็นขี้ออกมา ส่วนหลับเดียวในชีวิต ผมไม่เคยมีการนอนครั้งไหน ที่หลับสบายไปกว่านอนในวัดป่าบ้านตาด แต่ว่า เมื่อตื่นขึ้น ก็หมือนกับนอนในห้องสูทคืนละล้าน ถามว่าไอ้พวกโกงบ้านโกงเมืองได้ยินหรือเปล่า และสิ่งที่หลวงตาสอน อยู่ทุกวันนี้ ก็คือการปกป้องแผ่นดินไทย”
นายสนธิ กล่าวด้วยว่า 15 ชั่วโมงก่อนที่ท่านละสังขาร ถือเป็นสิริมงคลกับตัวของตน ถ้าเราเชื่อในพ่อแม่ครูอาจารย์สิ่งศักดิ์สิทธิ์หลายองค์ ที่ยังปกป้องบ้านเรา เป็นสิ่งที่ถูกต้องเพราะว่า พวกเราเอาธรรมนำหน้า และท่านก็พูดว่าไม่มีใครสุดยอดเท่ากับ องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯของเราแล้ว และท่านก็พูดว่าใครที่คิดร้ายกับชาติบ้านเมือง มันจะต้องลงนรก หลายคนที่จาบจ้วงท่านในสมัยท่านยังมีชีวิตอยู่ อย่างมีส.ส.หมอ อุดร คนหนึ่ง ที่จาบจ้วงท่าน ก็มีอันเป็นไปทุกคน และคนในพรรคประชาธิปัตย์ขณะนี้ ที่กำลังคิดจะรวมเงินคลังหลวง กลับเข้ามาอีกเหมือนเดิม
ตนขอประกาศว่า วันไหนที่รัฐบาลชั่วๆ ชุดไหน คิดจะรวมบัญชี้เงินคลังหลวงและทุนสำรองประเทศ ตนจะออกมาต่อต้านตามที่หลวงตาเคยออกมาทำ ขอให้พี่น้องมาสู้กับผมนะครับ.
วานนี้ (30 ม.ค.) นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวบนเวทีพันธมิตรฯ"รวมพลังปกป้องแผ่นดิน" ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ ตอนหนึ่ง ว่า ตนได้มีโอกาสเข้าพบหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด ก่อนที่ท่านจะละสังขาร ตนได้เข้าขอขมาที่ห้องท่าน เอาศรีษะไปนาบเท้าของท่าน เมื่อเวลา 12.50 น. วันที่ 29 ม.ค. และหลังจากนั้น 15 ชั่วโมงท่านก็ละสังขารไป หลาวงตามหาบัวท่านถือเป็นพระสายปฏิบัติ เป็นพ่อแม่ครูบาอาจารย์ ที่เอาธรรมมาสอนผม ท่านเคยบอกว่า สนธิ ขอให้เชื่อพระพุทธเจ้าว่า บาปมีจริง บุญมีจริง นรกมีจริง สวรรค์มีจริง ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
การที่หลวงตามาบัว ท่านละสังขารนั้น ตนยอมรับว่า ใจหาย แต่ไม่ได้ร้องไห้ ท่านบอกตนเสมอว่า เมื่อเราเป็นลูกศิษย์ ตถาคต ต้องเข้าใจการดับไป หลาวงตามหาบัวท่านอายุ 98 ปี มีคุณูปการ ในชีวิต ถือว่ามากกว่า พวกระยำที่นั่งอยู่ในทำเนียบรัฐบาลมาทุกยุคทุกสมัย โดยเฉพาะสมัยพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล ในสมัยนายชวน หลักภัย เป็นหัวหน้าพรรค มีนายธารินทร์ นิมมานเหมินท์ เป็น รมว.คลัง มีความพยายามที่จะสมคบคิดจะรวมบัญชี ระหว่างเงินคงคลังกับเงินประเทศ รวมบัญชีเอาเงินคลังหลวงไปใช้
“แต่ฌาณของท่านตั้งแต่ยุคนั้นแล้ว ท่านบอกว่า ไอ้พวกนี้มันกำลังจะขายชาติ ท่านพูดตั้งแต่ปี 2540 ว่าไอ้พวกนี้ มันจะขายชาติ เรายอมไม่ได้ เราต้องลุกมาสู้กับพวกมัน”นายสนธิ กล่าว
นายสนธิ กล่าวต่อว่า ครั้งหลังสุดก่อนที่หลาวงตามหาบัวท่านจะอาพาธหนัก ท่านพูดได้อยู่ ท่านจะไม่พูดเรื่องการเมืองใด ๆ กับใคร นอกจากจะอยู่ใกล้ ๆกัน เวลาที่ตนอยู่กับท่าน และกับเจ๊หมวยโยมอุปฐากท่าน ก็จะคุยกันเรื่องการบ้านการเมือง ครั้งหนึ่งท่านบอกกับตนว่า ไอ้คนที่ต้องตัดคอลงนรก มีอยู่ 5 คน และ 3 คนก็คือ คนในยุคที่มีความพยายาม ที่ตะรวมเงินคลังหลวง บอกว่า ยังเหลืออีก 2 คน อันนี้ตนไม่พูด แต่ให้เดากันเอง ว่า 2 คนนั้น คือใคร
หลวงตามหาบัว บอกกับตนว่า คนที่ตั้งใจทำงานให้ชาติบ้านเมืองจะถูกคนเข้าใจผิดเสมอ ในช่วงที่ท่านระดมเงินทำผ้าป่าช่วยชาติ พระสงฆ์หลายสาย นักการเมืองหลายคนตำหนิ ว่า ท่านไม่ควรอย่ามายุ่งเรื่องทางโลก อย่ามายุ่งเงินทอง ตนเห็นว่าตลอดชีวิตท่านไม่เคยแตะเงินแม้แต่บาทเดียว ใครเอาอะไรเอาเงินไปถวาย ท่านก็ให้เขียนใบปวารณา เงินที่เอาไปพึงพาโรงพยาบาลที่อุดรธานี ก็เป็นเงินที่รับบริจาคไปซื้อรถ เครื่อฉายเอ๊กซเรย์ ท่านยังนำรถยนต์ที่ท่านได้รับถวายไปให้โรงพยาบาลใช้ต่างกับ ไอ้พวกกระทรวงสาธารณสุขมันยังทำไม่ได้
นายสนธิ กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2540 ท่านทำผ้าป่าช่วยชาติ ให้คนไทยร่วมกับถวายทองคำให้คลังหลวง ถามว่าท่านรู้ได้อย่างไร ว่าววันนั้นทองคำบาทละทอง 4,000 บาท จะสูงถึงบาทละ 2 หมื่นบาทในวันนี้ ทองคำที่ท่านทำ ก็เพื่อไม่ให้ล่มประเทศไทยล้มสลาย ล้มละลายในสมัยไอเอ็มเอฟเข้ามา “พรรคประชาธิปัตย์ ขอให้ฟังไว้ เพราะประชาธิปัตย์เป็นตัวการที่ไป ตำหนิติเตียนท่าน เรื่องที่เล่าไปนี้ผมรูว่าพ่อแม่ครูอาจารย์ไม่ต้องการให้พูด แต่เราทำอะไรไปก็ควรรู้
อย่างสมัยนายเฉลียว อยู่วิทยา เจ้าพ่อกระทิงแดง ก็เคยไปเป็นโยมอุปฐากท่าน อย่างตนก็เป็นลูกศิษย์คนหนึ่งที่ท่านจะหน้าบึ้งใส่ตลอดเวลา แต่เป็นลูกศิษย์ที่ท่านเป่ากระหม่อมให้ 9 ครั้งในชีวิต อย่างไรก็ตามเมื่อเช้านี้ตนได้มีโอกาสทบทวน ว่า นี้คือธรรมของท่าน ที่ท่านสอนผม อย่างในวันที่ตนประกาศสู้กับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ท่านบอกกับตนว่า “ทักษิณ ก็เหมือนแขนขวา สนธิ เปรียบเหมือนแขนซ้าย แต่ถ้าแขนขวาเน่า ก็ไม่เป็นไร ให้ตัดแขนขวาทิ้งซะ ท่านก็บอกกับผมว่า หากจะออกไปสู้ ก็ขอสู้ด้วยการเอาธรรมนำหน้า ตนถึงรู้ว่าธรรม ก็คือความจริงที่เอามานำหน้า เหมือนกับที่เราบอกว่า “ไทยเสียดินแดนไปแล้ว ไอ้พวกรัฐบาลก็ยังมาบอกว่ายังไม่เสียดินแดน ตอนนี้พิสูจน์ชัดหรือยังว่า “เสียดินแดนไปหมดแล้ว”
นายสนธิ กล่าวว่า หลาวงตามหาบัว ท่านบอกว่า “ชีวิตมีแต่ความว่างเปล่า แต่ถ้าทำงานให้บ้านเมืองแต่ไม่ใช่เพื่อตัวเรา แต่จะถึงลูกหลานเรา ถึงบรรพบุรุษเราทุกคน อย่างเมื่อปี2548 จู่ๆท่านบอกให้ลูกศิษย์โทรมาหาตน บอกให้ทิ้งทุกอย่างเดินทางไปที่วัดป่าบ้านตาด ตนก็ไปทันที ประมาณตี 3-4 ปรากฎว่า ท่านเดินอยู่ถามตลอดว่า “สนธิ มาหรือยัง และท่านก็ไปนั่งรอที่กุฏิ ให้พ่อบ้านวัด พาเข้าไปกราบ หลวงตาท่านก็บอกให้ผมอยู่ 2-3 วันและท่านก็ไป ลั่นกุญแจประตูวัดด้วยตัวท่านเอง และไม่ให้ใครเข้าวัดเด็ดขาด
“ผมถึงรู้อีกทีจากนั้นว่ามีกระบวนการลอบสังหาร มารอสังหารผม มีชายฉกรรจ์เตรียมบุกเข้าไปในบ้านเพื่อฆ่าให้ตาย ทันที นั้นผมก็นึก ว่าเหมือนกับที่ท่านเคยช่วยชีวิตพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ให้ขึ้นเครื่องบิน และต่อมาเครื่อบินก็ระเบิด แต่คนอย่างนั้นมันไม่เคยฟังบุญคุณของพ่อแม่ครูบาอาจารย์เลย”
นายสนธิ กล่าวต่อว่า วันนี้ต้องเอาคุณงามความดีของท่านมาพูด ตอนนั้นตนรู้สึกอึดอัดใจมาก ก็เข้าไปถามท่าน ซึ่งท่านก็นั่งอยู่เฉยๆ ระหว่างที่กราบตนแค้นใจว่า เมื่อเรามาทำงานให้ชาติบ้านเมือง ทำไมถึงต้องมาโดนแบบนี้ แต่ท่านไม่พูดสักคำ จนตนเงียบและ ท่านก็พูดขึ้นมาว่า “สนธิ ทักษิณมันกำลังจะไม่มีแผ่นดินอยู่ เงินทองจะหมดไป ชีวิตก็จะรักษาไม่ได้ เรื่องนี้ท่านพูดเมื่อเดือน ธ.ค.2548 ตอนนั้น รัฐบาลไทยรักไทยได้รับเลือกตั้ง ยิ่งใหญ่มาก
นอกจากนั้นวันหนึ่งมีมจดหมายท่านแจ้งมายังตนว่า หลวงตามีจดหมายมาขอบิณฑบาตให้ไปพบหลวงตากับพ.ต.ท.ทักษิณและตนก็คิดว่า ถ้าหลวงตาซึ่งเป็นพ่อแม่ครูอาจารย์ สั่งผมจะหยุด เพราะท่านจะเห็นล่วงหน้าทุกอย่าวงแล้วว่า เป็นสิ่งที่ดีที่สุด และขณะนั้นมีตน และพวกของทักษิณนั่งรออยู่ แต่วันั้นสุดท้ายทักษิณก็ไม่มา มีเพียงผู้ว่าสมัยนั้นมาแทน ท่านก็ไล่ผู้ว่าคนนั้นกลับไป พอเห็นไม่มา ท่านก็จะกลับกุฏิ และหันมาบอกตนว่า “ทักษิณ มันหมดบุญแล้วนะ”
นายสนธิ กล่าวด้วยว่า เมื่อมาถึงครั้งนี้ที่ตนก็ออกมาสู้ อีกครั้งในเรื่องดินแดนไทย ช่วงที่ท่านยังพอพูดได้ ท่านก็บอกว่า ดินแดนไทยจะไปให้เขาขโมยไปได้อย่างไร แต่การต่อสู้ขอให้มีพุทโธ คือมีสติตลอดเวลา ท่านพูดออกมาตนยังจำได้ ท่านบอกว่า การทำงานใดๆก็ตาม ถ้าเริ่มต้นแม้คนไม่เข้าใจ จะทำให้บุญกุศลเข้าใจเรา และส่งเสริมให้พวกเราเจริญก้าวหน้า และให้เชื่อพระพุทธเจ้าว่า “บาปมี บุญมี นรกมี สวรรค์มี ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว”
“ในปี 2541พระสงฆ์แก่ๆ รูปหนึ่งที่หาเงินให้คลังหลวง คิดเป็นเงิน ป็นทองคำหมื่น ๆกิโลกรัม เป็นแสนๆล้านบาท แล้วคนอย่าง ทักษิณ สมชาย สมัคร อภิสิทธิ์ พวกนี้เทียบไม่ได้เลย แม้แต่ขี้ตีนของท่าน”
แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า เมื่อเราได้สูญเสียพระป่า ที่ประพฤติดี ประพฤติชอบ จะรู้ว่าท่านมีความเมตตาสูงมาก ท่านมุ่งมั่นอยู่อย่างเดียว คือ ให้ประทศไทยเจริญก้าวหน้า ให้คนศรัทธาพุทธศาสนา โดยให้เรารักษาจิตใจ และจิตใจเราก็จะสว่างไสวตลอดเวลา
“จะเห็นได้ว่า ตอนผมถูกยิง โดนคดีความ จิตผมไม่เคยตก ท่านสอนว่า สนธิ คนเรามันอิ่มเดียวหลับเดียว คือ ข้าวไข่เจียวหกินก็อิ่ม เมื่ออิ่มหูฉลามก็กินไม่ลง นั้นคืออิ่มเดียว นั้นคือพระป่าสายธรรมยุทต์ ถึงกินข้าวคลุกในบาตร เมื่อมันสวยงามอย่างไรมาอยู่ในท้องก็จะกลายเป็นขี้ออกมา ส่วนหลับเดียวในชีวิต ผมไม่เคยมีการนอนครั้งไหน ที่หลับสบายไปกว่านอนในวัดป่าบ้านตาด แต่ว่า เมื่อตื่นขึ้น ก็หมือนกับนอนในห้องสูทคืนละล้าน ถามว่าไอ้พวกโกงบ้านโกงเมืองได้ยินหรือเปล่า และสิ่งที่หลวงตาสอน อยู่ทุกวันนี้ ก็คือการปกป้องแผ่นดินไทย”
นายสนธิ กล่าวด้วยว่า 15 ชั่วโมงก่อนที่ท่านละสังขาร ถือเป็นสิริมงคลกับตัวของตน ถ้าเราเชื่อในพ่อแม่ครูอาจารย์สิ่งศักดิ์สิทธิ์หลายองค์ ที่ยังปกป้องบ้านเรา เป็นสิ่งที่ถูกต้องเพราะว่า พวกเราเอาธรรมนำหน้า และท่านก็พูดว่าไม่มีใครสุดยอดเท่ากับ องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯของเราแล้ว และท่านก็พูดว่าใครที่คิดร้ายกับชาติบ้านเมือง มันจะต้องลงนรก หลายคนที่จาบจ้วงท่านในสมัยท่านยังมีชีวิตอยู่ อย่างมีส.ส.หมอ อุดร คนหนึ่ง ที่จาบจ้วงท่าน ก็มีอันเป็นไปทุกคน และคนในพรรคประชาธิปัตย์ขณะนี้ ที่กำลังคิดจะรวมเงินคลังหลวง กลับเข้ามาอีกเหมือนเดิม
ตนขอประกาศว่า วันไหนที่รัฐบาลชั่วๆ ชุดไหน คิดจะรวมบัญชี้เงินคลังหลวงและทุนสำรองประเทศ ตนจะออกมาต่อต้านตามที่หลวงตาเคยออกมาทำ ขอให้พี่น้องมาสู้กับผมนะครับ.