xs
xsm
sm
md
lg

“ทารกกษิต” ดิ้นรักษาเก้าอี้ !!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

00 หลายคนรู้สึกช็อก คาดไม่ถึงกับคำพูด และท่าทีล่าสุดของ กษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ คนที่เคยขึ้นเวทีพันธมิตรฯ ด่า ฮุนเซน ว่าเป็น “กุ๊ย” หรือ “ทหารป่า” จนเรียกเสียงปรบมือ และสร้างความประทับใจมาแล้วไม่น้อย แต่มาวันนี้เขาได้เปลี่ยนจุดยืน มาอยู่ตรงข้ามกับภาคประชาชน หันมาบิดเบือนให้ร้ายมวลมิตรที่เคยหวังดี ยอมเปลืองตัวปกป้องแทบทุกครั้งที่เขาถูกฝ่ายตรงข้ามกระทำ
00 อย่างไรก็ดี หากมองอีกมุมหนึ่งนี่อาจเป็น “ธาตุแท้” ความ “ทะเยอทะยาน” ซ่อนอยู่ภายในลึกๆ มาตั้งนานแล้ว การมาขึ้นเวทีร่วมสู้กับพันธมิตรฯ เพื่อขับไล่ทักษิณ ชินวัตร และจำเป็นต้องกระแทกแดกดัน ฮุนเซน ในช่วงที่ผ่านมา เป็นเพราะต้องการ “แสดงให้สมบทบาท” เป็นใบเบิกทางเพื่อนำไปสู่เป้าหมายในวันข้างหน้า และมาวันนี้ เมื่อเขาสมหวัง หรือขณะเดียวกันอาจรู้สึกว่าตำแหน่งของตัวเอง “ไม่มั่นคง” ก็ต้องออกมาแสดงอีกบทบาทหนึ่งให้สมจริงสมจังกว่าเดิม แต่สรุปก็คือ คนๆนี้ทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ตัวเอง “เดินไป” สู่ตำแหน่ง และ“รักษา” ตำแหน่งให้อยู่รอดเท่านั้น
00 คำพูดบิดเบือนอย่างไม่น่าเชื่อก็คือ “จงใจ” กล่าวว่า พล.ต.จำลอง ทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับแนวทาง สันติ อหิงสา คือ การยั่วยุให้เกิด “สงคราม” ยื่นข้อเสนอให้ทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ นั่นคือ เลิก“เอ็มโอยู 43” และบอกว่าพฤติกรรมของแกนนำพันธมิตรฯ ไม่ต่างจาก “ทารก” ที่เอาแต่ใจและไร้เหตุผล ซึ่งต้องพิจารณาทีละประเด็น อย่างแรกก่อน ที่กล่าวหาว่า ยั่วให้เกิดสงครามนั้นก็ถือว่าเป็นคำพูดที่ใช้ไม่ได้ เพราะสิ่งที่ พล.ต.จำลอง และพันธมิตรฯ เรียกร้องก็คือให้ รัฐบาลไทยให้ “ความเป็นธรรม” กับคนไทย มีความเอาจริงเอาจริงเอาจังกับการ “รักษาอธิปไตย” ของชาติอย่างตรงไปตรงมา พื้นที่ใดก็ตามที่เห็นว่าเราเสียเปรียบ ก็ต้องเร่งเจรจาให้เขมรถอนออกไป หากยังดื้อแพ่ง ก็ต้องใช้กำลังกดดันให้พ้นไป
00 ความหมายไม่ใช่ใช้กำลังทหารทำสงคราม เพียงแต่ว่าต้องใช้กำลังที่ “เหนือ” กว่าให้เป็นประโยชน์ “รักษาความยุติธรรม” ให้คนไทย พิทักษ์ปกป้องอธิปไตยของชาติ ไม่ใช่ให้ไปข่มเหง “รังแก” ประเทศอื่น หรือว่าไปรุกราน “เอาเปรียบ” คนอื่น เข้าใจไหม ถามว่าที่ผ่านมาในเมื่อทั้ง นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หรือล่าสุดพ่วง กษิต ภิรมย์ เข้าไปด้วย มักชอบอ้างยืนยันมาตลอดโดยกอด เอ็มโยยู 43 ว่าทำให้รักษาอธิปไตย หากมีปัญหาก็จะมีการเจรจา แล้วไงล่ะ ที่ผ่านมาเห็นเขมรละเมิดตลอด ที่เห็นชัดก็คือกรณีป้ายแผ่นหินที่ผ่านมาเกือบสองสามเดือน แต่เมื่อถูกภาคประชาชน “ประจาน” กดดันจนนั่งไม่ติด เพราะหลักฐานมันฟ้อง ต้องสั่งแอกชั่น เพราะกลัวว่าตัวเองจะเละเป็นโจ๊กมากกว่า และคำถามก็คือ นี่คือการละเมิดเอ็มโอยู รวมไปถึงการรุกเข้ามาตั้งชุมชน สร้างวัดแก้วสิขาคีรีสวาระนั้นด้วย และเวลานี้เขมรก็ยัง “ปักธงชาติ” แสดงอธิปไตยอย่างสมบูรณ์ยิ่งกว่าปักป้ายเสียอีก มาถึงตรงนี้ ใครกันแน่ที่เป็น “ทารก” หา !!
00 ยัง ยังไม่พอ ล่าสุด กษิต ก็มามาดใหม่เอาใจ มาร์ค สุดๆ ด้วยวิสัยทัศน์ “ประชาคมอาเซียน” มาบิดเบือนตบตา ในความหมายก็คือ อาเซียนเป็นพี่น้องกัน ไม่มีการกีดกั้นกีดกัน และเท่าเทียม ไปมาหาสู่กันโดยเสรี มันก็ถูกต้อง และน่ายินดีด้วย หากทำได้จริง แต่ความหมายมันคนละอย่าง เพราะมันก็ต้องมีอธิปไตยของแต่ละชาติ ทั้งทางศาล ทางกฎหมาย มีขอบเขตแดนให้แน่ชัด ไม่ใช่ในความหมายที่คนทุกประเทศจะเดินข้ามไปมาได้เสรี หาได้ไม่ ถ้าเสรีโดยการท่องเที่ยว การค้า ภาษีในอนาคตอีกหลายปีก็อาจทำได้ ตามฝันแบบสหภาพยุโรป ไม่ขัดคอ แต่ในเรื่องของดินแดนของแต่ละประเทศ มันก็ต้องรักษาเอาไว้ให้มั่นคง อย่ามั่ว !!
00 ขณะเดียวกัน อย่าได้แปลกใจที่ วานนี้ (28 ม.ค.) สุเทพ เทือกสุบรรณ “ผู้จัดการใหญ่” ออกมาชมเชยบทบาทของ กษิต ว่าทำหน้าที่ได้ “สมบทบาท” ในการออกมา“เตะตัดขา” แกนนำ-พันธมิตรฯ เพราะนั่นหมายความว่า เวลานี้คนอย่าง กษิต ได้เข้ามาสู่อ้อมอกของ สุเทพ และ “เข้าพวก” อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว ขอให้โชคดี !!
00 สังเกตหรือไม่ว่า สถานการณ์ชายแดนใต้ เริ่มกลับมารุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงตั้งแต่ปลายปีต่อเนื่องมาจนถึงปีใหม่ และคาดว่าจะลากยาวอีก สาเหตุจะมาจากเรื่องใดก็แล้วแต่ คำถามก็คือ ใครต้องรับผิดชอบบ้าง ระหว่างนายกฯอภิสิทธิ์ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง สุเทพ เทือกสุบรรณ รมว.กลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ผบ.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คนใดคนหนึ่ง หรือว่าทั้งหมด เพราะสถานการณ์ภายใต้รัฐบาลชุดนี้ผ่านมาสองปีกว่าแล้ว น่าจะมีคนรับผิดชอบบ้างนะ แต่ระยะหลัง “ราคาคุย” เบาลงไปเยอะ นะเทือกนะ ทุด !!
กำลังโหลดความคิดเห็น