xs
xsm
sm
md
lg

จดหมายเปิดผนึก ถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.

เผยแพร่:   โดย: สำราญ รอดเพชร

                                            25 ม.ค. 2554

กราบคารวะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.

ผมขออนุญาตเรียกท่านว่า ท่านผบ.ประยุทธ์ก็แล้วกันน่ะครับ ถ้าเผอิญว่าคุณสำราญอนุญาตผ่านจดหมายเปิดผนึกฯ ฉบับนี้ลงตีพิมพ์ในคอลัมน์ “หน้ากระดานเรียงห้า” ก็ถือว่าเป็นโชคดีของผมที่ได้สื่อสารถึงท่าน...ท่านซึ่งผมอยากเรียนว่าผมศรัทธาและคาดหวังว่าน่าจะเป็น ผบ.ทบ.ที่เข้มแข็ง และอย่างน้อยก็ต้องดีกว่า ผบ.ทบ.คนเก่าอย่างพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ซึ่งผมกับเพื่อนๆ หลายสิบคนฟันธงไปแล้วว่าไม่เข้มแข็ง เอาบ้านเอาเมือง ปกป้องสถาบัน ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เท่ากับท่าน

ท่านผบ.ประยุทธ์ครับ ผมกับเพื่อนชื่นชมท่านมากๆ นับแต่ท่านขึ้นดำรงตำแหน่ง ผบ.ทบ.ท่านพูดเรื่องการปกป้องสถาบันชัดเจนแจ่มแจ้ง เข้มแข็งตรงไปตรงมา ท่านไม่หงอกับคนเสื้อแดงปาก...บางคน เป็น ผบ.ทบ.ที่ผมรู้สึกว่าอ่านง่าย ไม่ซับซ้อน และที่สำคัญรู้สึกว่าท่านเป็นทหารอาชีพ ไม่ใช่ทหารการเมือง..

ผมจำได้ว่า รู้สึกจะเป็นคุณเปลว สีเงิน แห่งนสพ.ไทยโพสต์ เคยเขียนว่าเพราะตัวท่าน ทำให้พวกเราคนไทยรู้สึกว่ากองทัพไทยมี “ทหาร”...ผมล่ะถึงกับซี๊ดปากเลยล่ะครับ...ผมคิดเหมือนกับคุณเปลวจริงๆ

ท่านครับ...หลายปีมาแล้วจริงๆ ที่ผมรู้สึกว่าทหารไทย กองทัพไทยอ่อนปวกเปียกจนเกินไป ครั้งหนึ่งผมเคยคาดหวังกับพล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร แต่ท่านเป็นได้แค่รองปลัดกลาโหม และผันตัวเองไปดำรงตำแหน่งในรัฐวิสาหกิจ ซึ่งมีข่าวทั้งทางบวกทางลบของท่านสพรั่งมากมาย ทำให้ผมเซ็งโลกไปเลย

ยุคพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา “บิ๊กป๊อก” เป็น ผบ.ทบ.เรียนท่านตรงๆ ว่า เป็นยุคที่ผมรู้สึกวังเวงมากๆ ไม่เกียงกรณีเหตุการณ์ 7 ตุลาเลือด (2551) แต่ในภาพรวมๆ ผมเชื่อของผมเองว่าพล.อ.อนุพงษ์น่าจะมีอะไรกับ “ทักษิณ” อย่างแน่นอน...

สำหรับท่าน ...จริงอยู่ผมทราบจากจากการอ่านข่าว บทวิเคราะห์ว่าท่านเป็น “พยัคฆ์บูรพา” เป็นลูกน้องของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ “บิ๊กป้อม รมว.กลาโหม และพล.อ.อนุพงษ์ ย่อมจะมีความเกรงอกเกรงใจกันเป็นธรรมดา แต่ผมมองตาท่านแล้วผมเชื่อว่าท่านเป็น “ทหารเสือพระราชินี” ที่เข้มข้นมากกว่า แต่ท่านอาจจะลำบากใจในหลายๆ เรื่อง โน่นก็รัฐบาล (อภิสิทธิ์ -สุเทพ) นั่นก็พี่ (ป้อม) และนู่นก็ประชาชนอันไพศาลที่ชื่นชมและคาดหวังตัวท่าน...

ท่านผบ.ประยุทธ์ครับ อย่าไปเกร็งอย่าไปคิดอะไรมากเลยครับ เอาหลักการ เอาความถูกต้อง เอาประโยชน์ชาติเป็นตัวตั้งเถอะครับ ที่ผ่านมา ผมว่าท่านสอบผ่านน่ะครับ โดยเฉพาะช่วงแรกๆ ท่านพูดเสียงดังฟังชัดมาก แต่ระยะหลังๆ ผมเดาเอาว่าท่านอาจจะลำบากใจในการวางตัวตนของท่านว่าควรจะมีระยะห่างระยะใกล้กับรัฐบาลแค่ไหน...

ท่านอย่าคิดมากเลย เป็นคนตรงไปตรงมาเถอะครับ ถ้าท่านรักจะเป็นทหารที่เป็น “กลไกรัฐ” ฟังคำสั่งรัฐบาลอย่างเดียว ไม่ทำเกินคำสั่งท่านก็พูดออกมาเลยว่า...อะไรที่รัฐบาลไม่สั่งผมจะไม่ทำ...แต่หากท่านรักที่จะเป็น “ทหารอาชีพ” ที่มีความหมายมากกว่า “อาชีพทหาร” แต่ทหารอาชีพหมายถึงทหารที่ไม่ฝักใฝ่การเมืองแต่มุ่งปกป้องชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ปกป้องอธิปไตยของชาติ ต่อสู้กับอริราชศัตรูท่านก็ต้องเดินหน้าของท่าน โดยที่อาจจะต้องขัดอกขัดใจกับฝ่ายการเมืองบ้าง...

ท่านผบ.ประยุทธ์ครับ เฉพาะหน้าผมทราบดีว่าไม่เพียงปัญหาร้อนๆ กรณีกัมพูชาเท่านั้นที่กดดันท่าน ปัญหาความรุนแรง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ก็เป็นอีกปัญหาหนึ่งที่ท้าทายท่าน...

กรณีปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผมอยากเสนอแนะว่าท่านลองไปทบทวนดูเถอะครับว่า ในส่วนของฝ่ายทหารมีช่องว่างช่องโหว่ตรงไหน การข่าวมีจุดบอดตรงไหน ต้องแก้ไขโดยด่วน และที่สำคัญท่านต้องกล้าหาญชาญชัยที่จะกดดันจัดการกับกลุ่มอิทธิพลในพื้นที่ด้วย เพราะกลุ่มอิทธิพล (รวมทั้งพ่อค้ายาเสพติด) มันร่วมมือสมคบคิดกับผู้ก่อความไม่สงบก่อเหตุร้ายหลายต่อหลายครั้ง...

ท่านผบ.ประยุทธ์ครับ ท่านต้องไม่ลืมนะครับว่าท่านไม่ได้เป็นแค่ ผบ.ทบ.เท่านั้น หากแต่ท่านยังสวมหมวกอีกหลายใบ โดยเฉพาะหมวกตำแหน่งเลขาธิการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ตามพ.ร.บ.ความมั่นคงในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 ซึ่งอำนาจท่านมากมายมหาศาล ใช้มันสิครับ ใช้เพื่อหยุดมาเฟียอิทธิพลภาคใต้ที่หลายต่อหลายกรณีนักการเมืองหนุนหลังอยู่...

มาถึงกรณี กัมพูชา....ที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยกำลังชุมนุมเรียกร้องใน 3 ประเด็นคือ 1) ให้ยกเลิกเอ็มโอยู 2543 2) ให้ถอนตัวจากภาคีมรดกโลก และ 3) ให้ผลักดันกองกำลัง-ชุมชนกัมพูชาออกจากผืนแผ่นดินไทย....ท่านอาจจะลำบากใจที่จะแสดงความเห็นใน 2 ข้อแรก แต่สำหรับข้อ 3 ผมคิดว่าท่านน่าจะพูดจาอะไรได้บ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะนี้กรณีป้ายอัปยศที่กัมพูชาได้สลักจารึกไว้หน้าวัดแก้วสิขาคีรีสวาระ ว่า นี่คือจุดที่คนไทยรุกล้ำนั้น ผมว่าท่านน่าจะทำอะไรได้ตามสมควร เพราะท่านย่อมจะรับทราบถึงที่มาที่ไปเป็นอย่างดี...

ผมไม่อยากบอกท่านเลยว่า กรณีป้ายอัปยศดังกล่าวพวกผมที่ไม่ได้เป็นทหาร เป็นคนไทยรักบ้านรักเมืองธรรมดาๆ ยังรู้สึกว่า กัมพูชามันลบหลู่เกียรติภูมิประเทศไทย มันเอาเท้าลูบหน้าทหารไทยรัฐบาลไทยโดยแท้ และนาทีนี้ดูเหมือนว่ารัฐบาลจะโยนเผือกร้อนไปให้ท่าน...ถ้าชัดเจนว่าผู้นำรัฐบาลสั่งการให้ “จัดการ” กับป้ายดังกล่าวอย่างชัดเจนแล้ว ผมว่าท่านลุยไปเลยครับ จะว่าไปตามขั้นตอนเริ่มจากเจรจา, เพิ่มมาตรการ และใช้กำลัง..ก็ทำไปเถอะครับ แม้วันหนึ่งข้างหน้าเมื่อจัดการเป็นที่เรียบร้อยรัฐบาลชุดนี้อาจจะได้หน้าได้คะแนนก็ไม่เป็นไรครับ ต้องถือว่าเราทำหน้าที่ปกป้องเกียรติยศศักดิ์ศรีและอธิปไตยของประเทศ...

ท่านผบ.ประยุทธ์ครับ ผมเชื่อว่าในสายเลือดความเป็นทหารของท่านหลายสิบปี ท่านน่าจะมองออกนะครับว่ารัฐบาลชุดนี้ถึงแม้จะมีทหารรุ่นพี่ของท่านอย่าง “บิ๊กป้อม” ร่วมรัฐบาล ดูแลงานด้านความมั่นคงอยู่ด้วย แต่โดยภาพรวมรัฐบาลชุดนี้อ่อนด้อยในเรื่องงานความมั่นคงเป็นอย่างมาก..

ไม่ต้องอะไรมาก ลองย้อนไปดูเหตุการณ์สงกรานต์เลือดปี 2552, การเผาบ้านเผาเมืองปี 2553 และอีกหลายเหตุการณ์...

ท่านจะเป็นแค่กลไกรัฐที่รอฟังคำสั่ง (จากนักการเมือง) อย่างเดียวไม่สั่งไม่ทำไม่ออฟไซด์หรือจะเป็นทหารอาชีพมืออาชีพที่มีเกียรติยศ ศักดิ์ศรี หรือจะผสมผสานสองอย่างเข้าด้วยกันก็ว่าไปเถอะครับ ตราบใดที่ท่านยังเป็นทหารเสือพระราชาทหารเสือพระราชินี...เป็นผู้นำทหารที่ทำให้คนไทยรู้สึกว่าประเทศไทยยังมี “ทหาร” อยู่จริงๆ ผมก็โอเคแล้วครับ ขอเป็นกำลังใจให้ท่านและทหารหาญครับ

                                        “คนไทยคนหนึ่ง”

samr_rod@hotmail.com
กำลังโหลดความคิดเห็น