ตี"แม้ว"ต้องตีให้ตาย!

00...เห็นด้วยอย่างยิ่งกับคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ความมั่นคง (คตม.)ที่มีมติให้เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาประกาศใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) และบางอำเภอ ในจังหวัดปทุมธานี ,อยุธยา และสมุทรปราการ ในช่วงวันที่ 11-23 มี.ค.นี้ เพื่อป้องกันความวุ่นวายที่อาจเกิดขึ้นจากการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดง โดยจะมีการเสนอเข้าที่ประชุม ครม.ในวันนี้

แน่นอน...การหยุดความรุนแรงที่จะเกิดขึ้น ภายใต้คำบงการของ"นช.ทักษิณ ชินวัตร"ถือเป็นสิ่งสำคัญที่เจ้าหน้าที่รัฐต้องหยุดมันให้ได้ และการออก พ.ร.บ.ความมั่นคง มาควบคุม ก็ทำให้ประชาชนคนในชาติ อุ่นใจขึ้นมามากทีเดียว เพราะหากมีกำลังเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งตำรวจ ทหาร ปฎิบัติการณ์โดยมีกฎหมายรองรับ เชื่อว่า การเคลื่อนไหวของแดงเถื่อน ที่คิดการใหญ่ ก่อวินาศกรรมเมืองกรุง อาจจะ ทำได้ยาก!!!

แต่อย่างไรก็ตาม ทั้งนี้ และ ทั้งนั้น สำหรับคำตอบว่า ศึกครั้งนี้จะหยุดยั้งความรุนแรง ลงได้หรือไม่ คงต้องถามใจผู้มีอำนาจ อย่าง"บิ๊กป้อม"ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ"บิ๊กป๊อก"อนุพงศ์ เผ่าจินดา ว่าทั้ง 2 คน มีหัวใจเกินร้อยที่จะปกป้องรัฐบาล"อภิสิทธิ์"หรือไม่

เพราะหากการปฎิบัติหน้าที่ทั้งของ"ป้อม และ ป๊อก"ใช้มาตรการแบบ"ลับ ลวง พราง" คือ ตีแม้ว แต่ไม่ตาย ถือว่าอันตรายอย่างยิ่ง สำหรับประเทศไทย

00...ด้วยความคิดถึงก็อยากจะพูดถึง พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย อดีตรองอธิบดีดีเอส เสียหน่อยหลังจากที่ได้ทำการโยกย้ายตัวเองมาดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีที ย้ายไปได้ไม่นานนักก็ได้รับงานใหญ่กันเลยทีเดียว หลังจากได้รับมอบหมาย จากท่านรัฐมนตรีร้อยตรีหญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี ให้ดูแลเรื่องการขยายผลเอาผิดยึดทรัพย์ 46,000 ล้าน เป็นประธานตรวจสอบความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรัฐรวมถึงองค์กรของรัฐ และหาผู้เกี่ยวข้องในการสร้างความเสียหายแก่รัฐ พร้อมมูลค่าความเสียหาย เพื่อดำเนินการทางแพ่งตามหน้าที่ของไอซีที โดยจะเริ่มทำงานตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค.และจะแถลงความคืบหน้าผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้งในวันที่ วันที่ 10 มี.ค.ที่จะถึงนี้

งานนี้คงไม่ขออะไรท่านไปมากไปกว่าปฏิบัติหน้าที่ให้สมกับเป็นเจ้าหน้าที่รัฐรักษาผลประโยชน์ของแผ่นดิน ทำงานอย่างเที่ยงตรง ไม่แบ่งก๊กแบ่งสาย หรือเลือกปฏิบัติ เพราะการขยายผลครั้งนี้เป็นการขยายแผลเอาผิดกับคนที่โกงชาติ โกงแผ่นดิน อย่างนักโทษชายทักษิณ ที่ต้องเอ่ยถึงเพราะท่านเองเป็นคนสนิทของ อดีตอธิบดีดีเอสไอ คือ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ที่มีสายสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับคนตระกูลชินวัตร สำหรับงานใหญ่เช่นนี้ หวังว่าท่านสุชาติ คงจะไม่ทำให้สังคมผิดหวัง

00...ข่าวดีต้องอ่าน โดย"ท่านอนุรักษ์ สง่าอารีย์กูล" เลขานุการศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แจ้งว่า ขณะนี้ศาลฎีกาฯได้เผยแพร่คำวินิจฉัย หรือคำพิพากษากลางขององค์คณะผู้พิพากษาทั้ง 9 คน ความยาว 187 หน้า คดียึดทรัพย์จำนวน 7.6 หมื่นล้านบาทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 5 มี.ค.แล้ว ในเว็บไซด์ศาลฎีกาที่ http://www.supremecourt.or.thทั้งนี้ประชาชนทั่วไป และผู้สนใจสามารถ download คำพิพากษากลางเพื่อนำไปศึกษาหรือใช้ประโยชน์อื่นๆ ได้

ส่วนคำวินิจฉัยส่วนตนขององค์คณะทั้ง 9 คน ศาลฎีกาฯกำลังเร่งดำเนินการ โดยจะเริ่มเผยแพร่คำวินิจฉัย หรือคำพิพากษาเสียงข้างน้อย 2 เสียง คือ ของนายไพโรจน์ วายุภาพ รองประธานศาลฎีกา และ นายกำพล ภู่สุดแสวง ผู้พิพากษาอาวุโส ซึ่งมีคำวินิจฉัยให้ยึดทรัพย์ทั้งหมดจำนวน 7.6 หมื่นล้านบาทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ตกเป็นของแผ่นดิน ลงในเว็บไซต์ก่อนภายในสัปดาห์นี้ เนื่องจากเป็นที่สนใจของประชาชนภายในสัปดาห์นี้ สำหรับคำพิพากษาขององค์คณะเสียงข้างมากอีก 7 เสียง จะค่อยๆ เผยแพร่ต่อไป