ASTVผู้จัดการรายวัน - "อมารี" เตรียมงัดที่ดินสะสมกว่า 10 แปลงตามเมืองท่องเที่ยวพัฒนา ทั้งที่อยู่อาศัยและโรงแรม พร้อมเผยที่ดินหาดป่าตองพุ้งแตะ 50-60 ล้านบาท จนไม่สามารถพัฒนาได้ นักลงทุนหันพัฒนาพื้นที่ใกล้เคียงแทน ด้าน เน็กซัส” ระบุที่ดินเขาใหญ่ฮอตราคาปรับขึ้น 5 เท่า ถนนธนะรัชต์ตกไร่ละ 5-6 ล้านบาท แนะซื้อที่บนเขาควรดูเอกสารสิทธิให้ดีระวังโดนหลอก
ด้านนายชาตรี รัตนสังข์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัท อมารี เอ็ซเทท จำกัด กล่าวว่า การซื้อขายที่ดินในภูเก็ต โดยเฉพาะหาดป่าตองราคาในปัจจุบันปรับขึ้นไปสูงมากถึง 50-60 ล้านบาท/ไร่ ซึ่งสูงมากจนไม่สามารถพัฒนาเป็นเชิงพาณิชย์หรือที่อยู่อาศัยเพื่อขายได้ เพราะจะทำให้ราคาที่อยู่อาศัยดังกล่าวสูงมากจนไม่สามารถซื้อขายได้ โดยนักลงทุนส่วนใหญ่จะหันไปซื้อในย่านใกล้เคียงหรือติดเขาแทน
สำหรับกลุ่มอมารี ล่าสุดได้ซื้อที่ดินที่ตั้งโรงแรมบ้านกะทิง ภูเก็ต รีสอร์ท ย่านหาดราไวย์ เนื้อที่ 30 ไร่ จากเดิมเช่าระยะเวลา 30 ปี โดยซื้อเมื่อ 2 เดือนก่อนในราคาเกือบ 29 ล้านบาท/ไร่ มูลค่าประมาณ 850 ล้านบาท โดยมีแผนจะพัฒนาเป็นโรงแรมหรูภายใต้แบรนด์ ซัฟฟอน นอกจากซื้อที่ดินแปลงดังกล่าวแล้ว ยังมีแผนที่จะนำที่ดินสะสมที่ซื้อมาตั้งแต่สมัยนายแพทย์ชัยยุทธ กรรณสูต ผู้ก่อตั้งบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวลล๊อปเม้นท์ จำกัด(มหาชน) ซื้อสะสมไว้จำนวนมากทั่วประเทศ โดยมีกว่า 10 แปลงตามเมืองท่องเที่ยวที่มีศักยภาพในการพัมนาทั้งโรงแรม และที่อยู่อาศัย อาทิ ที่ดินที่เกาะช้าง และเกาะกูด จ.ตราด ,ที่ดินที่จ.เชียงราย,ที่ดินที่ อ.เมือง และอ.ปาย(ปัจจุบันพัฒนาโครงการบ้านกระทิง ยังมีที่ดินเหลือพัฒนาอีกส่วนหนึ่ง),จ.แม่ฮ่องสอน และที่ดินบริเวณเขาหลัก จ.พังงา( ติดโรงแรมเลอ เมอริเดียน บีช แอนด์ สปา รีสอร์ท) จำนวนกว่า 30 ไร่
ด้านนางนลินรัตน์ เจริญสุพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เน็กซัส พรอพเพอตี้ คอนซัลแทนท์ จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันการซื้อขายที่ดินตามเมืองท่องเที่ยวสำคัญมีเพิ่มขึ้นจำนวนมาก ทั้งการซื้อเพื่อลงทุนและซื้อเพื่อสร้างบ้านหลังที่สอง โดยเฉพาะเขาใหญ่ ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคาขายที่ดินเปล่าปรับขึ้นไปกว่า 5 เท่า หรือประมาณไร่ละ 5-6 ล้านบาท โดยเฉพาะถนนธนะรัชต์ ภายในระยะเวลา 5-6 ปี
“ค่านิยมซื้อที่ดินในเขาใหญ่มีเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งติดถนนและบนเขา และขยายการซื่อออกไปเรื่อยจนน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะในเรื่องของการถือครองซึ่งผู้ซื้อควรระมัดระวัง ถ้าจะให้ดีควรเลือกซื้อเฉพาะที่มีโฉนด หากไม่มีควรเป็นเอกสารสิทธิประเภทนส 3 หรือ นส 3 ก. เพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาการถือครองในภายหลังได้”
นอกจากนี้ยังมีเมืองพัทยา ที่มีอัตราการซื้อขายที่ดินสูงเช่นกัน โดยเฉพาะจากชาวต่างชาติที่ซื้อเพื่อลงทุนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทต่างๆส่วนคนไทยมีการซื้อบ้างเล็กน้อย ขณะที่หัวหินมีการซื้อขายมากเช่นกัน แต่เนื่องจากที่ดินมีราคาสูงมาก และหาซื้อได้ยาก
ด้านนายชาตรี รัตนสังข์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัท อมารี เอ็ซเทท จำกัด กล่าวว่า การซื้อขายที่ดินในภูเก็ต โดยเฉพาะหาดป่าตองราคาในปัจจุบันปรับขึ้นไปสูงมากถึง 50-60 ล้านบาท/ไร่ ซึ่งสูงมากจนไม่สามารถพัฒนาเป็นเชิงพาณิชย์หรือที่อยู่อาศัยเพื่อขายได้ เพราะจะทำให้ราคาที่อยู่อาศัยดังกล่าวสูงมากจนไม่สามารถซื้อขายได้ โดยนักลงทุนส่วนใหญ่จะหันไปซื้อในย่านใกล้เคียงหรือติดเขาแทน
สำหรับกลุ่มอมารี ล่าสุดได้ซื้อที่ดินที่ตั้งโรงแรมบ้านกะทิง ภูเก็ต รีสอร์ท ย่านหาดราไวย์ เนื้อที่ 30 ไร่ จากเดิมเช่าระยะเวลา 30 ปี โดยซื้อเมื่อ 2 เดือนก่อนในราคาเกือบ 29 ล้านบาท/ไร่ มูลค่าประมาณ 850 ล้านบาท โดยมีแผนจะพัฒนาเป็นโรงแรมหรูภายใต้แบรนด์ ซัฟฟอน นอกจากซื้อที่ดินแปลงดังกล่าวแล้ว ยังมีแผนที่จะนำที่ดินสะสมที่ซื้อมาตั้งแต่สมัยนายแพทย์ชัยยุทธ กรรณสูต ผู้ก่อตั้งบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวลล๊อปเม้นท์ จำกัด(มหาชน) ซื้อสะสมไว้จำนวนมากทั่วประเทศ โดยมีกว่า 10 แปลงตามเมืองท่องเที่ยวที่มีศักยภาพในการพัมนาทั้งโรงแรม และที่อยู่อาศัย อาทิ ที่ดินที่เกาะช้าง และเกาะกูด จ.ตราด ,ที่ดินที่จ.เชียงราย,ที่ดินที่ อ.เมือง และอ.ปาย(ปัจจุบันพัฒนาโครงการบ้านกระทิง ยังมีที่ดินเหลือพัฒนาอีกส่วนหนึ่ง),จ.แม่ฮ่องสอน และที่ดินบริเวณเขาหลัก จ.พังงา( ติดโรงแรมเลอ เมอริเดียน บีช แอนด์ สปา รีสอร์ท) จำนวนกว่า 30 ไร่
ด้านนางนลินรัตน์ เจริญสุพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เน็กซัส พรอพเพอตี้ คอนซัลแทนท์ จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันการซื้อขายที่ดินตามเมืองท่องเที่ยวสำคัญมีเพิ่มขึ้นจำนวนมาก ทั้งการซื้อเพื่อลงทุนและซื้อเพื่อสร้างบ้านหลังที่สอง โดยเฉพาะเขาใหญ่ ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคาขายที่ดินเปล่าปรับขึ้นไปกว่า 5 เท่า หรือประมาณไร่ละ 5-6 ล้านบาท โดยเฉพาะถนนธนะรัชต์ ภายในระยะเวลา 5-6 ปี
“ค่านิยมซื้อที่ดินในเขาใหญ่มีเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งติดถนนและบนเขา และขยายการซื่อออกไปเรื่อยจนน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะในเรื่องของการถือครองซึ่งผู้ซื้อควรระมัดระวัง ถ้าจะให้ดีควรเลือกซื้อเฉพาะที่มีโฉนด หากไม่มีควรเป็นเอกสารสิทธิประเภทนส 3 หรือ นส 3 ก. เพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาการถือครองในภายหลังได้”
นอกจากนี้ยังมีเมืองพัทยา ที่มีอัตราการซื้อขายที่ดินสูงเช่นกัน โดยเฉพาะจากชาวต่างชาติที่ซื้อเพื่อลงทุนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทต่างๆส่วนคนไทยมีการซื้อบ้างเล็กน้อย ขณะที่หัวหินมีการซื้อขายมากเช่นกัน แต่เนื่องจากที่ดินมีราคาสูงมาก และหาซื้อได้ยาก
