ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้เคยประสบเหตุสึนามิถล่มหาดป่าตองภูเก็ตเฝ้าติดตามข่าวสารเหตุการณ์สึนามิถล่มญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด ขณะที่นักท่องเที่ยวยังใช้ชีวิตปกติตามชายหาด
สำหรับบรรยากาศบริเวณชายหาดป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เคยได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สึนามิถล่มเมื่อปี 2547 นักท่องเที่ยวต่างก็ยังใช้ชีวิตและทำกิจกรรมตามปกติ
ขณะที่นายสมชาย จำปาพันธ์ และนายดิเรก ลินติดต่อ ซึ่งเป็นผู้ที่เคยประสบเหตุการณ์สึนามิถล่มที่หาดป่าตอง กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ยังรู้สึกกลัวกับเหตุการณ์สึนามิที่เกิดขึ้น หลังจากทราบข่าวเรื่องของสึนามิถล่มที่ประเทศญี่ปุ่น ก็รู้สึกกลัวแต่ก็ไม่ตื่นตระหนก และเฝ้าติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดทั้งในส่วนของข่าวสารในประเทศและต่างประเทศ ร่วมทั้งเฝ้าติดตามระดับน้ำในทะเลตลอดเวลา แม้ว่าเหตุการณ์สึนามิถล่มในครั้งนี้จะอยู่ห่างจากประเทศไทยก็ตาม
ด้าน นายกฤษฎา ตันสกุล ผู้ประกอบการโรงแรมในพื้นที่หาดป่าตองกล่าวว่า ในส่วนของนักท่องเที่ยวไม่ตื่นตระหนกกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่นในครั้งนี้ เพราะหลายคนเข้าใจว่าเป็นคนละพื้นที่ รวมทั้งยังมีความมั่นใจในระบบเตือนภัยล่วงหน้าที่มีอยู่
ขณะที่นายไมตรี จงไกรจักร ผู้ประสานงานชุมชนบ้านน้ำเค็ม จ.พังงา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เคยประสบภัยสึนามิโดยตรง กล่าวว่า ชาวบ้านไม่กังวลหรือตื่นตกใจกับเหตุการณ์สึนามิถล่มในประเทศญี่ปุ่น เพราะรู้ว่าสึนามิที่เกิดขึ้นนั้นอยู่ไกลจากบ้านน้ำเค็มมาก ชาวบ้านยังคงใช้ชีวิตตามปกติไม่มีการอพยพออกจากพื้นที่แต่อย่างใด
ด้านชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดระนอง จากการตรวจสอบพบว่า พื้นที่ที่เคยประสบเหตุการณ์สึนามิชาวบ้านยังใช้ชีวิตตามปกติและไม่ตื่นกลัวกับเหตุการณ์สึนามิถล่ม ที่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่นครั้งนี้
ขณะที่จังหวัดกระบี่ นายสด สะมาน ผู้ประกอบการเรือหางยางนำเที่ยวบริเวณอ่าวนาง อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10 ม.2 ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ กล่าวว่า ตามที่ได้เกิดแผ่นดินไหวและเกิดคลื่นยักษ์สึนามิ ในประเทศญี่ปุ่น ในส่วนของตนไม่มีความรู้สึกหวาดกลัวแต่อย่างได เพราะเชื่อมั่นในระบบเตือนภัยสึนามิที่มีอยู่ในพื้นที่ ว่าสามารถเตือนภัยได้จริง เพราะได้มีการทดสอบกันมาหลายครั้งแล้ว ถึงแม้ว่าบางครั้งเสียงเตือนภัยอาจจะเบาไปบ้าง และเมื่อปี 47 ที่ผ่านมาตนก็เคยประสบภัยมาแล้ว แต่ก็เอาชีวิตรอดมาได้
การเกิดสึนามิขึ้นครั้งนี้ เชื่อว่าคงจะมาไม่ถึงจังหวัดกระบี่และฝั่งอันดามัน แต่ก็ไม่ประมาท จะรอเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับผู้ประกอบการเรือหางยาวนำเที่ยว บริเวณอ่าวนาง ส่วนใหญ่ก็ทราบข่าวแล้ว แต่ทุกคนก็ไม่ได้ตื่นตระหนก ยังคงมีการนำท่องเที่ยวไปท่องเที่ยวตามสถานที่เกาะแก่งต่างๆเพราะทุกคนเชื่อมั่นในระบบเตือนภัย และต่างก็เคยประสบมาแล้วทุกคน ส่วนแหล่งท่องเที่ยวตามชายหาดอ่าวนาง ก็ยังคงมีนักท่องเที่ยวเดินเที่ยวตามชายหาด โดยไม่มีความรู้สึกตระหนกหรือตกใจว่าจะเกิดเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิขึ้นอีกในจังหวัดกระบี่
คนสุราษฎร์ฯ ไม่วิตกเหตุสึนามิถล่มญี่ปุ่น
ด้าน นายเอกพจน์ ยอดพินิจ ประธานหอการค้าจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า จากกรณีเกิดสึนามิสูงกว่า 10 เมตร พัดถล่มบ้านเรือนราษฎรในประเทศญี่ปุ่นนั้น ในส่วนของจังหวัดสุราษฎร์ธานีนั้นคิดว่าโอกาสเกิดขึ้นน้อยมาก เนื่องจากทะเลฝั่งอ่าวไทยเป็นทะเลลาดเอียงไม่ลึกชัน ประกอบกับทะเลสุราษฎร์ธานีเป็นเมืองร้อยเกาะ ซึ่งมีเกาะแก่งอยู่จำนวนมาก จึงเป็นเกาะกำบังคลื่นลมเป็นอย่างดี แต่หากเกิดขึ้นจริงก็จะไม่มีความรุนแรง ไม่เหมือนกับทะเลฝั่งอันดามันที่มีความลึกและลาดชัน เมื่อเกิดสึนามิขึ้นจึงมีความรุนแรงและสร้างความเสียหายให้กับสิ่งที่อยู่ริมชายฝั่ง
สำหรับบรรยากาศบริเวณชายหาดป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เคยได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สึนามิถล่มเมื่อปี 2547 นักท่องเที่ยวต่างก็ยังใช้ชีวิตและทำกิจกรรมตามปกติ
ขณะที่นายสมชาย จำปาพันธ์ และนายดิเรก ลินติดต่อ ซึ่งเป็นผู้ที่เคยประสบเหตุการณ์สึนามิถล่มที่หาดป่าตอง กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ยังรู้สึกกลัวกับเหตุการณ์สึนามิที่เกิดขึ้น หลังจากทราบข่าวเรื่องของสึนามิถล่มที่ประเทศญี่ปุ่น ก็รู้สึกกลัวแต่ก็ไม่ตื่นตระหนก และเฝ้าติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดทั้งในส่วนของข่าวสารในประเทศและต่างประเทศ ร่วมทั้งเฝ้าติดตามระดับน้ำในทะเลตลอดเวลา แม้ว่าเหตุการณ์สึนามิถล่มในครั้งนี้จะอยู่ห่างจากประเทศไทยก็ตาม
ด้าน นายกฤษฎา ตันสกุล ผู้ประกอบการโรงแรมในพื้นที่หาดป่าตองกล่าวว่า ในส่วนของนักท่องเที่ยวไม่ตื่นตระหนกกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่นในครั้งนี้ เพราะหลายคนเข้าใจว่าเป็นคนละพื้นที่ รวมทั้งยังมีความมั่นใจในระบบเตือนภัยล่วงหน้าที่มีอยู่
ขณะที่นายไมตรี จงไกรจักร ผู้ประสานงานชุมชนบ้านน้ำเค็ม จ.พังงา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เคยประสบภัยสึนามิโดยตรง กล่าวว่า ชาวบ้านไม่กังวลหรือตื่นตกใจกับเหตุการณ์สึนามิถล่มในประเทศญี่ปุ่น เพราะรู้ว่าสึนามิที่เกิดขึ้นนั้นอยู่ไกลจากบ้านน้ำเค็มมาก ชาวบ้านยังคงใช้ชีวิตตามปกติไม่มีการอพยพออกจากพื้นที่แต่อย่างใด
ด้านชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดระนอง จากการตรวจสอบพบว่า พื้นที่ที่เคยประสบเหตุการณ์สึนามิชาวบ้านยังใช้ชีวิตตามปกติและไม่ตื่นกลัวกับเหตุการณ์สึนามิถล่ม ที่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่นครั้งนี้
ขณะที่จังหวัดกระบี่ นายสด สะมาน ผู้ประกอบการเรือหางยางนำเที่ยวบริเวณอ่าวนาง อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10 ม.2 ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ กล่าวว่า ตามที่ได้เกิดแผ่นดินไหวและเกิดคลื่นยักษ์สึนามิ ในประเทศญี่ปุ่น ในส่วนของตนไม่มีความรู้สึกหวาดกลัวแต่อย่างได เพราะเชื่อมั่นในระบบเตือนภัยสึนามิที่มีอยู่ในพื้นที่ ว่าสามารถเตือนภัยได้จริง เพราะได้มีการทดสอบกันมาหลายครั้งแล้ว ถึงแม้ว่าบางครั้งเสียงเตือนภัยอาจจะเบาไปบ้าง และเมื่อปี 47 ที่ผ่านมาตนก็เคยประสบภัยมาแล้ว แต่ก็เอาชีวิตรอดมาได้
การเกิดสึนามิขึ้นครั้งนี้ เชื่อว่าคงจะมาไม่ถึงจังหวัดกระบี่และฝั่งอันดามัน แต่ก็ไม่ประมาท จะรอเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับผู้ประกอบการเรือหางยาวนำเที่ยว บริเวณอ่าวนาง ส่วนใหญ่ก็ทราบข่าวแล้ว แต่ทุกคนก็ไม่ได้ตื่นตระหนก ยังคงมีการนำท่องเที่ยวไปท่องเที่ยวตามสถานที่เกาะแก่งต่างๆเพราะทุกคนเชื่อมั่นในระบบเตือนภัย และต่างก็เคยประสบมาแล้วทุกคน ส่วนแหล่งท่องเที่ยวตามชายหาดอ่าวนาง ก็ยังคงมีนักท่องเที่ยวเดินเที่ยวตามชายหาด โดยไม่มีความรู้สึกตระหนกหรือตกใจว่าจะเกิดเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิขึ้นอีกในจังหวัดกระบี่
คนสุราษฎร์ฯ ไม่วิตกเหตุสึนามิถล่มญี่ปุ่น
ด้าน นายเอกพจน์ ยอดพินิจ ประธานหอการค้าจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า จากกรณีเกิดสึนามิสูงกว่า 10 เมตร พัดถล่มบ้านเรือนราษฎรในประเทศญี่ปุ่นนั้น ในส่วนของจังหวัดสุราษฎร์ธานีนั้นคิดว่าโอกาสเกิดขึ้นน้อยมาก เนื่องจากทะเลฝั่งอ่าวไทยเป็นทะเลลาดเอียงไม่ลึกชัน ประกอบกับทะเลสุราษฎร์ธานีเป็นเมืองร้อยเกาะ ซึ่งมีเกาะแก่งอยู่จำนวนมาก จึงเป็นเกาะกำบังคลื่นลมเป็นอย่างดี แต่หากเกิดขึ้นจริงก็จะไม่มีความรุนแรง ไม่เหมือนกับทะเลฝั่งอันดามันที่มีความลึกและลาดชัน เมื่อเกิดสึนามิขึ้นจึงมีความรุนแรงและสร้างความเสียหายให้กับสิ่งที่อยู่ริมชายฝั่ง
