ศูนย์ข่าวศรีราชา - นักธุรกิจในเขตเมืองพัทยาไม่หวั่นไหวหลังเกิดแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่น 8.9 ริกเตอร์ ส่งผลให้เกิดคลื่นสึนามิสูงกว่า 10 เมตร ถล่มเมืองชายฝั่งจนได้รับความเสียหายมหาศาล ชี้ อ่าวไทยไม่อยู่ในแนวเลื่อนของแผ่นดินไหว เพราะอยู่ภูมิภาคต่างกัน ระบุ ประเทศไทยได้เรียนรู้ถึงความเสียหายมาแล้วจนเกิดความเข้าใจไม่ตื่นตูมง่ายๆ
จากกรณีที่เกิดแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่น 8.9 ริกเตอร์ ส่งผลให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิความสูงกว่า 10 เมตร ถล่มเข้าซัดเมืองชายฝั่งจนได้รับความเสียอย่างมหาศาล และยังมีผู้สูญหายอีกเป็นจำนวนมากตามที่เป็นกระความสนใจของประชาชนทั่วไปอยู่ในขณะนี้นั้น ASTVผู้จัดการออนไลน์ ได้สอบถามความคิดเห็นต่อเรื่องดังกล่าวจากกลุ่มนักธุรกิจในเมืองพัทยา ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก ซึ่งส่วนใหญ่ไม่มีความหวาดวิตกต่อเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด
นายจำรูญ วิศวชัยพันธ์ นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา แสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนี้ ว่า เมืองพัทยามีโอกาสจะเจอสึนามิแบบประเทศญี่ปุ่นน้อยมาก เพราะเกาะแก่งมีอยู่มากมาย จึงไม่ค่อยมีความวิตกสักเท่าไร ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ได้มีการประสานการทำงานร่วมกับเมืองพัทยา โดย นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา ศึกษาข้อมูลเรื่องดังกล่าว ตลอดจนมีการอบรมและประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร รวมถึงความพร้อมเรื่องต่างๆ ในการรับมือสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา
นายสุรัตน์ เมฆะวรากุล กรรมการผู้จัดการในเครือไมค์กรุ๊ป พัทยา แสดงทรรศนะด้วยว่า หากมีการศึกษาข้อมูลและติดตามรายละเอียดเรื่องดังกล่าวอย่างถ่องแท้ จะทำให้ทราบว่าแผ่นดินไหวและสึนามิที่ประเทศญี่ปุ่นเกิดขึ้นบ่อยครั้งมาก ซึ่งก็ได้รับบาดแผลและบทเรียนจากธรรมชาติ จนต้องมีการเรียนรู้ที่จะรีบมือกับเรื่องดังกล่าว ประเทศไทยก็เช่นกันเคยสึนามิมาแล้ว คนไทยก็เรียนรู้ประสบการณ์จากความสูญเสียและเชื่อว่าพร้อมที่จะรับมือกับมันได้ไม่ตื่นตูมอะไรได้ง่ายๆ
“ตามพื้นที่ภูมิศาสตร์ อ่าวไทยไม่ได้อยู่ในแนวเลื่อนของแผ่นดินไหวดังกล่าว พัทยาก็ไม่น่าจะมีผลกระทบ ซึ่งส่วนใหญ่ภูมิภาคที่เกิดก็จะเป็นฝั่งอันดามัน ซึ่งอ่าวไทยนั้นมีผืนดินใหญ่ขนาบข้าง และมีหมู่เกาะอื่นๆ มากมาย ถ้าหากเรียนรู้ข้อมูลภูมิศาสตร์ก็จะไม่วิตกกังวล และอ่าวไทยก็ไม่น่าจะได้รับผลกระทบจากการเกิดแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่น เพราะญี่ปุ่นเกิดแผ่นดินไหวบ่อยมาก และเมื่อหลายสิบปีก่อน ได้เกิดสึนามิครั้งรุนแรงจนคนญี่ปุ่นตายเป็นแสนๆ เขาก็ได้เรียนรู้และเข้าใจ ซึ่งต้องมีการศึกษาเพื่อพร้อมรับมือต่อเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น คนไทยก็เช่นกัน” นายสุรัตน์ ระบุ
ด้าน นายสาธิต ทับขัน นักธุรกิจเจ้าของกิจการห้องเช่าและอพาร์ตเมนต์ขนาดกลางรายหนึ่งย่านพัทยาใต้ กล่าวด้วยว่า ตามที่ดูภาพข่าวแล้วเป็นภาพที่น่าหวาดกลัวหากเกิดขึ้นในพัทยา เพราะจะสร้างความเสียหายเป็นอย่างมากในเมืองท่องเที่ยว ทั้งนี้ หลายฝ่ายอาจไม่มีความวิตกกังวลเพราะว่าพัทยาอยู่ในเขตอ่าวไทย แต่ขอเตือนว่าอย่าประมาทกับภัยธรรมชาติ เพราะสามารถเกิดขึ้นที่ใดและเมื่อใดก็ได้ เมื่อถึงเวลาที่ธรรมชาติจะเอาคืนมนุษย์ต่อให้อยู่ที่ใดก็ไม่จะควรประมาททั้งสิ้น
จากกรณีที่เกิดแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่น 8.9 ริกเตอร์ ส่งผลให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิความสูงกว่า 10 เมตร ถล่มเข้าซัดเมืองชายฝั่งจนได้รับความเสียอย่างมหาศาล และยังมีผู้สูญหายอีกเป็นจำนวนมากตามที่เป็นกระความสนใจของประชาชนทั่วไปอยู่ในขณะนี้นั้น ASTVผู้จัดการออนไลน์ ได้สอบถามความคิดเห็นต่อเรื่องดังกล่าวจากกลุ่มนักธุรกิจในเมืองพัทยา ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก ซึ่งส่วนใหญ่ไม่มีความหวาดวิตกต่อเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด
นายจำรูญ วิศวชัยพันธ์ นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา แสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนี้ ว่า เมืองพัทยามีโอกาสจะเจอสึนามิแบบประเทศญี่ปุ่นน้อยมาก เพราะเกาะแก่งมีอยู่มากมาย จึงไม่ค่อยมีความวิตกสักเท่าไร ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ได้มีการประสานการทำงานร่วมกับเมืองพัทยา โดย นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา ศึกษาข้อมูลเรื่องดังกล่าว ตลอดจนมีการอบรมและประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร รวมถึงความพร้อมเรื่องต่างๆ ในการรับมือสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา
นายสุรัตน์ เมฆะวรากุล กรรมการผู้จัดการในเครือไมค์กรุ๊ป พัทยา แสดงทรรศนะด้วยว่า หากมีการศึกษาข้อมูลและติดตามรายละเอียดเรื่องดังกล่าวอย่างถ่องแท้ จะทำให้ทราบว่าแผ่นดินไหวและสึนามิที่ประเทศญี่ปุ่นเกิดขึ้นบ่อยครั้งมาก ซึ่งก็ได้รับบาดแผลและบทเรียนจากธรรมชาติ จนต้องมีการเรียนรู้ที่จะรีบมือกับเรื่องดังกล่าว ประเทศไทยก็เช่นกันเคยสึนามิมาแล้ว คนไทยก็เรียนรู้ประสบการณ์จากความสูญเสียและเชื่อว่าพร้อมที่จะรับมือกับมันได้ไม่ตื่นตูมอะไรได้ง่ายๆ
“ตามพื้นที่ภูมิศาสตร์ อ่าวไทยไม่ได้อยู่ในแนวเลื่อนของแผ่นดินไหวดังกล่าว พัทยาก็ไม่น่าจะมีผลกระทบ ซึ่งส่วนใหญ่ภูมิภาคที่เกิดก็จะเป็นฝั่งอันดามัน ซึ่งอ่าวไทยนั้นมีผืนดินใหญ่ขนาบข้าง และมีหมู่เกาะอื่นๆ มากมาย ถ้าหากเรียนรู้ข้อมูลภูมิศาสตร์ก็จะไม่วิตกกังวล และอ่าวไทยก็ไม่น่าจะได้รับผลกระทบจากการเกิดแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่น เพราะญี่ปุ่นเกิดแผ่นดินไหวบ่อยมาก และเมื่อหลายสิบปีก่อน ได้เกิดสึนามิครั้งรุนแรงจนคนญี่ปุ่นตายเป็นแสนๆ เขาก็ได้เรียนรู้และเข้าใจ ซึ่งต้องมีการศึกษาเพื่อพร้อมรับมือต่อเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น คนไทยก็เช่นกัน” นายสุรัตน์ ระบุ
ด้าน นายสาธิต ทับขัน นักธุรกิจเจ้าของกิจการห้องเช่าและอพาร์ตเมนต์ขนาดกลางรายหนึ่งย่านพัทยาใต้ กล่าวด้วยว่า ตามที่ดูภาพข่าวแล้วเป็นภาพที่น่าหวาดกลัวหากเกิดขึ้นในพัทยา เพราะจะสร้างความเสียหายเป็นอย่างมากในเมืองท่องเที่ยว ทั้งนี้ หลายฝ่ายอาจไม่มีความวิตกกังวลเพราะว่าพัทยาอยู่ในเขตอ่าวไทย แต่ขอเตือนว่าอย่าประมาทกับภัยธรรมชาติ เพราะสามารถเกิดขึ้นที่ใดและเมื่อใดก็ได้ เมื่อถึงเวลาที่ธรรมชาติจะเอาคืนมนุษย์ต่อให้อยู่ที่ใดก็ไม่จะควรประมาททั้งสิ้น
