ASTVผู้จัดการรายวัน - เมืองไทยประกันชีวิตฮึดตั้งเป้าปีนี้เบี้ยรวมแตะ 4 หมื่นล้าน หรือโตประมาณ 37% เท่าปีก่อน พร้อมวางนโยบายเติบโตในทุกด้านอย่างยั่งยืน โดยแบงก์แอสชัวรันส์โดดเด่นสุดหลังจับมือแบงก์กสิกรฯเต็มรูปแบบ
นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต (MTL)เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2553 ที่ผ่านมาว่า บริษัทมีเบี้ยประกันรับรวม 29,649 ล้านบาท เติบโต 37.64% แบ่งเป็นเบี้ยประกันรับใหม่ 13,123 ล้านบาท เติบโต 41.97% และเบี้ยประกันต่ออายุ 16,526 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 34.39%
"ในปี 53 ที่ผ่านมา เป็นปีที่บริษัทผ่านเหตุการณ์ต่างๆได้อย่างดีเนื่องจากบริษัทได้เตรียมความพร้อมในทุกด้านเพื่อขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมดำเนินนโยบายหลักที่ปฏิบัติมาอย่างถูกทางและเป็นผู้นำการตลาดที่หลากยหลายช่องทาง พร้อมทั้งดำเนินนโยบายหลักที่ปฏิบัติมาอย่างถูกทางและเป็นผู้นำการตลาดที่หลากหลายช่องทาง ซึ่งจากประสิทธิภาถในการดำเนินงานที่ผ่านมาทำให้ประสบความสำเร็จเกินความคิดหมาย"
นอกจากนี้ จากการที่บริษัทดำเนินงานด้วยความระมัดระวังและรอบคอบมาโดยตลอด ทำให้ในปีที่ผ่านมา บริษัทมีสินทรัพย์รวมสูงถึง 94,181 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% มีสินทรัพย์ลงทุนถึง 88,405 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 30% เช่นกัน โดยมีผลตอบแทนจากการลงทุนในระดับ 4.7% เนื่องจากบริษัทมีนโยบายในการบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ และมีเงินกองทุนสูงถึง 13,982 ล้านบาท ซึ่งสูงเป็นร้อยละ 916 ของที่กฎหมายกำหนด
สำหรับในปีนี้บริษัทตั้งเป้าอัตราการเติบโตของเบี้ยประกันในระดับที่ใกล้เคียงกันคือ 37% หรือมีเบี้ยประกันรวมแตะระดับ 4 หมื่นล้านบาท ตั้งเป้ากำไรสุทธิที่ระดับ 2,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 20% และทรัพย์สินแตะที่ระดับ 120,000 ล้านบาท โดยจะเน้นการเติบโตในทุกด้านอย่างยั่งยืน
นายสาระกล่าวอีกว่า ในช่วงที่ผ่านมาช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์มีอัตราการเติบโตที่โดดเด่นหลังจากที่ร่วมมือกับธนาคารกสิกรไทยอย่างเป็นแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นโดยขยายตัวถึง 60% และในปีนี้บริษัทตั้งเป้าเติบโตจากช่องทางดังกล่าว 50% ขณะที่ช่องทางตัวแทนนั้น ตั้งเป้าจะเพิ่มตัวแทนเป็น 3 หมื่นคน จากเป้าหมายอัตราการเติบโตผ่านช่องนี้ที่ระดับ 40%
"ปีนี้นับเป็นเป็นที่ยิ่งใหญ่ของบริษัทในโอกาสดำเนินธุรกิจครบ 60 ปี ซึ่งบริษัทจะมุ่งเน้นนโยบายการดำเนินงานเพื่อการเชื่อมโยงการทำงานของทุกส่วนงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะการแข่งขันของธุรกิจทีเข้มข้นขึ้น พร้อมปรับกลยุทธ์เพื่อรองรับสถานการณ์ต่างๆตลอดปีที่จะเกิดขึ้น"นายสาระกล่าว
นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต (MTL)เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2553 ที่ผ่านมาว่า บริษัทมีเบี้ยประกันรับรวม 29,649 ล้านบาท เติบโต 37.64% แบ่งเป็นเบี้ยประกันรับใหม่ 13,123 ล้านบาท เติบโต 41.97% และเบี้ยประกันต่ออายุ 16,526 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 34.39%
"ในปี 53 ที่ผ่านมา เป็นปีที่บริษัทผ่านเหตุการณ์ต่างๆได้อย่างดีเนื่องจากบริษัทได้เตรียมความพร้อมในทุกด้านเพื่อขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมดำเนินนโยบายหลักที่ปฏิบัติมาอย่างถูกทางและเป็นผู้นำการตลาดที่หลากยหลายช่องทาง พร้อมทั้งดำเนินนโยบายหลักที่ปฏิบัติมาอย่างถูกทางและเป็นผู้นำการตลาดที่หลากหลายช่องทาง ซึ่งจากประสิทธิภาถในการดำเนินงานที่ผ่านมาทำให้ประสบความสำเร็จเกินความคิดหมาย"
นอกจากนี้ จากการที่บริษัทดำเนินงานด้วยความระมัดระวังและรอบคอบมาโดยตลอด ทำให้ในปีที่ผ่านมา บริษัทมีสินทรัพย์รวมสูงถึง 94,181 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% มีสินทรัพย์ลงทุนถึง 88,405 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 30% เช่นกัน โดยมีผลตอบแทนจากการลงทุนในระดับ 4.7% เนื่องจากบริษัทมีนโยบายในการบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ และมีเงินกองทุนสูงถึง 13,982 ล้านบาท ซึ่งสูงเป็นร้อยละ 916 ของที่กฎหมายกำหนด
สำหรับในปีนี้บริษัทตั้งเป้าอัตราการเติบโตของเบี้ยประกันในระดับที่ใกล้เคียงกันคือ 37% หรือมีเบี้ยประกันรวมแตะระดับ 4 หมื่นล้านบาท ตั้งเป้ากำไรสุทธิที่ระดับ 2,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 20% และทรัพย์สินแตะที่ระดับ 120,000 ล้านบาท โดยจะเน้นการเติบโตในทุกด้านอย่างยั่งยืน
นายสาระกล่าวอีกว่า ในช่วงที่ผ่านมาช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์มีอัตราการเติบโตที่โดดเด่นหลังจากที่ร่วมมือกับธนาคารกสิกรไทยอย่างเป็นแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นโดยขยายตัวถึง 60% และในปีนี้บริษัทตั้งเป้าเติบโตจากช่องทางดังกล่าว 50% ขณะที่ช่องทางตัวแทนนั้น ตั้งเป้าจะเพิ่มตัวแทนเป็น 3 หมื่นคน จากเป้าหมายอัตราการเติบโตผ่านช่องนี้ที่ระดับ 40%
"ปีนี้นับเป็นเป็นที่ยิ่งใหญ่ของบริษัทในโอกาสดำเนินธุรกิจครบ 60 ปี ซึ่งบริษัทจะมุ่งเน้นนโยบายการดำเนินงานเพื่อการเชื่อมโยงการทำงานของทุกส่วนงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะการแข่งขันของธุรกิจทีเข้มข้นขึ้น พร้อมปรับกลยุทธ์เพื่อรองรับสถานการณ์ต่างๆตลอดปีที่จะเกิดขึ้น"นายสาระกล่าว
