สถาบันคุ้มครองเงินฝาก เปิดแผนขับเคลื่อนองค์กร 4 ด้าน มุ่งเสริมสร้างความมั่นใจแก่ผู้ฝากเงิน และความมั่นคง มีเสถียรภาพของระบบสถาบันการเงิน
นายสิงหะ นิกรพันธุ์ ผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองเงินฝาก (สคฝ.) เปิดเผยว่าเพื่อให้ภารกิจของ สคฝ.ที่มีต่อผู้ฝากเงินทั่วประเทศในระบบกว่า 6.9 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นจำนวนกว่า 58 ล้านบัญชี ( ณ 30 ก.ย.53) มีประสิทธิผลและเกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมทั้งผลักดันให้ สคฝ.บรรลุวิสัยทัศน์อย่างเป็นรูปธรรมสู่องค์กรในระดับสากล ล่าสุดในปี 2554 นี้ ได้กำหนด “แผนกลยุทธ์การดำเนินงาน 4 ด้าน” ที่สำคัญ เพื่อพร้อมเดินหน้าต่อไปอย่างเทียบเท่าองค์กรที่มีมาตรฐานชั้นนำ โดยกลยุทธ์แรก ด้านการคุ้มครองเงินฝาก สคฝ.จะมีการพัฒนาระบบข้อมูลผู้ฝากรายบุคคล เพื่อประโยชน์ในการจ่ายคืนเงินฝากเมื่อกรณีสถาบันการเงินถูกเพิกถอนใบอนุญาต รวมทั้งมีการเตรียมแผนปฏิบัติการเมื่อเกิดภาวะวิกฤติสถาบันการเงิน
สำหรับกลยุทธ์ที่ 2 ด้านการบริหารจัดการกองทุนคุ้มครองเงินฝาก ได้เตรียมการพัฒนาระบบบริหารเงินกองทุนให้มีประสิทธิภาพภายใต้การบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม เพื่อให้สามารถรองรับธุรกรรมการลงทุนให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด นอกจากนี้ สคฝ.จะสานต่อการดำเนินการศึกษาแนวทางการกำหนดขนาดเงินกองทุนที่เหมาะสมที่จะนำมาใช้รองรับกรณีวิกฤติได้
ส่วนกลยุทธ์ที่ 3 ด้านการบริหารจัดการภายในและการพัฒนางานของสถาบัน ในปีนี้ สคฝ.ได้ให้ความสำคัญกับการจัดทำแนวนโยบายธรรมาภิบาลเพื่อเสริมสร้างการกำกับดูแลที่ดีภายในองค์กร การปรับปรุงระบบฐานข้อมูลเกี่ยวกับการวิเคราะห์และติดตามฐานะสถาบันการเงิน รวมทั้งการปรับปรุงกระบวนการทำงานด้านสารสนเทศให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ควบคู่กับการพัฒนาศักยภาพบุคลากรอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง และกลยุทธ์ที่ 4 ด้านประชาสัมพันธ์เผยแพร่ความรู้ สถาบันได้วางแผนการดำเนินงานด้านการประชาสัมพันธ์ผ่านทางช่องทางต่างๆ เพื่อให้ผู้ฝากได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับระบบคุ้มครองเงินฝากที่ถูกต้อง เช่น การจัดสัมมนา การจัดทำแผ่นพับ/เอกสาร การให้สัมภาษณ์โดยผู้บริหารผ่านสื่อต่าง ๆ และการปรับปรุง Website ของสถาบันให้มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ มีรูปแบบที่เหมาะสมและทันสมัยขึ้น นอกจากนี้ ในเดือนมกราคมนี้ สถาบันฯได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสัมมนาประจำปีของหน่วยงานประกันเงินฝากในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ครั้งที่ 9 (Asia Pacific Regional Committee Meeting and Conference: APRC) ซึ่งนับเป็นโอกาสอันดีในการสร้างเครือข่ายและประชาสัมพันธ์สถาบันให้เป็นที่รู้จักในระดับสากลยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ในการจัดทำแผนกลยุทธ์ดังกล่าวนี้ ก็เพื่อต้องการเน้นให้ สคฝ.เป็นองค์กรที่มีการพัฒนาการบริหารภายในสำนักงานที่ทันสมัย เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยี และสร้างความพึงพอใจและความมั่นใจให้กับผู้ฝากเงิน ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาสถาบันคุ้มครองเงินฝากได้ยึดมั่นภารกิจในการเสริมสร้างเสถียรภาพความเข้มแข็งให้กับสถาบันการเงิน และตอกย้ำความเชื่อมั่นต่อประชาชนผู้ฝากเงินทั่วประเทศในการทำหน้าที่ ตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติสถาบันคุ้มครองเงินฝาก พ.ศ.2551 ซึ่งมีหน้าที่หลักในการจ่ายคืนเงินผู้ฝากให้แก่ผู้ฝากเงินในกรณีที่สถาบันการเงินถูกปิดกิจการ
นายสิงหะ นิกรพันธุ์ ผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองเงินฝาก (สคฝ.) เปิดเผยว่าเพื่อให้ภารกิจของ สคฝ.ที่มีต่อผู้ฝากเงินทั่วประเทศในระบบกว่า 6.9 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นจำนวนกว่า 58 ล้านบัญชี ( ณ 30 ก.ย.53) มีประสิทธิผลและเกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมทั้งผลักดันให้ สคฝ.บรรลุวิสัยทัศน์อย่างเป็นรูปธรรมสู่องค์กรในระดับสากล ล่าสุดในปี 2554 นี้ ได้กำหนด “แผนกลยุทธ์การดำเนินงาน 4 ด้าน” ที่สำคัญ เพื่อพร้อมเดินหน้าต่อไปอย่างเทียบเท่าองค์กรที่มีมาตรฐานชั้นนำ โดยกลยุทธ์แรก ด้านการคุ้มครองเงินฝาก สคฝ.จะมีการพัฒนาระบบข้อมูลผู้ฝากรายบุคคล เพื่อประโยชน์ในการจ่ายคืนเงินฝากเมื่อกรณีสถาบันการเงินถูกเพิกถอนใบอนุญาต รวมทั้งมีการเตรียมแผนปฏิบัติการเมื่อเกิดภาวะวิกฤติสถาบันการเงิน
สำหรับกลยุทธ์ที่ 2 ด้านการบริหารจัดการกองทุนคุ้มครองเงินฝาก ได้เตรียมการพัฒนาระบบบริหารเงินกองทุนให้มีประสิทธิภาพภายใต้การบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม เพื่อให้สามารถรองรับธุรกรรมการลงทุนให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด นอกจากนี้ สคฝ.จะสานต่อการดำเนินการศึกษาแนวทางการกำหนดขนาดเงินกองทุนที่เหมาะสมที่จะนำมาใช้รองรับกรณีวิกฤติได้
ส่วนกลยุทธ์ที่ 3 ด้านการบริหารจัดการภายในและการพัฒนางานของสถาบัน ในปีนี้ สคฝ.ได้ให้ความสำคัญกับการจัดทำแนวนโยบายธรรมาภิบาลเพื่อเสริมสร้างการกำกับดูแลที่ดีภายในองค์กร การปรับปรุงระบบฐานข้อมูลเกี่ยวกับการวิเคราะห์และติดตามฐานะสถาบันการเงิน รวมทั้งการปรับปรุงกระบวนการทำงานด้านสารสนเทศให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ควบคู่กับการพัฒนาศักยภาพบุคลากรอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง และกลยุทธ์ที่ 4 ด้านประชาสัมพันธ์เผยแพร่ความรู้ สถาบันได้วางแผนการดำเนินงานด้านการประชาสัมพันธ์ผ่านทางช่องทางต่างๆ เพื่อให้ผู้ฝากได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับระบบคุ้มครองเงินฝากที่ถูกต้อง เช่น การจัดสัมมนา การจัดทำแผ่นพับ/เอกสาร การให้สัมภาษณ์โดยผู้บริหารผ่านสื่อต่าง ๆ และการปรับปรุง Website ของสถาบันให้มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ มีรูปแบบที่เหมาะสมและทันสมัยขึ้น นอกจากนี้ ในเดือนมกราคมนี้ สถาบันฯได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสัมมนาประจำปีของหน่วยงานประกันเงินฝากในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ครั้งที่ 9 (Asia Pacific Regional Committee Meeting and Conference: APRC) ซึ่งนับเป็นโอกาสอันดีในการสร้างเครือข่ายและประชาสัมพันธ์สถาบันให้เป็นที่รู้จักในระดับสากลยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ในการจัดทำแผนกลยุทธ์ดังกล่าวนี้ ก็เพื่อต้องการเน้นให้ สคฝ.เป็นองค์กรที่มีการพัฒนาการบริหารภายในสำนักงานที่ทันสมัย เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยี และสร้างความพึงพอใจและความมั่นใจให้กับผู้ฝากเงิน ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาสถาบันคุ้มครองเงินฝากได้ยึดมั่นภารกิจในการเสริมสร้างเสถียรภาพความเข้มแข็งให้กับสถาบันการเงิน และตอกย้ำความเชื่อมั่นต่อประชาชนผู้ฝากเงินทั่วประเทศในการทำหน้าที่ ตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติสถาบันคุ้มครองเงินฝาก พ.ศ.2551 ซึ่งมีหน้าที่หลักในการจ่ายคืนเงินผู้ฝากให้แก่ผู้ฝากเงินในกรณีที่สถาบันการเงินถูกปิดกิจการ