ASTVผู้จัดการรายวัน - สถาบันคุ้มครองเงินฝาก เดินหน้ายกระดับเทียบชั้นสากล กำหนดแผนยุทธศาสตร์ปี 55 สร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ฝากเงิน
นายสิงหะ นิกรพันธุ์ ผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองเงินฝาก (สคฝ.) เปิดเผยว่า สถาบันคุ้มครองเงินฝาก (สคฝ.) มีภารกิจสำคัญในการทำหน้าที่จ่ายเงินคืนให้แก่ผู้ฝากเมื่อสถาบันการเงินปิดกิจการ ที่มีข้อดีกว่าเดิมคือผู้ฝากจะได้เงินคืนอย่างรวดเร็วภายใน 30 วันนับแต่วันยื่นคำขอรับเงินในจำนวนตามที่กฎหมายกำหนด ส่วนเงินนอกเหนือจากนั้นผู้ฝากจะได้รับคืนภายหลังการชำระบัญชีที่ สคฝ.จะเข้าไปดูแลไม่ให้มีกระบวนการที่ยาวนานดังเช่นแต่ก่อน และเพื่อการพัฒนาการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องไม่หยุดยั้ง สถาบันฯจึงให้ความสำคัญกับกลยุทธ์แผนงานที่มุ่งเน้นการบริหารสถาบันฯให้มีประสิทธิภาพและมีมาตรฐานสากลเป็นหลัก
ล่าสุด สคฝ.ได้จัดทำกลยุทธ์และแผนการบริหารงานปี 2555 เพื่อกำหนดทิศทางชัดเจนนำไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมใน 5 มิติด้วยกัน คือ มิติแรกเรื่องการดำเนินงานเป็นเลิศ (Operational Excellence) เพื่อให้การดำเนินงานและบริหารสถาบันมีประสิทธิภาพ เป็นที่น่าเชื่อถือ สร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ทั้งในส่วนด้านการบริหารเงินกองทุน ด้านความพร้อมในการจ่ายคืนผู้ฝากให้สามารถจ่ายคืนได้รวดเร็วตามกำหนดเวลา ด้านกระบวนการชำระบัญชีที่มีประสิทธิผล หรือการมีโครงสร้างพื้นฐานที่สมบูรณ์รองรับการทำงานได้อย่างเป็นเลิศ
นอกจากนี้ การสร้างและพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ ความสามารถเพิ่มขึ้น พร้อมผลักดันยุทธศาสตร์องค์กรให้บรรลุผล (Human Capital) ก็นับเป็นอีกมิติที่สำคัญควบคู่ไปกับการดำเนินงานตามหลักธรรมาภิบาล (Good Governance) และการมีระบบการบริหารความเสี่ยงที่ดี (Risk Management) ซึ่งทั้ง 2 ประเด็นนี้จะช่วยให้สถาบันเป็นองค์กรที่ดำเนินงานอย่างโปร่งใสและตรวจสอบได้ มีอิสระในการปฏิบัติหน้าที่ และมีการบริหารจัดการที่ดีภายใต้ระบบบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ
นายสิงหะกล่าวเพิ่มเติมว่า สคฝ. ยังได้ให้ความสำคัญกับการมีสัมพันธภาพที่ดีกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่อสถาบัน (Effective Partnerships) เพื่อประสานความร่วมมืออย่างใกล้ชิดและการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ระหว่างกัน และท้ายสุดคือด้านการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับระบบการคุ้มครองเงินฝาก และการเสริมสร้างภาพลักษณ์ของสถาบัน (Educated & Informed Stakeholders) เพื่อสร้างเชื่อมั่นและสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับผู้ฝากเงินและสาธารณชน เพื่อป้องกันการตื่นตระหนกจากข่าวสารที่ไม่ชัดเจนหรือมีความเข้าใจที่คาดเคลื่อน ซึ่งเป็นมาตรการป้องกันที่สำคัญที่จะเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบสถาบันการเงิน
ทั้งนี้ แผนงานปี 2555 ของ สคฝ.นี้ เป็นไปตามกรอบ “แผนกลยุทธ์ 3 ปีสถาบันคุ้มครองเงินฝาก” ( พ.ศ. 2555-2557 ) ที่จะมีการพัฒนาองค์กรเติบโตอย่างต่อเนื่อง และนำ สคฝ. ก้าวสู่ความมีประสิทธิภาพของการบริการประชาชน ทัดเทียมสถาบันชั้นนำในต่างประเทศ
นายสิงหะ นิกรพันธุ์ ผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองเงินฝาก (สคฝ.) เปิดเผยว่า สถาบันคุ้มครองเงินฝาก (สคฝ.) มีภารกิจสำคัญในการทำหน้าที่จ่ายเงินคืนให้แก่ผู้ฝากเมื่อสถาบันการเงินปิดกิจการ ที่มีข้อดีกว่าเดิมคือผู้ฝากจะได้เงินคืนอย่างรวดเร็วภายใน 30 วันนับแต่วันยื่นคำขอรับเงินในจำนวนตามที่กฎหมายกำหนด ส่วนเงินนอกเหนือจากนั้นผู้ฝากจะได้รับคืนภายหลังการชำระบัญชีที่ สคฝ.จะเข้าไปดูแลไม่ให้มีกระบวนการที่ยาวนานดังเช่นแต่ก่อน และเพื่อการพัฒนาการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องไม่หยุดยั้ง สถาบันฯจึงให้ความสำคัญกับกลยุทธ์แผนงานที่มุ่งเน้นการบริหารสถาบันฯให้มีประสิทธิภาพและมีมาตรฐานสากลเป็นหลัก
ล่าสุด สคฝ.ได้จัดทำกลยุทธ์และแผนการบริหารงานปี 2555 เพื่อกำหนดทิศทางชัดเจนนำไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมใน 5 มิติด้วยกัน คือ มิติแรกเรื่องการดำเนินงานเป็นเลิศ (Operational Excellence) เพื่อให้การดำเนินงานและบริหารสถาบันมีประสิทธิภาพ เป็นที่น่าเชื่อถือ สร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ทั้งในส่วนด้านการบริหารเงินกองทุน ด้านความพร้อมในการจ่ายคืนผู้ฝากให้สามารถจ่ายคืนได้รวดเร็วตามกำหนดเวลา ด้านกระบวนการชำระบัญชีที่มีประสิทธิผล หรือการมีโครงสร้างพื้นฐานที่สมบูรณ์รองรับการทำงานได้อย่างเป็นเลิศ
นอกจากนี้ การสร้างและพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ ความสามารถเพิ่มขึ้น พร้อมผลักดันยุทธศาสตร์องค์กรให้บรรลุผล (Human Capital) ก็นับเป็นอีกมิติที่สำคัญควบคู่ไปกับการดำเนินงานตามหลักธรรมาภิบาล (Good Governance) และการมีระบบการบริหารความเสี่ยงที่ดี (Risk Management) ซึ่งทั้ง 2 ประเด็นนี้จะช่วยให้สถาบันเป็นองค์กรที่ดำเนินงานอย่างโปร่งใสและตรวจสอบได้ มีอิสระในการปฏิบัติหน้าที่ และมีการบริหารจัดการที่ดีภายใต้ระบบบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ
นายสิงหะกล่าวเพิ่มเติมว่า สคฝ. ยังได้ให้ความสำคัญกับการมีสัมพันธภาพที่ดีกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่อสถาบัน (Effective Partnerships) เพื่อประสานความร่วมมืออย่างใกล้ชิดและการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ระหว่างกัน และท้ายสุดคือด้านการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับระบบการคุ้มครองเงินฝาก และการเสริมสร้างภาพลักษณ์ของสถาบัน (Educated & Informed Stakeholders) เพื่อสร้างเชื่อมั่นและสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับผู้ฝากเงินและสาธารณชน เพื่อป้องกันการตื่นตระหนกจากข่าวสารที่ไม่ชัดเจนหรือมีความเข้าใจที่คาดเคลื่อน ซึ่งเป็นมาตรการป้องกันที่สำคัญที่จะเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบสถาบันการเงิน
ทั้งนี้ แผนงานปี 2555 ของ สคฝ.นี้ เป็นไปตามกรอบ “แผนกลยุทธ์ 3 ปีสถาบันคุ้มครองเงินฝาก” ( พ.ศ. 2555-2557 ) ที่จะมีการพัฒนาองค์กรเติบโตอย่างต่อเนื่อง และนำ สคฝ. ก้าวสู่ความมีประสิทธิภาพของการบริการประชาชน ทัดเทียมสถาบันชั้นนำในต่างประเทศ
