ASTVผู้จัดการรายวัน- " สาคร " โต้ข่าวทำงามหน้า ถูกตร.ฮ่องกงจับข้อหาลักทรัพย์ในดิวตี้ฟรี อ้างซื้อกระเป๋าสตางค์แล้วแคชเชียร์ลืมสแกนบาร์โค้ด ขณะ"พิเชษฐ" บอกถูกจับข้อหาทะเลาะวิวาท เนื่องจากซื้อสิ้นค้าแล้วไม่ได้ใส่ตะกร้า แต่หนีบรักแร้ออกมา สุดท้ายต้องขึ้นศาลถูกปรับ 5,000 เหรียญฮ่องกง ส.ส.ใต้ยุให้ฟ้องสื่อ ฐานตีข่าวทำให้เสียหาย
นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ ถึงกรณีที่มีข่าวว่า ทางสถานกงสุลใหญ่ เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้รายงานมาว่านายสาคร เกี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจฮ่องกงควบคุมตัว ในความผิดฐานลักทรัพย์ในดิวตี้ฟรี เมื่อวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า กรณีของนายสาคร คาดว่าจะมีการรายงานให้หัวหน้าพรรคทราบแล้ว เบื้องต้นได้รับรายงานว่า เป็นเรื่องที่อาจจะเข้าใจผิดกันในการซื้อสินค้า ขณะนี้ได้มีการชี้แจงเรียบร้อยแล้ว ได้มีการประสานกับตม.ฮ่องกง เพื่อแก้ปัญหาแล้ว
อย่างไรก็ตาม เรื่องทั้งหมดจะได้มีความชัดเจนจากนายนายสาคร ที่จะมีการแถลงให้ทราบต่อไป โดยเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างที่นายสาคร เดินทางไปกับคณะกรรมาธิการวิสามัญยางพารา ที่มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รมช.เกษตรและสหกรณ์ เป็นหัวหน้าคณะ และมีการแวะที่ฮ่องกง ขณะนี้ยังไม่มีใครติดต่อนายสาคร เพียงแต่มีการรายงานเบื้องต้นเท่านั้นเอง และทางพรรคทราบเบื้องต้นเท่านั้น ยังไม่ทราบรายละเอียด ซึ่งคงต้องถาม นายศุภชัย ในฐานะหัวหน้าคณะที่เดินทางไป
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องนี้ ว่า ตนเพิ่งทราบข่าว ซึ่งจะมีการสอบถามรายละเอียดข้อเท็จจริงจากนายศุภชัย โพธิ์สุ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในที่ประชุมครม. เนื่องจากเดินทางไปดูงานกับคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรด้วยกัน
**"พิเชษฐ"อ้างเรื่องทะเลาะวิวาท
ด้านนายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ถึงเรื่องนี้ว่า ยอมรับว่าเรื่องดังกล่าวเป็นความจริง แต่ไม่ใช่เรื่องขโมยสินค้าตามที่เป็นข่าว เท่าที่ทราบจากบุคคลที่ตนได้ประสานเพื่อขอความช่วยเหลือ อาทิ เจ้าหน้าที่ทูตประจำประเทศไทยที่ตนรู้จัก และเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ บอกว่า เกิดจากความเข้าใจผิดระหว่างเจ้าของดิวตี้ ฟรี และนายสาคร เนื่องจากนายสาคร ได้เข้าไปซื้อสินค้าหลายชิ้น โดยที่ไม่ได้นำตระกร้าไป จึงต้องถือของแบบหนีบไว้บริเวณใต้รักแร้ ทำให้ผู้ที่ดูแลเข้าใจผิดว่า เป็นการขโมยของจึงเกิดเป็นปากเสียง ทะเลาะวิวาท
" ผมได้รับรายงานว่า ขณะนี้ทางกระบวนการยุติธรรมของประเทศฮ่องกง ได้ตัดสินเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยได้พิจารณาเป็นกรณีของการทะเลาะวิวาท ไม่ใช่เรื่องขโมยสินค้า และได้เปรียบเทียบปรับ ในข้อหาทะเลาะวิวาทเท่านั้น ซึ่งขณะนี้คุณสาคร อยู่ระหว่างเตรียมตัวเดินทางกลับประเทศไทย โดยจะใช้เส้นทางฮ่องกง-กรุงเทพฯ ช่วงค่ำวันนี้" นายพิเชษฐกล่าว
**"สาคร" อ้างแคชเชียร์ลืมสแกนบาร์โค้ด
ต่อมาเมื่อเวลา 13.00 น. วานนี้ นายสาคร เกี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษ์ทางโทรศัพท์ กับผู้สื่อข่าวว่า ขณะนี้ตนยังอยู่ที่ฮ่องกง ส่วนตัวยอมรับกับข่าวที่ระบุว่าตนโดนจับ ซึ่งเรื่องดังกล่าวทางอุปทูตประเทศไทยประจำฮ่องกง ได้เข้ามาเคลียร์เรื่องดังกล่าวให้ ส่วนเหตุที่แท้จริงเป็นการเข้าใจผิด ว่าตนไม่ได้ชำระเงินค่ากระเป๋าใส่เงิน มูลค่า 500 เหรียญ ทั้งที่เป็นความผิดพลาดของแคชเชียร์ ที่ไม่ได้สแกนบาร์โค๊ด ซึ่งตอนแรกที่เจ้าหน้าที่ดิวตี้ฟรี เข้ามาคุมตัว ตนขัดขืนและไม่ยอม เนื่องจากคิดว่าสินค้าได้รับการสแกนบาร์โค๊ดแล้วทุกชิ้น ซึ่งรวมมูลค่าสินค้าทั้งหมดกว่า 3,000 เหรียญ จึงทำให้ต้องถูกนำตัวไปที่สถานีตำรวจ เพื่อตรวจสอบ และภายหลังตรวจสอบก็พบความผิดพลาดจริง ตนจึงชำระเงินค่าสินค้าดังกล่าวแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากเป็นการเข้าใจผิด ทำไมข่าวถึงออกมาว่าเรื่องถึงขั้นดำเนินการในชั้นศาลในคดีลักทรัพย์ นายสาคร กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเป็นการเข้าใจผิด และเคลียร์กันได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เมื่อถามว่าจะเดินทางกลับประเทศไทยเมื่อใด นายสาคร กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างหาเที่ยวบินกลับ ยังตอบไม่ได้ว่ากลับถึงประเทศไทยเมื่อไร
**ส.ส.ใต้เล็งฟ้องสื่อตีข่าวให้เสียหาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่สื่อมวลชนนำข่าวกรณี นายสาคร ถูกทางการประเทศฮ่องกงจับกุมในข้อหาลักทรัพย์ ทำให้ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้จับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ข่าวดังกล่าว โดยนายเชน เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี ได้คุยกับนายถวิล ไพรสณฑ์ ส.ส.กทม. ว่า เรื่องดังกล่าวถือว่าสร้างความเสียหายกับพรรคประชาธิปัตย์ ดังนั้นนายสาคร ควรที่จะฟ้องสื่อที่ลงข่าวสร้างความเสียหาย
ด้านนพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวอาจจะเป็นการเข้าใจผิด
** "บัวแก้ว"ชี้ เป็นเรื่องส่วนตัว
นายธานี ทองภักดี อธิบดีกรมสารนิเทศกระทรวงการต่างประเทศ กล่าว ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัว ทางกระทรวงไม่ขอแสดงความคิดเห็น ซึ่งทางสถานกงสุลใหญ่ไทย ได้เข้าไปดูแล และให้คำปรึกษาพร้อมกับอำนวยความสะดวก ตามหลักการที่กระทรวงการต่างประเทศปฏิบัติให้กับนายสาครแล้ว
รายงานข่าวแจ้งว่า สถานกงสุลใหญ่ไทย ประจำฮ่องกง ได้รายงานมาเข้ามายังกระทรวงต่างประเทศว่า ศาลฮ่องกงได้พิจารณาคดีของนายสาคร เสร็จสิ้นกระบวนการแล้ว โดยศาลได้ตัดสินว่า มีความผิดในข้อหาลักทรัพย์ ศาลจึงมีคำสั่งให้ปรับเงิน 5,000 เหรียญฮ่องกง และนายสาคร เองก็ไม่ได้ขอที่จะต้องสู้คดีต่อแต่อย่างใด
นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ ถึงกรณีที่มีข่าวว่า ทางสถานกงสุลใหญ่ เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้รายงานมาว่านายสาคร เกี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจฮ่องกงควบคุมตัว ในความผิดฐานลักทรัพย์ในดิวตี้ฟรี เมื่อวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า กรณีของนายสาคร คาดว่าจะมีการรายงานให้หัวหน้าพรรคทราบแล้ว เบื้องต้นได้รับรายงานว่า เป็นเรื่องที่อาจจะเข้าใจผิดกันในการซื้อสินค้า ขณะนี้ได้มีการชี้แจงเรียบร้อยแล้ว ได้มีการประสานกับตม.ฮ่องกง เพื่อแก้ปัญหาแล้ว
อย่างไรก็ตาม เรื่องทั้งหมดจะได้มีความชัดเจนจากนายนายสาคร ที่จะมีการแถลงให้ทราบต่อไป โดยเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างที่นายสาคร เดินทางไปกับคณะกรรมาธิการวิสามัญยางพารา ที่มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รมช.เกษตรและสหกรณ์ เป็นหัวหน้าคณะ และมีการแวะที่ฮ่องกง ขณะนี้ยังไม่มีใครติดต่อนายสาคร เพียงแต่มีการรายงานเบื้องต้นเท่านั้นเอง และทางพรรคทราบเบื้องต้นเท่านั้น ยังไม่ทราบรายละเอียด ซึ่งคงต้องถาม นายศุภชัย ในฐานะหัวหน้าคณะที่เดินทางไป
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องนี้ ว่า ตนเพิ่งทราบข่าว ซึ่งจะมีการสอบถามรายละเอียดข้อเท็จจริงจากนายศุภชัย โพธิ์สุ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในที่ประชุมครม. เนื่องจากเดินทางไปดูงานกับคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรด้วยกัน
**"พิเชษฐ"อ้างเรื่องทะเลาะวิวาท
ด้านนายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ถึงเรื่องนี้ว่า ยอมรับว่าเรื่องดังกล่าวเป็นความจริง แต่ไม่ใช่เรื่องขโมยสินค้าตามที่เป็นข่าว เท่าที่ทราบจากบุคคลที่ตนได้ประสานเพื่อขอความช่วยเหลือ อาทิ เจ้าหน้าที่ทูตประจำประเทศไทยที่ตนรู้จัก และเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ บอกว่า เกิดจากความเข้าใจผิดระหว่างเจ้าของดิวตี้ ฟรี และนายสาคร เนื่องจากนายสาคร ได้เข้าไปซื้อสินค้าหลายชิ้น โดยที่ไม่ได้นำตระกร้าไป จึงต้องถือของแบบหนีบไว้บริเวณใต้รักแร้ ทำให้ผู้ที่ดูแลเข้าใจผิดว่า เป็นการขโมยของจึงเกิดเป็นปากเสียง ทะเลาะวิวาท
" ผมได้รับรายงานว่า ขณะนี้ทางกระบวนการยุติธรรมของประเทศฮ่องกง ได้ตัดสินเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยได้พิจารณาเป็นกรณีของการทะเลาะวิวาท ไม่ใช่เรื่องขโมยสินค้า และได้เปรียบเทียบปรับ ในข้อหาทะเลาะวิวาทเท่านั้น ซึ่งขณะนี้คุณสาคร อยู่ระหว่างเตรียมตัวเดินทางกลับประเทศไทย โดยจะใช้เส้นทางฮ่องกง-กรุงเทพฯ ช่วงค่ำวันนี้" นายพิเชษฐกล่าว
**"สาคร" อ้างแคชเชียร์ลืมสแกนบาร์โค้ด
ต่อมาเมื่อเวลา 13.00 น. วานนี้ นายสาคร เกี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษ์ทางโทรศัพท์ กับผู้สื่อข่าวว่า ขณะนี้ตนยังอยู่ที่ฮ่องกง ส่วนตัวยอมรับกับข่าวที่ระบุว่าตนโดนจับ ซึ่งเรื่องดังกล่าวทางอุปทูตประเทศไทยประจำฮ่องกง ได้เข้ามาเคลียร์เรื่องดังกล่าวให้ ส่วนเหตุที่แท้จริงเป็นการเข้าใจผิด ว่าตนไม่ได้ชำระเงินค่ากระเป๋าใส่เงิน มูลค่า 500 เหรียญ ทั้งที่เป็นความผิดพลาดของแคชเชียร์ ที่ไม่ได้สแกนบาร์โค๊ด ซึ่งตอนแรกที่เจ้าหน้าที่ดิวตี้ฟรี เข้ามาคุมตัว ตนขัดขืนและไม่ยอม เนื่องจากคิดว่าสินค้าได้รับการสแกนบาร์โค๊ดแล้วทุกชิ้น ซึ่งรวมมูลค่าสินค้าทั้งหมดกว่า 3,000 เหรียญ จึงทำให้ต้องถูกนำตัวไปที่สถานีตำรวจ เพื่อตรวจสอบ และภายหลังตรวจสอบก็พบความผิดพลาดจริง ตนจึงชำระเงินค่าสินค้าดังกล่าวแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากเป็นการเข้าใจผิด ทำไมข่าวถึงออกมาว่าเรื่องถึงขั้นดำเนินการในชั้นศาลในคดีลักทรัพย์ นายสาคร กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเป็นการเข้าใจผิด และเคลียร์กันได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เมื่อถามว่าจะเดินทางกลับประเทศไทยเมื่อใด นายสาคร กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างหาเที่ยวบินกลับ ยังตอบไม่ได้ว่ากลับถึงประเทศไทยเมื่อไร
**ส.ส.ใต้เล็งฟ้องสื่อตีข่าวให้เสียหาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่สื่อมวลชนนำข่าวกรณี นายสาคร ถูกทางการประเทศฮ่องกงจับกุมในข้อหาลักทรัพย์ ทำให้ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้จับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ข่าวดังกล่าว โดยนายเชน เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี ได้คุยกับนายถวิล ไพรสณฑ์ ส.ส.กทม. ว่า เรื่องดังกล่าวถือว่าสร้างความเสียหายกับพรรคประชาธิปัตย์ ดังนั้นนายสาคร ควรที่จะฟ้องสื่อที่ลงข่าวสร้างความเสียหาย
ด้านนพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวอาจจะเป็นการเข้าใจผิด
** "บัวแก้ว"ชี้ เป็นเรื่องส่วนตัว
นายธานี ทองภักดี อธิบดีกรมสารนิเทศกระทรวงการต่างประเทศ กล่าว ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัว ทางกระทรวงไม่ขอแสดงความคิดเห็น ซึ่งทางสถานกงสุลใหญ่ไทย ได้เข้าไปดูแล และให้คำปรึกษาพร้อมกับอำนวยความสะดวก ตามหลักการที่กระทรวงการต่างประเทศปฏิบัติให้กับนายสาครแล้ว
รายงานข่าวแจ้งว่า สถานกงสุลใหญ่ไทย ประจำฮ่องกง ได้รายงานมาเข้ามายังกระทรวงต่างประเทศว่า ศาลฮ่องกงได้พิจารณาคดีของนายสาคร เสร็จสิ้นกระบวนการแล้ว โดยศาลได้ตัดสินว่า มีความผิดในข้อหาลักทรัพย์ ศาลจึงมีคำสั่งให้ปรับเงิน 5,000 เหรียญฮ่องกง และนายสาคร เองก็ไม่ได้ขอที่จะต้องสู้คดีต่อแต่อย่างใด
