ASTVผู้จัดการรายวัน - ปธ.กมธ.ป.ป.ช.สภาฯ เผยสำนักงบฯ หั่นงบฯ โครงการคอมพ์อาชีวะหลังจัดจ้าง มจธ.ดำเนินการวิธีกรณีพิเศษ เกือบครึ่ง จาก 1.3 พันล. หลัง คกก.กระทรวงไอซีทีตรวจสอบพบมีการตั้งสเปก-ราคาครุภัณฑ์สูงลิบเกินจริง
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ได้ดำเนินการจ้างให้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) เข้ามาทำหลักสูตรและสื่อโครงการเครือข่ายคอมพิวเตอร์ มูลค่ากว่า 1,300 ล้านบาท ภายใต้งบไทยเข้มแข็ง หรือ SP2 ด้วยวิธีกรณีพิเศษ ซึ่งทางคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร ได้เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี สั่งการให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) และกระทรวงวิทยาศาสตร์ เข้ามาตรวจสอบสเปกคอมพิวเตอร์และครุภัณฑ์ในโครงการดังกล่าว เนื่องจากทาง กมธ.ป.ป.ช. พบว่ามีการล็อกบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งให้ได้รับงานโครงการนี้ และมีการจัดทำราคาที่เกินจริงถึง 50% นั้น
วานนี้ (24 ม.ค.) นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธาน กมธ.ป.ป.ช.สภาฯ เปิดเผยว่า จากข้อเรียกร้องนั้น ทำให้นายกรัฐมนตรีสั่งการให้กระทรวงไอซีทีตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบเรื่องดังกล่าว และจากการตรวจสอบพบว่ามีการจัดทำสเปกและตั้งราคาเกินความจริงอยู่มาก ซึ่งจากข้อสรุปของคณะกรรมการนั้นทางสำนักงบประมาณ จึงพิจารณาตัดงบฯ โครงการนี้ประมาณ 452 ล้านบาท จากที่ทาง สอศ.เสนอของบฯ ไปกว่า 1,300 ล้านบาท อย่างไรก็ตามจากนี้สำนักงบฯ จะได้ทำหนังสือแจ้งการถูกตัดงบฯ ไปยัง สอศ. ซึ่ง หาก สอศ.พิจารณาแล้วมีความเห็นที่ต่างไป ก็สามารถทำหนังสือชี้แจงกลับมายังสำนักงบฯ ได้
“ตัวเลขงบที่ถูกตัดไปกว่า 452 ล้านบาทนั้นต้องมีการเสนออนุมัติตามขั้นตอนอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งหากแจ้งไปยังอาชีวะ แล้วไม่พอใจก็ต้องทำหนังสือชี้แจงมายังสำนักงบฯ ซึ่งตามเบื้องต้นผมทราบว่าทางสำนักงบฯ ยืนยันเองว่าจะไม่มีการเพิ่มงบฯ จากนี้อีกแล้ว ทั้งนี้ผมคิดว่าสำนักงบฯ ควรจะพิจารณาตัดงบฯ มากกว่านี้ เพราะยังมีการตั้งราคาที่สูงเกินจริงอยู่มาก ซึ่งผลการพิจาณาของคณะกรรมการจากไอซีทีก็เห็นชัดอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม จากนี้ไปทาง กมธ.ป.ป.ช.จะพยายามติดตามการดำเนินโครงการดังกล่าวอย่างใกล้ชิดต่อไป ว่าหลังจากที่ทาง สอศ.ได้ทำหนังสือชี้แจงกลับไปยังสำนักงบฯ แล้วนั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร” ปธ.กมธ.ป.ป.ช.กล่าว
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ได้ดำเนินการจ้างให้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) เข้ามาทำหลักสูตรและสื่อโครงการเครือข่ายคอมพิวเตอร์ มูลค่ากว่า 1,300 ล้านบาท ภายใต้งบไทยเข้มแข็ง หรือ SP2 ด้วยวิธีกรณีพิเศษ ซึ่งทางคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร ได้เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี สั่งการให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) และกระทรวงวิทยาศาสตร์ เข้ามาตรวจสอบสเปกคอมพิวเตอร์และครุภัณฑ์ในโครงการดังกล่าว เนื่องจากทาง กมธ.ป.ป.ช. พบว่ามีการล็อกบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งให้ได้รับงานโครงการนี้ และมีการจัดทำราคาที่เกินจริงถึง 50% นั้น
วานนี้ (24 ม.ค.) นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธาน กมธ.ป.ป.ช.สภาฯ เปิดเผยว่า จากข้อเรียกร้องนั้น ทำให้นายกรัฐมนตรีสั่งการให้กระทรวงไอซีทีตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบเรื่องดังกล่าว และจากการตรวจสอบพบว่ามีการจัดทำสเปกและตั้งราคาเกินความจริงอยู่มาก ซึ่งจากข้อสรุปของคณะกรรมการนั้นทางสำนักงบประมาณ จึงพิจารณาตัดงบฯ โครงการนี้ประมาณ 452 ล้านบาท จากที่ทาง สอศ.เสนอของบฯ ไปกว่า 1,300 ล้านบาท อย่างไรก็ตามจากนี้สำนักงบฯ จะได้ทำหนังสือแจ้งการถูกตัดงบฯ ไปยัง สอศ. ซึ่ง หาก สอศ.พิจารณาแล้วมีความเห็นที่ต่างไป ก็สามารถทำหนังสือชี้แจงกลับมายังสำนักงบฯ ได้
“ตัวเลขงบที่ถูกตัดไปกว่า 452 ล้านบาทนั้นต้องมีการเสนออนุมัติตามขั้นตอนอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งหากแจ้งไปยังอาชีวะ แล้วไม่พอใจก็ต้องทำหนังสือชี้แจงมายังสำนักงบฯ ซึ่งตามเบื้องต้นผมทราบว่าทางสำนักงบฯ ยืนยันเองว่าจะไม่มีการเพิ่มงบฯ จากนี้อีกแล้ว ทั้งนี้ผมคิดว่าสำนักงบฯ ควรจะพิจารณาตัดงบฯ มากกว่านี้ เพราะยังมีการตั้งราคาที่สูงเกินจริงอยู่มาก ซึ่งผลการพิจาณาของคณะกรรมการจากไอซีทีก็เห็นชัดอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม จากนี้ไปทาง กมธ.ป.ป.ช.จะพยายามติดตามการดำเนินโครงการดังกล่าวอย่างใกล้ชิดต่อไป ว่าหลังจากที่ทาง สอศ.ได้ทำหนังสือชี้แจงกลับไปยังสำนักงบฯ แล้วนั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร” ปธ.กมธ.ป.ป.ช.กล่าว
