ปธ.กมธ.ป.ป.ช.สภาฯ ซัดดีดีการบินไทยเบี้ยวแจงผลสอบ ผอ.ทุจริตอัปเกรดตั๋วสายการบินระหว่างประเทศ แค่ส่งตัวแทนมาแจงอ้อมแอ้ม ส่ออุ้มพวกเดียวกัน หลังลงโทษตัดเงินเดือน 25% ไม่คุ้มความเสียหายที่เกิดขึ้น เดินหน้ายื่น ป.ป.ช.เล่นงาน ขู่ กม.ให้อำนาจ กมธ.คลอด การบินไทยเจอดีแน่
วันนี้ (28 เม.ย.) ที่รัฐสภา นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ตนได้เชิญกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ดีดีการบินไทย มาชี้แจงกรณีที่มีผู้ร้องเรียนว่าพนักงาน บมจ.การบินไทยมีพฤติกรรมส่อไปในทางทุจริตประพฤติมิชอบต่อหน้าที่ จากการตั้งคณะกรรมการสอบสวนพนักงานการบินไทย ระดับผู้อำนายการสำนัก กระทำการขัดระเบียบข้อบังคับโดยมีพฤติกรรมอัปเกรดตั๋วโดยสารสายการบินระหว่างประเทศที่ส่อไปในทางทุจริต โดยผลสอบระบุว่าผู้กระทำความผิดผิดทุกข้อกล่าวหา โดยมีข้อกล่าวหาว่า ผู้กระทำความผิดทำการโทรเลขไปยังสนามบินปลายทางในต่างประเทศเพื่อแจ้งอัปเกรดตั๋วโดยสาร โดยอ้างเป็นคำสั่งของผู้ใหญ่ในการบินไทย ทั้งที่มีการแจ้งวอชเชอร์นัมเบอร์ และไม่แจ้ง รวมถึงแจ้งซ้ำกันหลายที่นั่ง โดยการดำเนินการดังกล่าวปรากฏว่าการบินไทยกลับไม่ได้ผลประโยชน์จากค่าอัพเกรดแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังมีการอัปเกรดที่นั่งให้ผู้โดยสารที่แลกตั๋วด้วยการสะสมไมล์ และตั๋วรางวัล ซึ่งระเบียบระบุที่ไม่มีสิทธิ์อัปเกรดถึง 7 ครั้ง โดยมีการใช้รหัสล็อกอินแจ้งโทรเลขของพนักงานคนอื่นเข้าไปดำนินการ
นายวิลาศกล่าวว่า ในการสอบสวนนั้นตนได้เชิญดีดีการบินไทยมาชี้แจงถึง 3 ครั้ง แต่กลับมอบหมายให้บุคคลอื่นมาชี้แจงแทนตลอด อาทิ ผอ.ฝ่ายทรัพยากรบุคคล ประธานกรรมการสอบ ซึ่งก็ชี้แจงไม่ชัดเจน เหมือนช่วยปกปิดผู้กระทำผิด ซ้ำยังชี้แจงข้อความอันเป็นเท็จ และยังไม่ยอมมอบเอกสารให้กรรมาธิการอ้างว่าอยู่ระหว่างการอุทธรณ์ นอกจากนี้ พบว่ากรรมการสอบยังมีพฤติกรรมที่ส่อไปในทางช่วยเหลือผู้กระทำความผิด ด้วยการลงโทษเพียงการตัดเงินเดือน 25 เปอร์เซ็นต์เป็นเวลา 3 เดือน ซึ่งไม่คุ้มค่ากับความเสียหายที่การบินไทยเสียไป และเงินเดือนที่ตัดนั้นคิดเป็นเงินเท่าไร เมื่อเทียบกับค่าเสียหายตลอดช่วงที่ผู้กระทำความผิดดำเนินการอัพเกรดตั๋วในช่วงระยะเวลา 4 เดือน ซึ่งตามหนังสือที่มีผู้ร้องเรียนมายังกรรมาธิการระบุค่าเสียหายในช่วง 4 เดือนไว้ถึง 1 ล้านบาท และเหตุใดจึงไม่มีการเอาผิดทางอาญาต่อ และทราบมาว่าผู้อำนวยการสำนักคนดังกล่าวมีเส้นสายพอสมควร และเมื่อผลสอบของกรรมการสอบออกมาก็มีการวิ่งเต้นกันไปถึงระดับดีดีการบินไทย
“แม้จะไม่ได้รับความร่วมมือ แต่มั่นใจว่าลำพังเท่าที่สอบมานี้จะสามารถยื่นเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการสอบสวนได้ และเชื่อว่าหากร่าง พ.ร.บ.คำสั่งเรียกของกรรมาธิการ สภาฯ และวุฒิสภา มีผลบังคับใช้ การบินไทยจะต้องเป็นหน่วยงานแรกที่ต้องถูกกฎหมายนี้บังคับใช้” นายวิลาศกล่าว