xs
xsm
sm
md
lg

แดงม็อบเดือนละหน "ตู่"อยากทัวร์เขาใหญ่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTV ผู้จัดการรายวัน - เสื้อแดงแน่น ทำจราจรป่วนหนักตั้งแต่ราชประสงค์ยันราชดำเนิน ไม่รู้โดนอะไรเข้า “ตู่” ลดชุมนุมเหลือเดือนละหน โถ! อยากเปลี่ยนบรรยากาศไปปราศรัยราชมังคลา-เขาใหญ่ ขณะที่ “ธิดาแดง” โร่ฟ้องรอง ปธ.ศาลอาญาโลก หวังประจานรัฐบาลเครือข่ายคนไทยฯนัดถก 24 ม.ค.กำหนดท่าทีร่วมพันธมิตร

วานนี้ (23 ม.ค.) บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เป็นไปอย่างคึกคักตั้งแต่ช่วงสาย ซึ่งมีการนัดหมายรวมตัวที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ โดยมีประชาชนทยอยมาร่วมชุมนุมจนทำให้ต้องปิดการจราจรตั้งแต่แยกราชประสงค์ไปจนถึงแยกประตูน้ำ จำนวน 3 ช่องทาง ทั้งที่เจ้าหน้าที่ได้นำรั้วเหล็กมาวางตามแนวทางเดินทางป้องกันไม่ให้ผู้ชุมนุมลงมาบนพื้นผิวการจราจรแล้วก็ตาม ทำให้รถยนต์ส่วนใหญ่ไม่สามารถเคลื่อนตัวผ่านไปได้ เพราะเหลือการจราจรเพียง 1 ช่องทาง ในส่วนของห้างสรรพสินค้าที่ตั้งอยู่บริเวณแยกราชประสงค์ยังคงเปิดการให้บริการตามปกติ จากนั้นเวลาประมาณ 14.00น. กลุ่ม นปช.ได้เริ่มเคลื่อนขบวนไปตาม ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ เพื่อเข้าไปทาง ถ.หลานหลวง มุ่งหน้าสู่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยต่อไป

** “ตู่” สำนึกลดชุมนุมเดือนละหน

รายงานข่าวแจ้งว่า กลุ่มผู้ชุมนุมได้ทยอยเดินทางถึง ถ.ราชดำเนิน ตั้งแต่เวลาประมาณ 15.00 น. โดยปักหลักชุมนุมบนพื้นผิวจราจร ทำให้ต้องปิดการจราจรตลอดเส้นทางตั้งแต่บริเวณแยกคอกวัวจนถึงบริเวณใกล้สะพานมัฆวานรังสรรค์ โดยทางตำรวจได้ใช้กำลังเจ้าหน้าที่ 7 กองร้อยดูแลความเรียบร้อยในพื้นที่ ขณะที่บรรยากาศการชุมนุมมีการปราศรัยจากบรรดาแกนนำ รวมทั้งภรรยาของแกนนำเสื้อแดงที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ สลับกับการร้องรำทำเพลงอย่างต่อเนื่อง

ด้าน นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. กล่าวว่า พอใจภาพรวมการชุมนุมที่ไม่กระทบกับประชาชน เพราะมีการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ และผู้ประกอบการที่ราชประสงค์ไว้ก่อน ทั้งนี้จะยุติการชุมนุมในเวลา 24.00 น. โดยกลุ่ม นปช.จะปรับรูปแบบการชุมนุม โดยเปลี่ยนมาชุมนุมเดือนละ 1 ครั้ง เพราะไม่ต้องการให้ประชาชนเดือดร้อน โดยจะชุมนุมครั้งต่อไปในวันที่ 13 ก.พ. แต่ยังไม่กำหนดสถานที่

นายจตุพรกล่าวว่า มีแผนที่จะมีการเปิดปราศรัยพิเศษที่ราชมังคลากีฬาสถาน และหากกระทรวงการท่องเที่ยวฯอนุญาต ตลอดจนมีแผนจัดการชุมนุมที่โบนันซ่า เขาใหญ่ด้วย

อนึ่งจนถึงเวลา 21.30 ยังไม่มีการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตามที่มีกระแสข่าวก่อนหน้านี้แต่อย่างใด

** “มาร์ค” ลั่นไม่ยอมให้ปิดทำเนียบ

ขณะที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มต่างๆว่า ต้องช่วยกันดูแล เพราะจริงๆแล้ว เวลาที่เราให้เจ้าหน้าที่ไปพุดคุยกับผู้ชุมนุมก็เพื่อประโยชน์ในเรื่องนี้ ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของรัฐบาลหรือใคร แต่เราต้องดูแลทั้งสาธารณะ คือพี่น้องประชาชนทั่วไปที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมและเราต้องดูแลด้วยว่าการชุมนุมไม่ตกเป็นเหยื่อของมือที่ 3 หรือผู้ใช้ความรุนแรง ตนจึงพยายามย้ำว่าขอให้ผู้ชุมนุมกรุณาให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ และตนไม่พยายามเอาฝ่ายการเมืองเข้าไปยุ่งกับการเจรจาเกี่ยวกับการชุมนุม

เมื่อถามว่าจากการข่าวมีรายงานเรื่องมือที่ 3 หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ไม่มี เมื่อถามว่า บริเวณด้านหน้าทำเนียบรัฐบาลถูกปิดบางส่วน หากเพิ่มการชุมนุมบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ จะกลายเป็นทำเนียบรัฐบาลถูกปิดล้อมอีกครั้งหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราพยายามเจรจาขอให้เปิดเพิ่มขึ้นตลอดเวลา และเราคงไม่ยอมให้กลับไปสู่สภาพเดิม

** แกนนำโร่ฟ้อง ปธ.ศาลอาญาโลก

ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลาประมาณ 12.30 น. ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่น แกนนำ นปช.นำโดยนางธิดา ถาวรเศรษฐ์ รักษาการประธาน นปช. และนายจตุพร พรหมพันธุ์ เข้าพบ นายฮันส์ ปีเตอร์ เคาท์ รองประธานศาลอาญาระหว่างประเทศ (International Criminal Court หรือ ICC) เป็นเวลาประมาณ 30 นาที โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าบันทึกภาพ นางธิดาเปิดเผยภายหลังการเข้าพบว่า ได้แลกเปลี่ยนความเห็นเรื่องสิทธิมนุษยชน รวมไปถึงเรื่องทั่วๆไป แต่องค์กร ICC ถือว่าเป็นผู้พิพากษา จึงไม่สามารถพูดอะไรได้มากนัก ส่วนกรณีการยื่นเรื่องให้ตรวจสอบการสลายการชุมนุมนั้นได้มอบหมายให้ทีมทนายความไปดำเนินการ นอกจากจะยื่นเรื่องให้กับศาลอาญาระหว่างประเทศแล้ว จะยื่นให้ศาลอื่นๆในระดับโลกอีกด้วย โดยต้องการสื่อออกไปทั่วโลกว่าประเทศไทยมีปัญหาเรื่องสิทธิมนุษยชน

ขณะที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ กล่าวถึงกรณีที่แกนนำคนเสื้อแดงได้พบกับรองประธานศาลอาญาระหว่างประเทศ และยื่นหนังสือฟ้องร้องว่ารัฐบาลปราบปรามประชาชนจนมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากว่า ไม่มีอะไรน่ากังวล รัฐบาลพร้อมชี้แจงตามข้อเท็จจริงไม่ว่าจะเป็นศาลใด ส่วนกรณีการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯและกลุ่ม 24 มิถุนาฯในวันที่ 25 ม.ค. นั้น ตนได้หารือกับฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และเตรียมแผนรองรับสถานการณ์แล้ว ทุกฝ่ายไม่ต้องกังวล รวมทั้งไม่ควรคาดการณ์ในทางที่ร้าย หากทุกฝ่ายทำตามกฎหมายและไม่ฝ่าฝืน บ้านเมืองจะสงบ

ทั้งนี้ นายฮันส์ ปีเตอร์ เคาท์ รองประธานศาลอาญาระหว่างประเทศ ได้เดินทางมาเป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนาและปาฐกถาพิเศษเรื่อง "สิทธิมนุษยชนและศาลอาญาระหว่างประเทศ " ซึ่งจัดโดยศูนย์ความเป็นเลิศด้านนโยบายสาธารณะและธรรมาภิบาลเยอรมัน-อุษาคเนย์ และคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ด้วยความร่วมมือกับสถานเอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ระหว่างวันที่ 21-23 ม.ค. ณ โรงแรมโฟร์ซีซั่น

** เครือข่ายคนไทยฯนัด24ม.ค.ถกท่าที

นายทศพล แก้วทิมา กรรมการผู้รับใช้เครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ เปิดเผยว่า ได้นัดประชุมใหญ่กรรมการเครือข่ายฯ กว่า 70 คน ในเวลา 09.00 น. วันที่ 24ม.ค. เพื่อกำหนดท่าทีการเคลื่อนไหว และจะมีการขออนุมัติจากที่ประชุมในการยกระดับการเคลื่อนไหวใหญ่ขับไล่รัฐบาล หากรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ไม่แสดงความสำนึกผิดและขอโทษต่อคนไทยทั้งประเทศ กรณีที่รัฐบาลเดินเกมผิดและเพลี่ยงพล้ำในการให้ความช่วยเหลือ 7 คนไทย ส่วนการเคลื่อนไหวในวันที่ 25 ม.ค. คาดว่าจะมีมวลชนเดินทางเข้ามาร่วมชุมนุมจำนวนมากบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์

ด้าน นายเฉวียน กาญจนสุนทร ที่ปรึกษากลุ่มพันธมิตรฯ จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า แนวร่วมพันธมิตรฯ จ.ปราจีนบุรีได้มีการประชุมเพื่อเตรียมการร่วมชุมนุมพร้อมกับแนวร่วมพันธมิตรฯจังหวัดอื่นๆ ที่จะมาร่วมชุมนุม ในวันที่ 25 ม.ค.นี้ด้วย โดยกลุ่มพันธมิตรฯ จ.ปราจีนบุรี จะกระจายไปตามความพร้อมของแต่ละพื้นที่ ส่วนการชุมนุมทางการเมืองครั้งนี้ คาดว่าจะชุมนุมยาวนานอีกครั้งหนึ่งในการต่อสู้ของกลุ่มพันธมิตรฯ

** “วิเชียร” สั่งคุมเข้มทำเนียบ-สภา

พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงมาตรการรับมือผู้ชุมนุมกลุ่ม นปช.ว่า ตำรวจต้องเป็นกลไกรักษาความสงบเรียบร้อยอย่างตรงไปตรงมา และใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ ตนได้เรียกเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมวางแผนรับมือกลุ่ม นปช. โดยได้สั่งการให้วางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจรักษาความปลอดภัยตลอดเส้นทางตั้งแต่แยกราชประสงค์ถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย พร้อมป้องกันไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกับกลุ่มเครือข่ายคนไทยฯ ที่ชุมนุมกันอยู่ข้างทำเนียบรัฐบาล ส่วนในวันที่ 25 ม.ค.ที่จะมีการประชุมร่วมรัฐสภา ซึ่งอาจมีการชุมนุมปิดล้อมรัฐสภาและทำเนียบรัฐบาลนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจะใช้กำลังดูแลเฝ้าระวังอย่างเต็มที่ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงบานปลายขึ้น.
กำลังโหลดความคิดเห็น