“เทือก” สั่ง บช.น.เจรจาเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ ให้ชุมนุมในกรอบกฎหมาย เลิกปิดถนนข้างทำเนียบฯ ย้ำยื่นถวายฎีกาไม่บังควร ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท เชื่อช่วยเหลือ 7 คนไทยสัปดาห์นี้คืบหน้าแน่ ไม่สนเสื้อแดงจับมือเครือข่ายคนไทยฯ ยันไม่หาทำเนียบฯ สำรอง
วันนี้ (17 ม.ค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงการปิดถนนพิษณุโลก ข้างทำเนียบรัฐบาล ของเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติเพื่อขับไล่รัฐบาลทำให้เกิดปัญหาการเจรจาติดขัดว่า ต้องขอความกรุณาผู้ชุมนุมว่าจะต้องไม่ชุมนุมในลักษณะที่เป็นการปิดถนน เพราะจะทำให้เกิดความเดือดร้อนกับประชาชน และเป็นการชุมนุมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะทำให้ประชาชนไม่สามารถใช้ชีวิตอย่างปกติสุขได้ ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.)ไปเจรจาพูดคุยเพื่อให้การชุมนุมอยู่ในกรอบ และขอบเขตของกฎหมายแล้ว
ส่วนที่กลุ่มผู้ชุมนุมอ้างเหตุผลความปลอดภัยของผู้ชุมนุมจึงจำเป็นต้องปิดถนนยอมนั้น นายสุเทพกล่าวว่า ต้องให้เจ้าหน้าที่ไปดูแลตามความเป็นจริง ต่อข้อถามว่านอกจากการเจรจาแล้วรัฐบาลไม่มีมาตรการที่จะจัดการหรือ นายสุเทพกล่าวว่า เราทำกันในลักษณะที่พยายามให้เกิดความเข้าใจ มีความสำนึกที่จะปฏิบัติตามกฎหมาย ซึ่งต้องให้เจ้าหน้าที่ไปดำเนินการ
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มผู้ชุมนุมจากสำนักสันติอโศก ซึ่งศาลได้ตัดสินแล้วว่ามีความผิดข้อหาแต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์ และการชุมนุมปิดถนนไม่มีเหตุผลเพียงพอ รัฐบาลจะดำเนินการอย่างไร นายสุเทพกล่าวว่า รัฐบาลคงจะไปแก้ประวัติศาสตร์ไม่ได้ ประวัติศาสตร์เป็นอย่างไรก็ว่ากันไป แต่รัฐบาลดูในสภาพปัจจุบัน กลุ่มผู้ชุมนุมจะดำเนินการอะไรก็ต้องอยู่ในกรอบของกฎหมาย รัฐบาลมีหน้าที่ดูแลรักษากฎหมาย
ส่วนกรณีที่เครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ จะยื่นถวายฎีกาเพื่อขับไล่รัฐบาลในวัน ที่ 18 ม.ค.นี้นั้น นายสุเทพกล่าวว่า เกิดมาเป็นคนไทยต้องสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และต้องตระหนักว่าคนไทยทั้งประเทศไม่ประสงค์ที่จะให้มีอะไรที่เป็นการระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท เพราะฉะนั้นการที่จะไปดำเนินการอะไรขอให้คิดถึงหัวใจของคนส่วนใหญ่ทั้งประเทศนี้ด้วย
เมื่อถามว่าจะทำอย่างไรในการหาทางออกกับปัญหาเหล่านี้ นายสุเทพกล่าวว่า ตนได้บอกหลายครั้งแล้วว่ากรณีที่มีปัญหากับประเทศเพื่อนบ้านไม่มีวิธีการใดที่จะดีกว่าการพูดคุยเจรจากัน ซึ่งเราต้องอดทนและใจเย็น การที่ทำให้ปัญหาลุกลามบานปลายออกไปนั้นไม่เป็นประโยชน์กับประเทศไทย และประเทศเพื่อนบ้าน เพราะเรามีที่ตั้งติดกันจะอพยพหลบหนีกันไปก็ไม่ได้ ดังนั้นต้องอยู่ด้วยกันด้วยความเข้าใจ หากใช้วิธีการอื่นรังแต่จะทำให้เกิดความเสียหาย จึงต้องพูดคุยกันทุกเวที และคิดว่าในสัปดาห์นี้คงจะมีความคืบหน้ามากขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามถึงความคืบหน้าในการช่วยเหลือ 7 คนไทยที่ถูกทางการกัมพูชาจับกุมตัวที่ระบุว่ามีสัญญาณที่ดีที่คนไทยที่เหลือจะได้รับการประกันตัวใช่หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ตนขอพูดในภาพรวมดีกว่า ส่วนรายละเอียดเป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ และส่วนตัวคิดว่าทุกอย่างน่าจะดีขึ้น เมื่อถามว่าสื่อมวลชนกัมพูชาระบุศาลอาจจะตัดสินคดีนี้ในช่วงวันที่ 27-28 ม.ค.นี้ นายสุเทพกล่าวว่า ในส่วนของรัฐบาลไม่ได้มีการคาดการณ์อะไร รอดูกระบวนการยุติธรรมกัมพูชาว่าจะดำเนินการเป็นอย่างไร หลังจากนั้นเราก็จะปูทางในการเตรียมการแก้ไขปัญหาต่อไป ส่วนจะเป็นอย่างไรขอให้รอคำพิพากษามาก่อน
ต่อข้อถามว่ามองปรากฏการณ์ที่คนเสื้อแดงไปให้กำลัง และขึ้นเวทีของเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติอย่างไร นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ทราบว่าคนอื่นมองและคิดอย่างไรกับเรื่องนี้ เมื่อถามว่า กลัวว่ากลุ่มคนเสื้อแดงจะแตะมือกับคนเสื้อเหลือง และจะส่งผลเป็นแรงกดดันอย่างใดอย่างหนึ่งต่อรัฐบาลหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ตนพยายามมองด้วยความเข้าใจและไม่มีอะไรที่ต้องกังวลใจ ทั้งนี้รัฐบาลถูกกดดันมาตลอด แต่เราก็ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ยึดถือประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชนเป็นที่ตั้ง ไม่สามารถทำตามสิ่งที่คนอื่นกดดันได้ แต่ไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลปิดกั้นไม่รับฟังใคร แต่รัฐบาลนี้ฟังทุกฝ่าย แต่กับเรื่องแรงกดดันหรือความกดดันอื่นๆ นั้น รัฐบาลต้องอดทน
ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นห่วงหรือไม่ว่ากลุ่มผุ้ชุมนุมจะอาศัยสถานการณ์นี้ชุมนุมยืดเยื้อจนถึงวันที่ 25 ม.ค.ที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) นัดชุมนุมใหญ่ นายสุเทพกล่าวว่า ที่จริงเราก็รู้กันมาตลอดว่าสิ่งที่เขาพูดคุยกันเราก็พอเข้าใจ ซึ่งรัฐบาลคงจะป้องกันคนมาชุมนุมได้ยาก เมื่อถามว่า รัฐบาลได้เตรียมหาทำเนียบรัฐบาลสำรองหรือไม่ หากการชุมนุมยืดเยื้อ นายสุเทพกล่าวว่า เปล่า อยู่ที่นี่แหละ และไม่ทราบว่าผู้ชุมนุมจะมาเยอะหรือมาน้อยแต่เชื่อว่าประชาชนคนไทยไม่ต้องการเห็นความวุ่นวายใดๆ เกิดขึ้นในบ้านเมือง