xs
xsm
sm
md
lg

มาร์ค-สุเทพ บ้อท่า!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

00 คำพูดของ พล.ท.กนก เนตระคะเวสะนะ อดีต ผบ.กองกำลังสุรนารี ปัจจุบันเป็นผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก กังขาว่าทำไมคนในรัฐบาลถึงไปด่วนยอมรับว่าคนไทยทั้ง 7 คน ล้ำแดนเขมร ทั้งที่ยังไม่มีการปักปันเขตแดน ทำให้ต่อไปไทยจะต้องเสียเปรียบ เพราะเขมรยึดเอาเรื่องดังกล่าวเป็นข้ออ้างอย่างเป็นทางการต่อไป ก็ให้จำบุคคลต่อไปนี้เอาไว้ในบัญชีก็แล้วกัน ไม่ว่าจะเป็น นายกฯ อภิสิทธิ์-สุเทพ-ประวิตร-กษิต ภิรมย์ คนพวกนี้เป็นกลุ่มแรก ที่ด่วนสรุปทันทีว่า พื้นที่ที่คนไทยถูกจับไปนั้นเป็นเขตแดนเขมร โดยเฉพาะสุเทพ ถึงกับปากพล่อย บอกว่าดูจาก “คลิป” แล้วล้ำเข้าไปถึง 1.2 กิโลเมตร งานนี้จะว่าโง่พาซื่อ ก็ไม่น่าจะใช่ หากดูจากประวัติถือว่า “เหลี่ยมจัด” พอตัว ดังนั้นถ้าไม่ใช่มันก็ต้องมีเรื่อง “ผลประโยชน์” หรือมีเป้าหมาย “ซ่อนเร้น” อะไรสักอย่าง ใช่หรือไม่
00 น่าอดสูไปกว่านั้นก็คือ เวลานี้ทางฝั่งกัมพูชาได้มีการปักป้าย ประณามทหารไทยและคนไทยว่า “รุกล้ำ” เขตแดน หน้าตาเฉย โดยป้ายดังกล่าวปักไว้ที่บริเวณ “วัดแก้วสิขาคีรีสวารา” ทั้งที่ยังเป็นพื้นที่ของไทย หรืออย่างมากเป็นพื้นที่พิพาท เป็นพื้นที่โดยรอบปราสาทพระวิหาร 4.6 ตารางกิโลเมตร ที่น่าเจ็บปวดไปกว่าก็คือ ในพื้นที่บริเวณนั้นเคยมีทหารไทยตรึงกำลังเอาไว้ และเพิ่งมีการสั่งถอนกำลังออกมาเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ปีที่แล้ว ซึ่งเคยเป็นข่าวจากสื่อกัมพูชา แต่เมื่อมาถามนายกฯอภิสิทธิ์ และผู้นำกองทัพก็ปฏิเสธข่าวดังกล่าว พุดแบบโยกโย้ เล่นคำ จนเวียนหัว หรืออย่างมากก็บอกว่าเป็นการ “ปรับกำลัง” อ้างสารพัด พอเห็นของจริงอย่างนี้มันหมายความว่าอย่างไร และการสั่งให้เขาถอนป้ายดังกล่าวนั้น ฝันไปเถอะ !!
00 ฟังจากท่าทีล่าสุดของ นายกฯ อภิสิทธิ์ ยังคงยืนกรานว่า ไม่ยกเลิกเอ็มโอยู 43 แน่นอน อ้างว่ามีประโยชน์ทั้งต่อการสำรวจเขตแดน และทำให้กัมพูชาอ้างแผนที่ 1 ต่อ 2 แสนไม่ได้ พร้อมทั้งยืนยันว่า ที่ผ่านมาได้ใช้โอกาสทุกครั้งในการโน้มน้าวประเทศที่มีตัวแทนในมรดกโลกให้เห็นคล้อยตามในเรื่องการคัดค้านการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารของกัมพูชาเพียงฝ่ายเดียวมาตลอด เชื่อว่ามีหลายประเทศเริ่มเข้าใจ สรุปก็คือ ทุกคำพูดมีแต่ความเชื่อของตัวเองว่าทำถูกต้อง ไม่ผิด ขณะเดียวกันก็ให้คนอื่นเชื่อตามด้วย ซึ่งความหมายอีกอย่างก็คือ “ดื้อตาใส” นั่นแหละ !!
00 แม้ว่าจะแก้ตัวกันอย่างไรก็ตาม สำหรับสถานการณ์ชายแดนใต้ในเวลานี้ถือว่าตรงข้ามกับ “การโม้” รายวัน ของคนในรัฐบาลก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง ประเภทที่นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ บอกว่า ดีขึ้น และกำลังยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินเพิ่มอีกหลายพื้นที่ หรือล่าสุด รองนายกฯสุเทพ เทือกสุบรรณ ก็เพิ่งไปคุยฟุ้งกับพี่น้องชาวบ้านที่ปัตตานี แต่พอคล้อยหลังไม่นาน ก็เกิดเหตุปล้น-ฆ่าทหารที่ฐานปฏิบัติ ของหน่วย ฉก.นราธิวาส 38 และเกิดเหตุร้ายรายวัน โหมหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ
00 ข้ออ้างที่บอกว่าเป็นการแสดงศักยภาพเพื่อโชว์ให้ที่ประชุมประเทศมุสลิมโลก(โอไอซี) ที่จะมีขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ถ้าฟังดูเผินๆ มันก็น่าจะใช่ แต่มองอีกด้านหนึ่งมันก็เกิดคำถามขึ้นมาว่าทำไมไม่หาทางป้องกัน หรือเข้าไปเด็ดหัวโจรพวกนั้นก่อนที่มันจะก่อเหตุล่ะ เข้าตำราอ้างแก้ตัวไปเรื่อย เพื่อกลบเกลื่อนความล้มเหลว หรือใช้น้ำลายแก้ปัญหาไปวัน ๆ
00 ปัญหาชายแดนใต้เที่ยวนี้ ถ้ายังทำให้ความรุนแรงเบาบางลงไม่ได้ มันก็สะท้อนให้เห็นถึงความบ้อท่าอย่างชัดเจน ทั้งฝ่ายรัฐบาล ความมั่นคง และกองทัพ เพราะถือว่าได้ทุ่มเทงบประมาณ กำลังคน เครื่องมืออุปกรณ์อย่างเต็มที่ลงไป นับว่าพร้อมสรรพที่สุดแล้ว โดยเฉพาะรัฐบาลประชาธิปัตย์ ที่นึกว่าเข้าใจพื้นที่มากพอสมควร ผู้นำกองทัพ เช่น ผบ.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แม้ว่าจะเพิ่งเข้ามา แต่ที่ผ่านมาถือว่าได้ทำงานมาอย่างต่อเนื่อง เมื่อไม่ดีขึ้นมันก็ต้องรับผิดชอบ เลี่ยงไม่ได้
00 สำหรับคนอย่าง สุเทพ และ รมว.กลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ทำงานด้านความมั่นคงมากว่า 2 ปี กลับไม่อาจสร้างความหวังอะไรได้เลย แต่ถ้าถามว่าหากเป็นเรื่อง “ทำลายความมั่นคง” แล้วละก็ ทั้งคู่นี่แหละใช่เลย และเป็นครั้งแรกๆ เช่นเดียวกัน ที่เห็นคล้อยตามกับข้อเรียกร้องของพรรคเพื่อไทย ที่ให้ทั้งคู่ลาออก อยู่ไปก็น่ารำคาญไปเปล่าๆ !!
มาร์ค-สุเทพ บ้อท่า!!
มาร์ค-สุเทพ บ้อท่า!!
คำพูดของ พล.ท.กนก เนตระคะเวสะนะ อดีต ผบ.กองกำลังสุรนารี ปัจจุบันเป็นผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก ที่กังขาว่าทำไมคนในรัฐบาลถึงไปด่วนยอมรับว่า คนไทยทั้ง 7 คนล้ำแดนเขมร ทั้งที่ยังไม่มีการปักปันเขตแดน ทำให้ต่อไปไทยจะต้องเสียเปรียบ เพราะเขมรยึดเอาเรื่องดังกล่าวเป็นข้ออ้างอย่างเป็นทางการต่อไป ก็ให้คำบุคคลต่อไปนี้เอาไว้ในบัญชีก็แล้วกัน ไม่ว่าจะเป็น นายกฯ อภิสิทธิ์-สุเทพ-ประวิตร-กษิต ภิรมย์ คนพวกนี้เป็นกลุ่มแรกที่ด่วนสรุปทันทีว่าพื้นที่ที่คนไทยถูกจับไปนั้นเป็นเขตแดนเขมร โดยเฉพาะ สุเทพ ถึงกับปากพล่อยบอกว่าดูจาก “คลิป” แล้วล้ำเข้าไปถึง 1.2 กิโลเมตร งานนี้จะว่าโง่พาซื่อก็ไม่น่าจะใช่หากดูจากประวัติถือว่า “เหลี่ยมจัด” พอตัว ดังนั้นถ้าไม่ใช่มันก็ต้องมีเรื่อง “ผลประโยชน์” หรือมีเป้าหมาย “ซ่อนเร้น” อะไรสักอย่างใช่หรือไม่
กำลังโหลดความคิดเห็น