ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่านายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภาได้มีคำสั่งนัดประชุมร่วมรัฐสภา ครั้งที่ 1 ( สมัยสามัญทั่วไป ) ในวันที่ 25 ม.ค. เวลา 09.30 น. เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2 ฉบับ ได้แก่ 1. ร่าง รัฐธรรมนูญแห่งราอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่...) พ.ศ.... (มาตรา 190 ) และ 2. ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่...) พ.ศ.... (มาตรา 93-98 )
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องที่ประธานรัฐสภา จะแจ้งให้ที่ประชุมทราบคือ อนุญาตให้คณะกรรมาธิการศึกษาบันทึกการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย – กัมพูชา รวม 3 ฉบับ ขยายเวลาการพิจารณาศึกษาเรื่องดังกล่าวออกไปอีก 90 วัน
ขณะเดียวกันยังมีเรื่องด่วนที่ค้างวาระการพิจารณา 7 เรื่อง อาทิ กรอบการเจรจาความตกลงเขตการค้าเสรีไทย-อินเดีย บันทึกการประชุมคณะกรรมการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อยตามชายแดนทั่วไปไทย- ลาว ครั้งที่ 18 เป็นต้น
**"เทือก"ทำมึนไม่รู้ใครขู่ยุบสภา
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มีหลายสูตร และมีสมาชิกพรรคปชป.ออกมาข่มขู่พรรคร่วม หากไม่เห็นไปในแนวทางเดียวกับปชป. ก็ขู่จะยุบสภาว่า ตนยังไม่เห็นตัวของคนที่ออกมาขู่อย่างนี้ ทั้งนี้ เห็นว่าใครก็ตามที่จะพูดจาให้เกิดวามเสียหาย ต้องระมัดระวัง ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ไม่ควรทำให้สถานการณ์ทางการเมืองมันตึงเครียด ไม่ต้องทำให้ประชาชนเขาไม่สบายใจ โดยไม่จำเป็น
"ทั้งนายกฯและผม ซึ่งมีหน้าที่ดูแลรัฐบาล ไม่เคยข่มขู่ใคร และจะไม่ทำอย่างเด็ดขาด เราเข้าใจดีว่า ในสถานการณ์อย่างนี้ ความสมัครสมานสามัคคี ความเข้าใจระหว่างกัน มีความหมาย มีความสำคัญที่สุด โดยเฉพาะในพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน มีอะไรก็ใช้วิธีปรึกษาหารือกัน ค่อย ๆคิด ค่อย ๆ หารือ ทำอย่างนี้มาโดยตลอด" นายสุเทพกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าในที่ประชุมพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา นายกฯได้กางปฏิทินการเมืองแล้วว่าจะยุบสภาประมาณเดือนก.ค. และจะรักษาการไปจนถึงประมาณ ส.ค. นายสุเทพ กล่าวว่า อย่าไปเชื่อข่าวลือ สิ่งที่นายกฯได้ประกาศให้ประชาชนได้รู้กันหมดก็คือ จะมีการเลือกตั้งในปีนี้แน่นอน เพียงแต่ต้องให้ปัจจัยสำคัญ 3 ประการคลี่คลายไปก่อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจซึ่งรัฐบาลก็ทำได้แล้ว เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งอีกไม่กี่วันนี้ก็น่าจะผ่านไปได้ ด้วยความราบรื่น และเรื่องการเมือง ถ้าการเมืองไม่วุ่นวาย ไม่มีการออกมาอาละวาดกันก็สามารถเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งได้
เมื่อถามกรณีที่พรรคมีมติให้นายสุเทพ ไปพูดคุยกับแกนนำพรรคร่วม ให้เห็นด้วยกับสูตร 375+125 ไม่เช่นนั้น การแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ต้องคว่ำไป แล้วกลับไปใช้ 400+ 80 แบบพวงใหญ่ นายสุเทพ กล่าวว่า อย่าไปตีความกันเอง คิดเอาเองแล้วบอกว่านายกฯ หรือตนคิดอย่างนั้น ซึ่งการประสานกับพรรคร่วมรัฐบาล นายกฯ ไม่ต้องเรียกตนไปสั่งเป็นรายครั้ง เพราะมันเป็นหน้าที่ของตนอยู่แล้วในฐานะเป็นผู้จัดการรัฐบาล เพียงแต่ต้องดูว่าเมื่อไหร่สมควร เมื่อไหร่เหมาะสม เมื่อถามว่าจนถึงขณะนี้ได้มีโอกาสพูดคุยกับแกนนำพรรคร่วมตัวจริงบ้างหรือยัง รองนายกฯ กล่าวว่า ยังไม่มีการพูดคุยกันแต่พรุ่งนี้ หรือมะรืนนี้ตนก็เห็นว่าสมควรแก่เวลาที่ตนจะได้ไปพูดคุยกันแล้ว
** มีทั้งคนเห็นด้วย-ไม่เห็นด้วยกับ"ชวน"
เมื่อถามถึงกรณีนายชวน หลีกภัย บอกว่าที่แก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้ เพราะทั้งนายกฯ และนายสุเทพ ไปรับปากกับพรรคร่วมรัฐบาลไว้ นายสุเทพ กล่าวว่า ควมจริงเรื่องรัฐธรรมนูญมีความเห็นที่หลากหลาย ในทุกพรรคก็มีความเห็นไม่เหมือนกัน
ดังนั้นอย่าไปกล่าวหากันว่า ใครทำเพื่อตัวเอง ใครทำเพื่อประเทศ เพราะมันมีหลายทฤษฎี แต่เราถูกสอนให้ใช้สมอง ใช้ความคิดของตัวเอง คิดให้ถูกต้อง ขณะเดียวกันก็ถูกสอนให้เคารพความคิดคนอื่นด้วย
"การที่คุณชวน อยากให้มีการแก้ไขทั้งฉบับนั้น ผมก็เคารพความคิดของคุณชวน เพราะท่านก็เป็นปรมาจารย์ทางการเมืองอยู่แล้ว ท่านพูดอะไรมา เราก็ต้องฟัง ซึ่งในพรรคประชาธิปัตย์ก็มีทั้งคนที่คิดเหมือนท่านชวน และคิดไม่เหมือน ก็แล้วแต่" รองนายกฯกล่าว
**"เติ้ง" ยืนกรานสูตร 400+100
นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวหลังการหารือร่วมกับพล.ต.สนั่น ขจรนประศาสน์ รองนายกฯ และนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล กรรมการที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มีจำนวนสูตรส.ส.ถึง 21 สูตร ว่า
"แหม ..ผมก็ไม่รู้ ชักปวดหัวแล้วนะเนี่ย มันเยอะแยะ สูตรอะไรบ้างก็ไม่รู้ เวลานี้สูตร 375+125 มี 400+100 มี 400+125 รู้เพียงเท่านี้ แล้วที่มีหลาย 10 สูตรไม่รู้มีสูตรอะไรบ้าง"
เมื่อถามว่าแล้ว 3 สูตร เป็นอย่างไรบ้าง นายบรรหาร กล่าวว่า ก็ดีหมดทุกสูตร และมีเหตุผลดีพอสมควร แต่สูตร 400+125 ต้องการออมชอม แต่เรายืนหยัดในสูตร 400+100 เท่านั้น ส่วนปชป.ที่ยืนยันสูตร 375+125 ก็เป็นเรื่องของปชป. ไม่ใช่เรื่องของรัฐบาล แต่ข้อยุติเป็นเรื่องของสภา
เมื่อถามว่าสูตร 400+100 จะได้รับเสียงสนับสนุนจาก ส.ส.และส.ว.ค่อนข้างเยอะ นายบรรหาร กล่าวว่า ยังไม่ทราบ ไม่ได้พูดกับใคร เมื่อมีมติเราก็ถือตามนั้น
เมื่อถามว่า ส.ส.จะมีการประชุมร่วมกันก่อนเปิดประชุมสภา นายบรรหาร กล่าวว่า เป็นเรื่องของสภาผู้แทนราษฏรเรียกประชุมกันก่อนเปิดสภา ส่วนจะประชุมเรื่องอะไร ไม่ทราบ เพราะไม่ได้รับเชิญ เขาเชิญหัวหน้าพรรค และสมาชิกพรรคเท่านั้นเอง
เมื่อถามว่ามีความเป็นไปได้ ที่จะได้รับเสียงตอบรับจากสมาชิกรัฐสภาในสูตร 400+100 หรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า ตอบไม่ได้ ไม่มีใครยืนยันว่าสูตรไหนจะชนะ ซึ่งตนคิดว่าที่ประชุมอาจจะให้ฟรีโหวตก็ได้ ไม่มีใครตอบได้ แต่คิดว่าดีทุกสูตร ไม่ว่าสูตรไหนออกมา ก็ดีทั้งนั้น
เมื่อถามว่าสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ระบุว่าหากไม่ได้ตามสูตร 375+125 จะยุบสภา นายบรรหาร กล่าวว่า "ใครพูด ถามหน่อย ไม่ใช่ผู้ใหญ่พูด ส.ส.พูดจะไปฟังทำไม ต้องให้ผู้ใหญ่พูด ถ้าผู้ใหญ่ในพรรคพูดมา ผมจะได้โต้กลับได้ แต่นี่ส.ส.พูด ผมให้นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา พูดดีกว่า ผมไม่พูดหรอก"
ผู้สื่อข่าวบอกว่า นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกฯ ก็พูดเหมือนกันว่า ถ้ามีปัญหามาก อาจจะยุบสภา นายบรรหาร กล่าวว่า "โน่น ต้องให้วัชระโต้ นายสาทิตย์ผมไม่โต้ แต่ถ้ามีผู้ใหญ่ในพรรค 1-2 คน พูดมาผมจะโต้ให้ดู" นายบรรหาร กล่าว
** "สุวัจน์"เชื่อสูตรส.ส.ไม่ทำให้แตกแยก
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ แกนนำพรรครวมชาติพัฒนา กล่าวว่า เรื่องแก้รธน. ไม่น่าจะนำมาซึ่งความขัดแย้งภายในพรรคร่วม และความขัดแย้งในสังคม ตอนนี้เป็นเพียงความเห็นในเรื่องของจำนวนตัวเลขที่ไม่ตรงกันเท่านั้น และคิดว่าไม่น่าจะเป็นเรื่องใหญ่ เพราะแต่ละสูตร ก็ไม่ได้แตกต่างไปจากเดิมมากนัก เคยใช้มาแล้วทั้งนั้น
อย่างไรก็ตาม การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องอยู่บนพื้นฐานที่ประชาชนส่วนใหญ่ให้การยอมรับ และไม่เป็นปัญหาจนนำไปสู่การยุบสภา ประกอบกับตอนนี้บ้านเมืองมีความขัดแย้งอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่ควรนำประเด็นนี้มาทำให้ประเทศแย่ลงไปอีก ประกอบกับถ้าเราได้กติกา หรือรัฐธรรมนูญที่มีความขัดแย้ง ถึงแม้จะมีการเลือกตั้งเรื่องทุกอย่างก็คงจะไม่จบ
เมื่อถามว่า นายสุเทพ ได้นัดพรรคร่วมหารือเรื่องนี้ พรรคร่วมชาติพัฒนามีจุดยืนอย่างไร นายสุวัจน์ กล่าวว่า ถ้ามองว่าใครได้เปรียบเสียเปรียบในเรื่องนี้ ก็จะได้ข้อยุติยาก เรื่องนี้ถือเป็นประเด็นรอง เราควรคิดถึงประเทศชาติเป็นหลัก และขณะนี้ก็มีรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว แต่ถ้ามีการแก้ไข ก็จะถูกนำมาใช้หลังการเลือกตั้ง ซึ่งการที่หลายฝ่ายออกมาเคลื่อนไหวในตอนนี้ ก็อาจทำให้บรรยากาศการเมืองไม่ดี แต่หลังการเลือกตั้งเชื่อว่าทุกอย่างจะดีขึ้น แต่ตอนนี้จะต้องมาคิดว่า จะทำอย่างไรให้คนยอมรับ
" หากรัฐธรรมนูญไม่ผ่าน ก็ถือว่าเป็นความรับผิดอบร่วมกัน ไม่น่าจะใช่ความผิดของนายกฯเพียงคนเดียว ส่วนการรวมพรรค จะชัดเจนหลักยุบสภา ตอนนี้ผมเชื่อว่า ทุกคนต่างเคานต์ดาวน์ รอการเลือกตั้งกันหมดแล้ว นักการเมืองก็เตรียมความพร้อมที่จะเลือกตั้ง ตามที่นายกรัฐมนตรีได้ประกาศไว้" นายสุวัจน์ กล่าว และว่าการเลือกตั้งในอนาคตจะนำไปสู่สิ่งที่ดีของประเทศ คลายอุณหภูมิความรุนแรงทางการเมืองให้เย็นลง เพราะทุกคนอยากให้มีการเลือกตั้ง
** ปชป.อ้างแค่วิเคราะห์ไม่ใช่ข่มขู่
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคร่วม
โวยว่า ปชป.ข่มขู่ ในเรื่องยุบสภาว่า น่าจะเป็นความเข้าใจผิดมากกว่า ที่ผ่านมาล้วนแต่เป็นการวิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมืองว่า ถ้าหากร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ผ่าน การเมืองจะเป็นไปในทิศทางใด และหากเสียงส่วนใหญ่ยอมรับสูตร 400+100 หลังจากนั้นจะเป็นอย่างไร ก็ถือว่าเป็นการวิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมืองทั้งสิ้น
"ยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่มีใครคิดข่มขู่พรรคร่วมรัฐบาล แม้จนถึงขณะนี้ หลังจากที่ได้พูดคุยกับนายกฯมาโดยตลอด เห็นว่านายกฯ ยังไม่ได้สั่งสัญญาณใดๆ ต่อการยุบสภา หรือเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ทุกคนในพรรคเชื่อมั่นว่า ปัญหาดังกล่าวสามารถหาข้อยุติได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการทำหน้าที่ผู้จัดการรัฐบาลของนายสุเทพ และถ้าดูการให้สัมภาษณ์ของนายสุเทพ ต่อเรื่องดังกล่าว เห็นได้ว่านายสุเทพ ค่อนข้างมั่นใจว่า สามารถทำความเข้าใจกับพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค ในการสนับสนุนร่างที่ ครม.เสนอ"
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีข่าวว่า มีการกำหนดเดือนที่จะยุบสภาแล้ว นายเทพไท กล่าวว่า เป็นการวิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมืองมากกว่า แต่ยังไม่มีใครรู้ว่าเมื่อไร ทุกอย่างนายกฯ เป็นผู้ตัดสินใจ ที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ ไม่มีการข่มขู่พรรคร่วมอย่างแน่นอน เพราะนายสุเทพ ประกาศชัดว่าหากยุบสภา จะปรึกษาพรรคร่วมก่อน
**อัด"มาร์ค"มองไม่เห็นหัวประชาชน
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึง พรรคประชาธิปัตย์ยืนกรานที่จะเอาสูตร 375+125 ถ้าไม่ได้ก็จะใช้ในแบบปัจจุบัน 400+80 พร้อมมีกระแสข่าวว่านายกฯ ระบุว่าจะยุบสภาปลายเดือน พ.ค. 54 ว่า คงเป็นเพียงแค่เกมการเมือง ข่มขู่พรรคร่วมรัฐบาล เพื่อให้เอาด้วยกับแนวทางของพรรคประชาธิปัตย์ที่ตั้งธงไว้ และตัวเองได้ประโยชน์
"ในการแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ ได้สอบถามประชาชนแล้วหรือยัง ว่าระบบ 375+125 ที่ลด ส.ส.เขต ที่ดูแลใกล้ชิดประชาชนลงไป 25 เขต เขาเห็นด้วยหรือไม่ ส่งผลกระทบต่อเขาหรือไม่ เพราะชาวบ้านในหลายพื้นที่มองว่า ส.ส.เหมือนคนใกล้ชิด ญาติสนิทที่ดูแลเขา ช่วยแก้ปัญหาต่างๆ วันดีคืนดีก็มาพรากเขาไป ในส่วนของการเพิ่ม ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อนั้น ไม่ได้ยึดโยงดูแลประชาชนเหมือน ส.ส.เขต และในส่วนนี้ก็จะการเปิดช่องให้กลุ่มทุน เข้ามาใช้อำนาจเงินผลักดันตัวเองเป็นผู้แทน จากนั้นก็จะเข้าไปถอนทุนครั้งมโหฬาร" นายพร้อมพงศ์ กล่าว
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องที่ประธานรัฐสภา จะแจ้งให้ที่ประชุมทราบคือ อนุญาตให้คณะกรรมาธิการศึกษาบันทึกการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย – กัมพูชา รวม 3 ฉบับ ขยายเวลาการพิจารณาศึกษาเรื่องดังกล่าวออกไปอีก 90 วัน
ขณะเดียวกันยังมีเรื่องด่วนที่ค้างวาระการพิจารณา 7 เรื่อง อาทิ กรอบการเจรจาความตกลงเขตการค้าเสรีไทย-อินเดีย บันทึกการประชุมคณะกรรมการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อยตามชายแดนทั่วไปไทย- ลาว ครั้งที่ 18 เป็นต้น
**"เทือก"ทำมึนไม่รู้ใครขู่ยุบสภา
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มีหลายสูตร และมีสมาชิกพรรคปชป.ออกมาข่มขู่พรรคร่วม หากไม่เห็นไปในแนวทางเดียวกับปชป. ก็ขู่จะยุบสภาว่า ตนยังไม่เห็นตัวของคนที่ออกมาขู่อย่างนี้ ทั้งนี้ เห็นว่าใครก็ตามที่จะพูดจาให้เกิดวามเสียหาย ต้องระมัดระวัง ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ไม่ควรทำให้สถานการณ์ทางการเมืองมันตึงเครียด ไม่ต้องทำให้ประชาชนเขาไม่สบายใจ โดยไม่จำเป็น
"ทั้งนายกฯและผม ซึ่งมีหน้าที่ดูแลรัฐบาล ไม่เคยข่มขู่ใคร และจะไม่ทำอย่างเด็ดขาด เราเข้าใจดีว่า ในสถานการณ์อย่างนี้ ความสมัครสมานสามัคคี ความเข้าใจระหว่างกัน มีความหมาย มีความสำคัญที่สุด โดยเฉพาะในพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน มีอะไรก็ใช้วิธีปรึกษาหารือกัน ค่อย ๆคิด ค่อย ๆ หารือ ทำอย่างนี้มาโดยตลอด" นายสุเทพกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าในที่ประชุมพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา นายกฯได้กางปฏิทินการเมืองแล้วว่าจะยุบสภาประมาณเดือนก.ค. และจะรักษาการไปจนถึงประมาณ ส.ค. นายสุเทพ กล่าวว่า อย่าไปเชื่อข่าวลือ สิ่งที่นายกฯได้ประกาศให้ประชาชนได้รู้กันหมดก็คือ จะมีการเลือกตั้งในปีนี้แน่นอน เพียงแต่ต้องให้ปัจจัยสำคัญ 3 ประการคลี่คลายไปก่อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจซึ่งรัฐบาลก็ทำได้แล้ว เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งอีกไม่กี่วันนี้ก็น่าจะผ่านไปได้ ด้วยความราบรื่น และเรื่องการเมือง ถ้าการเมืองไม่วุ่นวาย ไม่มีการออกมาอาละวาดกันก็สามารถเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งได้
เมื่อถามกรณีที่พรรคมีมติให้นายสุเทพ ไปพูดคุยกับแกนนำพรรคร่วม ให้เห็นด้วยกับสูตร 375+125 ไม่เช่นนั้น การแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ต้องคว่ำไป แล้วกลับไปใช้ 400+ 80 แบบพวงใหญ่ นายสุเทพ กล่าวว่า อย่าไปตีความกันเอง คิดเอาเองแล้วบอกว่านายกฯ หรือตนคิดอย่างนั้น ซึ่งการประสานกับพรรคร่วมรัฐบาล นายกฯ ไม่ต้องเรียกตนไปสั่งเป็นรายครั้ง เพราะมันเป็นหน้าที่ของตนอยู่แล้วในฐานะเป็นผู้จัดการรัฐบาล เพียงแต่ต้องดูว่าเมื่อไหร่สมควร เมื่อไหร่เหมาะสม เมื่อถามว่าจนถึงขณะนี้ได้มีโอกาสพูดคุยกับแกนนำพรรคร่วมตัวจริงบ้างหรือยัง รองนายกฯ กล่าวว่า ยังไม่มีการพูดคุยกันแต่พรุ่งนี้ หรือมะรืนนี้ตนก็เห็นว่าสมควรแก่เวลาที่ตนจะได้ไปพูดคุยกันแล้ว
** มีทั้งคนเห็นด้วย-ไม่เห็นด้วยกับ"ชวน"
เมื่อถามถึงกรณีนายชวน หลีกภัย บอกว่าที่แก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้ เพราะทั้งนายกฯ และนายสุเทพ ไปรับปากกับพรรคร่วมรัฐบาลไว้ นายสุเทพ กล่าวว่า ควมจริงเรื่องรัฐธรรมนูญมีความเห็นที่หลากหลาย ในทุกพรรคก็มีความเห็นไม่เหมือนกัน
ดังนั้นอย่าไปกล่าวหากันว่า ใครทำเพื่อตัวเอง ใครทำเพื่อประเทศ เพราะมันมีหลายทฤษฎี แต่เราถูกสอนให้ใช้สมอง ใช้ความคิดของตัวเอง คิดให้ถูกต้อง ขณะเดียวกันก็ถูกสอนให้เคารพความคิดคนอื่นด้วย
"การที่คุณชวน อยากให้มีการแก้ไขทั้งฉบับนั้น ผมก็เคารพความคิดของคุณชวน เพราะท่านก็เป็นปรมาจารย์ทางการเมืองอยู่แล้ว ท่านพูดอะไรมา เราก็ต้องฟัง ซึ่งในพรรคประชาธิปัตย์ก็มีทั้งคนที่คิดเหมือนท่านชวน และคิดไม่เหมือน ก็แล้วแต่" รองนายกฯกล่าว
**"เติ้ง" ยืนกรานสูตร 400+100
นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวหลังการหารือร่วมกับพล.ต.สนั่น ขจรนประศาสน์ รองนายกฯ และนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล กรรมการที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มีจำนวนสูตรส.ส.ถึง 21 สูตร ว่า
"แหม ..ผมก็ไม่รู้ ชักปวดหัวแล้วนะเนี่ย มันเยอะแยะ สูตรอะไรบ้างก็ไม่รู้ เวลานี้สูตร 375+125 มี 400+100 มี 400+125 รู้เพียงเท่านี้ แล้วที่มีหลาย 10 สูตรไม่รู้มีสูตรอะไรบ้าง"
เมื่อถามว่าแล้ว 3 สูตร เป็นอย่างไรบ้าง นายบรรหาร กล่าวว่า ก็ดีหมดทุกสูตร และมีเหตุผลดีพอสมควร แต่สูตร 400+125 ต้องการออมชอม แต่เรายืนหยัดในสูตร 400+100 เท่านั้น ส่วนปชป.ที่ยืนยันสูตร 375+125 ก็เป็นเรื่องของปชป. ไม่ใช่เรื่องของรัฐบาล แต่ข้อยุติเป็นเรื่องของสภา
เมื่อถามว่าสูตร 400+100 จะได้รับเสียงสนับสนุนจาก ส.ส.และส.ว.ค่อนข้างเยอะ นายบรรหาร กล่าวว่า ยังไม่ทราบ ไม่ได้พูดกับใคร เมื่อมีมติเราก็ถือตามนั้น
เมื่อถามว่า ส.ส.จะมีการประชุมร่วมกันก่อนเปิดประชุมสภา นายบรรหาร กล่าวว่า เป็นเรื่องของสภาผู้แทนราษฏรเรียกประชุมกันก่อนเปิดสภา ส่วนจะประชุมเรื่องอะไร ไม่ทราบ เพราะไม่ได้รับเชิญ เขาเชิญหัวหน้าพรรค และสมาชิกพรรคเท่านั้นเอง
เมื่อถามว่ามีความเป็นไปได้ ที่จะได้รับเสียงตอบรับจากสมาชิกรัฐสภาในสูตร 400+100 หรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า ตอบไม่ได้ ไม่มีใครยืนยันว่าสูตรไหนจะชนะ ซึ่งตนคิดว่าที่ประชุมอาจจะให้ฟรีโหวตก็ได้ ไม่มีใครตอบได้ แต่คิดว่าดีทุกสูตร ไม่ว่าสูตรไหนออกมา ก็ดีทั้งนั้น
เมื่อถามว่าสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ระบุว่าหากไม่ได้ตามสูตร 375+125 จะยุบสภา นายบรรหาร กล่าวว่า "ใครพูด ถามหน่อย ไม่ใช่ผู้ใหญ่พูด ส.ส.พูดจะไปฟังทำไม ต้องให้ผู้ใหญ่พูด ถ้าผู้ใหญ่ในพรรคพูดมา ผมจะได้โต้กลับได้ แต่นี่ส.ส.พูด ผมให้นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา พูดดีกว่า ผมไม่พูดหรอก"
ผู้สื่อข่าวบอกว่า นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกฯ ก็พูดเหมือนกันว่า ถ้ามีปัญหามาก อาจจะยุบสภา นายบรรหาร กล่าวว่า "โน่น ต้องให้วัชระโต้ นายสาทิตย์ผมไม่โต้ แต่ถ้ามีผู้ใหญ่ในพรรค 1-2 คน พูดมาผมจะโต้ให้ดู" นายบรรหาร กล่าว
** "สุวัจน์"เชื่อสูตรส.ส.ไม่ทำให้แตกแยก
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ แกนนำพรรครวมชาติพัฒนา กล่าวว่า เรื่องแก้รธน. ไม่น่าจะนำมาซึ่งความขัดแย้งภายในพรรคร่วม และความขัดแย้งในสังคม ตอนนี้เป็นเพียงความเห็นในเรื่องของจำนวนตัวเลขที่ไม่ตรงกันเท่านั้น และคิดว่าไม่น่าจะเป็นเรื่องใหญ่ เพราะแต่ละสูตร ก็ไม่ได้แตกต่างไปจากเดิมมากนัก เคยใช้มาแล้วทั้งนั้น
อย่างไรก็ตาม การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องอยู่บนพื้นฐานที่ประชาชนส่วนใหญ่ให้การยอมรับ และไม่เป็นปัญหาจนนำไปสู่การยุบสภา ประกอบกับตอนนี้บ้านเมืองมีความขัดแย้งอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่ควรนำประเด็นนี้มาทำให้ประเทศแย่ลงไปอีก ประกอบกับถ้าเราได้กติกา หรือรัฐธรรมนูญที่มีความขัดแย้ง ถึงแม้จะมีการเลือกตั้งเรื่องทุกอย่างก็คงจะไม่จบ
เมื่อถามว่า นายสุเทพ ได้นัดพรรคร่วมหารือเรื่องนี้ พรรคร่วมชาติพัฒนามีจุดยืนอย่างไร นายสุวัจน์ กล่าวว่า ถ้ามองว่าใครได้เปรียบเสียเปรียบในเรื่องนี้ ก็จะได้ข้อยุติยาก เรื่องนี้ถือเป็นประเด็นรอง เราควรคิดถึงประเทศชาติเป็นหลัก และขณะนี้ก็มีรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว แต่ถ้ามีการแก้ไข ก็จะถูกนำมาใช้หลังการเลือกตั้ง ซึ่งการที่หลายฝ่ายออกมาเคลื่อนไหวในตอนนี้ ก็อาจทำให้บรรยากาศการเมืองไม่ดี แต่หลังการเลือกตั้งเชื่อว่าทุกอย่างจะดีขึ้น แต่ตอนนี้จะต้องมาคิดว่า จะทำอย่างไรให้คนยอมรับ
" หากรัฐธรรมนูญไม่ผ่าน ก็ถือว่าเป็นความรับผิดอบร่วมกัน ไม่น่าจะใช่ความผิดของนายกฯเพียงคนเดียว ส่วนการรวมพรรค จะชัดเจนหลักยุบสภา ตอนนี้ผมเชื่อว่า ทุกคนต่างเคานต์ดาวน์ รอการเลือกตั้งกันหมดแล้ว นักการเมืองก็เตรียมความพร้อมที่จะเลือกตั้ง ตามที่นายกรัฐมนตรีได้ประกาศไว้" นายสุวัจน์ กล่าว และว่าการเลือกตั้งในอนาคตจะนำไปสู่สิ่งที่ดีของประเทศ คลายอุณหภูมิความรุนแรงทางการเมืองให้เย็นลง เพราะทุกคนอยากให้มีการเลือกตั้ง
** ปชป.อ้างแค่วิเคราะห์ไม่ใช่ข่มขู่
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคร่วม
โวยว่า ปชป.ข่มขู่ ในเรื่องยุบสภาว่า น่าจะเป็นความเข้าใจผิดมากกว่า ที่ผ่านมาล้วนแต่เป็นการวิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมืองว่า ถ้าหากร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ผ่าน การเมืองจะเป็นไปในทิศทางใด และหากเสียงส่วนใหญ่ยอมรับสูตร 400+100 หลังจากนั้นจะเป็นอย่างไร ก็ถือว่าเป็นการวิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมืองทั้งสิ้น
"ยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่มีใครคิดข่มขู่พรรคร่วมรัฐบาล แม้จนถึงขณะนี้ หลังจากที่ได้พูดคุยกับนายกฯมาโดยตลอด เห็นว่านายกฯ ยังไม่ได้สั่งสัญญาณใดๆ ต่อการยุบสภา หรือเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ทุกคนในพรรคเชื่อมั่นว่า ปัญหาดังกล่าวสามารถหาข้อยุติได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการทำหน้าที่ผู้จัดการรัฐบาลของนายสุเทพ และถ้าดูการให้สัมภาษณ์ของนายสุเทพ ต่อเรื่องดังกล่าว เห็นได้ว่านายสุเทพ ค่อนข้างมั่นใจว่า สามารถทำความเข้าใจกับพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค ในการสนับสนุนร่างที่ ครม.เสนอ"
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีข่าวว่า มีการกำหนดเดือนที่จะยุบสภาแล้ว นายเทพไท กล่าวว่า เป็นการวิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมืองมากกว่า แต่ยังไม่มีใครรู้ว่าเมื่อไร ทุกอย่างนายกฯ เป็นผู้ตัดสินใจ ที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ ไม่มีการข่มขู่พรรคร่วมอย่างแน่นอน เพราะนายสุเทพ ประกาศชัดว่าหากยุบสภา จะปรึกษาพรรคร่วมก่อน
**อัด"มาร์ค"มองไม่เห็นหัวประชาชน
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึง พรรคประชาธิปัตย์ยืนกรานที่จะเอาสูตร 375+125 ถ้าไม่ได้ก็จะใช้ในแบบปัจจุบัน 400+80 พร้อมมีกระแสข่าวว่านายกฯ ระบุว่าจะยุบสภาปลายเดือน พ.ค. 54 ว่า คงเป็นเพียงแค่เกมการเมือง ข่มขู่พรรคร่วมรัฐบาล เพื่อให้เอาด้วยกับแนวทางของพรรคประชาธิปัตย์ที่ตั้งธงไว้ และตัวเองได้ประโยชน์
"ในการแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ ได้สอบถามประชาชนแล้วหรือยัง ว่าระบบ 375+125 ที่ลด ส.ส.เขต ที่ดูแลใกล้ชิดประชาชนลงไป 25 เขต เขาเห็นด้วยหรือไม่ ส่งผลกระทบต่อเขาหรือไม่ เพราะชาวบ้านในหลายพื้นที่มองว่า ส.ส.เหมือนคนใกล้ชิด ญาติสนิทที่ดูแลเขา ช่วยแก้ปัญหาต่างๆ วันดีคืนดีก็มาพรากเขาไป ในส่วนของการเพิ่ม ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อนั้น ไม่ได้ยึดโยงดูแลประชาชนเหมือน ส.ส.เขต และในส่วนนี้ก็จะการเปิดช่องให้กลุ่มทุน เข้ามาใช้อำนาจเงินผลักดันตัวเองเป็นผู้แทน จากนั้นก็จะเข้าไปถอนทุนครั้งมโหฬาร" นายพร้อมพงศ์ กล่าว