ASTVผู้จัดการรายวัน -วาโก้เร่งเครื่องทวงแชร์คืน ย้ำยังเป็นแชมปชั้นในอยู่ ปีนี้ทุ่ม 300 ล้านบาท ลุยเต็มที่ ซุ่มผุดร้านวาโก้สแตนด์อโลนครั้งแรก พร้อมขยายสู่ช่องทางขายใหม่ๆ ลั่นปีนี้โต 30%
นายธรรมรัตน์ โชควัฒนา กรรมการผู้ช่วยผู้อำนวยการบริษัท ไอ.ซี.ซี อินเตอร์เนชั่นแนล และกรรมการบริษัทไทยวาโก้ ผู้ผลิตและทำตลาดสินค้าเครื่องแต่งกายแบรนด์เนม วาโก้, บีเอสซี, แอร์โรว์, ลาคอส เป็นต้นในเครือสหกรุ๊ป เปิดเผยว่า ตลาดรวมชุดชั้นในช่องทางจำหน่ายห้างสรรพสินค้าในปัจจุบัน มีมูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท ปีที่แล้วเติบโต 10% ขณะที่ของบริษัทฯเติบโตเพียง 3-5% โดยมียอดขายกว่า 2,300 ล้านบาท และคาดว่าสิ้นปีนี้จะมียอดขายเพิ่มเป็น 2,900 ล้านบาท ส่วนภาพรวมของบริษัทไอ.ซี.ซีฯ ปี 53 ปิมีรายได้ประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาทและปีนี้วางเป้าหมายรายได้เติบโต 30%
นายธรรมรัตน์กล่าวถึงการทำตลาดวาโก้ปี 2554 ว่า หลังจากที่ปีที่แล้วได้เริ่มปรับโครงสร้างการดำเนินงานของกลุ่มสินค้าวาโก้ให้เป็นไปในเชิงราบ ให้ความสำคัญกับการออกแบบแนวแฟชั่นมากขึ้น เพื่อลบจุดอ่อนลง และแยกคอลเลคชั่นสินค้าให้ชัดเจนขึ้น ตามกลุ่มเป้าหมาย แบบไลฟ์สไตล์จากเดิมแบ่งตามกลุ่มอายุ ส่งผลดีต่อแบรนด์วาโก้มากขึ้น
ดังนั้นในปีนี้บริษัทฯวางแผนเชิงรุก โดยตั้งงบลงทุนไว้ 300 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น 100 ล้านบาทใช้ในการขยายช่องทางจำหน่ายแบบใหม่เป็นร้านเดี่ยวหรือสแตนด์อโลน เป็นครั้งแรก และมีชื่อแตกต่างกันออกไป เช่น วาโก้โกลด์จับกลุ่มผู้ใหญ่ วาโก้ปิ๊งเจาะกลุ่มวัยรุ่น เป็นต้น ยังมองหาทำเลที่เหมาะสมอยู่ ตั้งเป้าไว้จะมี 10 แห่งภายในสิ้นปีนี้ ส่วนงบอีก 150-200 ล้านบาท จะทำตลาด ซึ่งปีนี้จะมุ่งเน้นช่องทางขายตรงผ่านแคตตาล็อคเซลส์ ทีวีชอปปิ้ง เป็นต้น
นอกจากนั้นจะใช้กลยุทธ์ราคา ซึ่งมีทั้งปรับราคาขึ้นและลดราคาลง เช่นกลุ่มเบสิคที่ทำรายได้มากกว่า 30% โดยจะลดราคาลง 10% จากเดิมเริ่มต้นที่ 300 กว่าบาทถึง 3,000 กว่าบาท
บริษัทฯมั่นใจว่า ปีนี้จะสามารถทำรายได้เติบโต 30% ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ และจะผลักดันให้ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น จากเดิมเป็นผู้นำอยู่แล้วด้วยแชร์มากกว่า 58-60% ซึ่งลดลงจากเดิม เพราะว่ามีการแข่งขันสูงจากผู้ประกอบการทั้งแบรนด์ของไทยและต่างชาติ โดยอันดับสองในตลาดคือ ซาบีน่า ส่วนแบ่ง 15-16% และไทรอั๊มพ์ ส่วนแบ่ง 10-13% เป็นอันดับที่สาม
****
นายธรรมรัตน์ โชควัฒนา กรรมการผู้ช่วยผู้อำนวยการบริษัท ไอ.ซี.ซี อินเตอร์เนชั่นแนล และกรรมการบริษัทไทยวาโก้ ผู้ผลิตและทำตลาดสินค้าเครื่องแต่งกายแบรนด์เนม วาโก้, บีเอสซี, แอร์โรว์, ลาคอส เป็นต้นในเครือสหกรุ๊ป เปิดเผยว่า ตลาดรวมชุดชั้นในช่องทางจำหน่ายห้างสรรพสินค้าในปัจจุบัน มีมูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท ปีที่แล้วเติบโต 10% ขณะที่ของบริษัทฯเติบโตเพียง 3-5% โดยมียอดขายกว่า 2,300 ล้านบาท และคาดว่าสิ้นปีนี้จะมียอดขายเพิ่มเป็น 2,900 ล้านบาท ส่วนภาพรวมของบริษัทไอ.ซี.ซีฯ ปี 53 ปิมีรายได้ประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาทและปีนี้วางเป้าหมายรายได้เติบโต 30%
นายธรรมรัตน์กล่าวถึงการทำตลาดวาโก้ปี 2554 ว่า หลังจากที่ปีที่แล้วได้เริ่มปรับโครงสร้างการดำเนินงานของกลุ่มสินค้าวาโก้ให้เป็นไปในเชิงราบ ให้ความสำคัญกับการออกแบบแนวแฟชั่นมากขึ้น เพื่อลบจุดอ่อนลง และแยกคอลเลคชั่นสินค้าให้ชัดเจนขึ้น ตามกลุ่มเป้าหมาย แบบไลฟ์สไตล์จากเดิมแบ่งตามกลุ่มอายุ ส่งผลดีต่อแบรนด์วาโก้มากขึ้น
ดังนั้นในปีนี้บริษัทฯวางแผนเชิงรุก โดยตั้งงบลงทุนไว้ 300 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น 100 ล้านบาทใช้ในการขยายช่องทางจำหน่ายแบบใหม่เป็นร้านเดี่ยวหรือสแตนด์อโลน เป็นครั้งแรก และมีชื่อแตกต่างกันออกไป เช่น วาโก้โกลด์จับกลุ่มผู้ใหญ่ วาโก้ปิ๊งเจาะกลุ่มวัยรุ่น เป็นต้น ยังมองหาทำเลที่เหมาะสมอยู่ ตั้งเป้าไว้จะมี 10 แห่งภายในสิ้นปีนี้ ส่วนงบอีก 150-200 ล้านบาท จะทำตลาด ซึ่งปีนี้จะมุ่งเน้นช่องทางขายตรงผ่านแคตตาล็อคเซลส์ ทีวีชอปปิ้ง เป็นต้น
นอกจากนั้นจะใช้กลยุทธ์ราคา ซึ่งมีทั้งปรับราคาขึ้นและลดราคาลง เช่นกลุ่มเบสิคที่ทำรายได้มากกว่า 30% โดยจะลดราคาลง 10% จากเดิมเริ่มต้นที่ 300 กว่าบาทถึง 3,000 กว่าบาท
บริษัทฯมั่นใจว่า ปีนี้จะสามารถทำรายได้เติบโต 30% ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ และจะผลักดันให้ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น จากเดิมเป็นผู้นำอยู่แล้วด้วยแชร์มากกว่า 58-60% ซึ่งลดลงจากเดิม เพราะว่ามีการแข่งขันสูงจากผู้ประกอบการทั้งแบรนด์ของไทยและต่างชาติ โดยอันดับสองในตลาดคือ ซาบีน่า ส่วนแบ่ง 15-16% และไทรอั๊มพ์ ส่วนแบ่ง 10-13% เป็นอันดับที่สาม
****