ASTVผู้จัดการรายวัน – นายกส.ส่งเสริมการประชุม หวั่นอุตสาหกรรมไมซ์ปีนี้ไม่ฟื้นตัว เหตุเสื้อแดงนัดชุมนุมถี่ กระทบความเชื่อมั่น ด้านผู้ว่าฯตรังสั่งทุกหน่วยงานดึงไมซ์เข้าจังหวัด
นายสุเมธ สุทัศน์ ณ อยุธยา นายกสมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ(ไทย) หรือ ทิก้า (Thailand Incentive and Convention Association) กล่าวว่า ตลาดจัดประชุมสัมมนาในปี 2554 อาจไม่สดใส หรือยังไม่ฟื้นตัวได้ แม้รัฐบาลจะยกเลิกประกาศ พ.ร.ก.ในสถานการณ์ฉุกเฉินแล้วก็ตาม แต่การนัดชุมนุมทางการเมือง ยังมีการนัดหมายชุมนุมกันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการประกาศชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง โดยใช้พื้นที่ย่านราชประสงค์เป็นที่นัดชุมนุม อย่างน้อยเดือนละ 1-2 ครั้ง ทำให้ ต่างชาติยังไม่มั่นใจที่จะเดินทางเข้ามา
“แม้การชุมนุมจะจำกัดอยู่ในพื้นที่ของกรุงเทพฯ แต่กลุ่มท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล และ กรุ๊ปการจัดประชุมสัมมนา เขามีทางเลือกที่จะไปประเทศอื่นที่มีความสงบ ไม่จำเป็นว่า ต้องมาประเทศไทย เพราะต้องมานั่งคิดวางแผนหลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง และยังต้องการความปลอดภัย สบายใจสูงมาก เมื่อพื้นที่ใดไม่สงบ ก็จะหันไปประเทศอื่น ทำให้ความหวังว่าอุตสาหกรรมไมซ์จะฟื้นราวไตรมาส 3-4 ปีนี้ อาจต้องเลื่อนออกไปก่อน ส่วนการที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดเวิล์ดเอ็กซ์โป ซึ่งจะตัดสินในอีก 3 ปีหน้า หากการเมืองยังวุ่นวายแบบนี้ ไทยก็คงไม่ได้รับเลือก”
นายสุเมธ กล่าวว่า พฤติกรรมนักท่องเที่ยวตลาดอินเซ็นทีฟ และ จัดสัมมนา จะไม่ฟื้นตัวรวดเร็วเหมือนตลาดนักท่องเที่ยวทั่วไป ประกอบกับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจในยุโรป ทำให้บริษัทหรือหน่วยงานในประเทศที่มีปัญหาเศรษฐกิจ ต่างลดงบประมาณ ด้านการจัดสัมมนา
สำหรับตลาดที่แนวโน้มสดใส คือ ประเทศเศรษฐกิจใหม่ เช่น กลุ่มประเทศในตลาดยุโรปตะวันออก รวมถึง อินเดีย และจีน ซึ่งจะมีการจัดประชุมและให้การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล ยังเติบโตต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม สัดส่วนลูกค้านานาชาติที่เข้ามาจัดประชุมสัมมนาในประเทศไทย แบ่งเป็น ตลาดเอเชีย 60% และ ยุโรป 40% ซึ่งปีนี้ ยังคงสัดส่วนแบบเดิม แต่อาจมีการโยกย้ายจากประเทศเดิมไปยังประเทศที่เศรษฐกิจเติบโต(มาร์เก็ตชิพ) ส่วนเป้าหมายอุตสาหกรรมไมซ์ปี 2554 ตามที่ สสปน.คาดการณ์ว่าจะเติบโตราว 10-15% จากปี 2553 ที่ได้ตามที่วางไว้คือ 6.5 แสนคน สร้างเม็ดเงิน 4.5 หมื่นล้านบาท
ซึ่งจะเป็นได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การเมืองเช่นกัน สิ่งสำคัญกระทรวงการท่องเที่ยว ควรเร่งศึกษาคือพฤติกรรมการท่องเที่ยวเพื่อทราบความเคลื่อนไหวของตลาดและวางนโยบายรองรับ
นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่า ปี 2554 ทางจังหวัดมีแผนส่งเสริมตลาดจัดประชุมสัมมนา และท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล โดยมอบเป็นนโยบายให้ทุกหน่วยราชการของจังหวัด ไปดำเนินการเชิญช่วยหน่วยงานต้นสังกัด หรือ หน่วยงานในสังกัดเดียวกันแต่อยู่ในพื้นที่อื่นๆ เดินทางมาจัดประชุมสัมมนาที่จังหวัดตรัง ได้ขอความร่วมมือภาคเอกชนในจังหวัดตรังให้ดำเนินการในรูปแบบเดียวกันนี้ด้วย เบื้องต้นจะเน้นส่งเสริมโดเมสติกไมซ์ในตลาดระดับกลาง ชูจุดขายท่องเที่ยวครบวงจร แหล่งท่องเที่ยวหลากหาย เช่น ทะเล เกาะ ศิลปวัฒนธรรม วิถีชีวิต ประวัติศาสตร์ โดยมีโรงแรมห้องพักกว่า 3,000 ห้อง ไว้คอยรองรับและกุมภาพัน์ศกนี้ ก็จะเปิดใช้หอประชุมมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ซึ่งจุผู้ร่วมประชุมได้ถึง 3,000 ที่นั่งอีกด้วย
นายสุเมธ สุทัศน์ ณ อยุธยา นายกสมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ(ไทย) หรือ ทิก้า (Thailand Incentive and Convention Association) กล่าวว่า ตลาดจัดประชุมสัมมนาในปี 2554 อาจไม่สดใส หรือยังไม่ฟื้นตัวได้ แม้รัฐบาลจะยกเลิกประกาศ พ.ร.ก.ในสถานการณ์ฉุกเฉินแล้วก็ตาม แต่การนัดชุมนุมทางการเมือง ยังมีการนัดหมายชุมนุมกันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการประกาศชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง โดยใช้พื้นที่ย่านราชประสงค์เป็นที่นัดชุมนุม อย่างน้อยเดือนละ 1-2 ครั้ง ทำให้ ต่างชาติยังไม่มั่นใจที่จะเดินทางเข้ามา
“แม้การชุมนุมจะจำกัดอยู่ในพื้นที่ของกรุงเทพฯ แต่กลุ่มท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล และ กรุ๊ปการจัดประชุมสัมมนา เขามีทางเลือกที่จะไปประเทศอื่นที่มีความสงบ ไม่จำเป็นว่า ต้องมาประเทศไทย เพราะต้องมานั่งคิดวางแผนหลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง และยังต้องการความปลอดภัย สบายใจสูงมาก เมื่อพื้นที่ใดไม่สงบ ก็จะหันไปประเทศอื่น ทำให้ความหวังว่าอุตสาหกรรมไมซ์จะฟื้นราวไตรมาส 3-4 ปีนี้ อาจต้องเลื่อนออกไปก่อน ส่วนการที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดเวิล์ดเอ็กซ์โป ซึ่งจะตัดสินในอีก 3 ปีหน้า หากการเมืองยังวุ่นวายแบบนี้ ไทยก็คงไม่ได้รับเลือก”
นายสุเมธ กล่าวว่า พฤติกรรมนักท่องเที่ยวตลาดอินเซ็นทีฟ และ จัดสัมมนา จะไม่ฟื้นตัวรวดเร็วเหมือนตลาดนักท่องเที่ยวทั่วไป ประกอบกับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจในยุโรป ทำให้บริษัทหรือหน่วยงานในประเทศที่มีปัญหาเศรษฐกิจ ต่างลดงบประมาณ ด้านการจัดสัมมนา
สำหรับตลาดที่แนวโน้มสดใส คือ ประเทศเศรษฐกิจใหม่ เช่น กลุ่มประเทศในตลาดยุโรปตะวันออก รวมถึง อินเดีย และจีน ซึ่งจะมีการจัดประชุมและให้การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล ยังเติบโตต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม สัดส่วนลูกค้านานาชาติที่เข้ามาจัดประชุมสัมมนาในประเทศไทย แบ่งเป็น ตลาดเอเชีย 60% และ ยุโรป 40% ซึ่งปีนี้ ยังคงสัดส่วนแบบเดิม แต่อาจมีการโยกย้ายจากประเทศเดิมไปยังประเทศที่เศรษฐกิจเติบโต(มาร์เก็ตชิพ) ส่วนเป้าหมายอุตสาหกรรมไมซ์ปี 2554 ตามที่ สสปน.คาดการณ์ว่าจะเติบโตราว 10-15% จากปี 2553 ที่ได้ตามที่วางไว้คือ 6.5 แสนคน สร้างเม็ดเงิน 4.5 หมื่นล้านบาท
ซึ่งจะเป็นได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การเมืองเช่นกัน สิ่งสำคัญกระทรวงการท่องเที่ยว ควรเร่งศึกษาคือพฤติกรรมการท่องเที่ยวเพื่อทราบความเคลื่อนไหวของตลาดและวางนโยบายรองรับ
นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่า ปี 2554 ทางจังหวัดมีแผนส่งเสริมตลาดจัดประชุมสัมมนา และท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล โดยมอบเป็นนโยบายให้ทุกหน่วยราชการของจังหวัด ไปดำเนินการเชิญช่วยหน่วยงานต้นสังกัด หรือ หน่วยงานในสังกัดเดียวกันแต่อยู่ในพื้นที่อื่นๆ เดินทางมาจัดประชุมสัมมนาที่จังหวัดตรัง ได้ขอความร่วมมือภาคเอกชนในจังหวัดตรังให้ดำเนินการในรูปแบบเดียวกันนี้ด้วย เบื้องต้นจะเน้นส่งเสริมโดเมสติกไมซ์ในตลาดระดับกลาง ชูจุดขายท่องเที่ยวครบวงจร แหล่งท่องเที่ยวหลากหาย เช่น ทะเล เกาะ ศิลปวัฒนธรรม วิถีชีวิต ประวัติศาสตร์ โดยมีโรงแรมห้องพักกว่า 3,000 ห้อง ไว้คอยรองรับและกุมภาพัน์ศกนี้ ก็จะเปิดใช้หอประชุมมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ซึ่งจุผู้ร่วมประชุมได้ถึง 3,000 ที่นั่งอีกด้วย