นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย อาจจะออกจากพรรคเพื่อไทย แล้วไปตั้งพรรคใหม่ว่า เชื่อว่า ร.ต.อ.เฉลิม จะไม่ทิ้งพรรคเพื่อไทย คงแค่ไม่เข้าร่วมอภิปราย แต่บอกว่าจะสนับสนุนข้อมูลให้ เพราะเป็นหมายเลข 2 รองจากนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ที่พรรคเตรียมตั้งให้เป็นผู้นำอภิปราย และแคนดิเดตนายกฯ
ทั้งนี้ ตนมองว่าผู้นำการอภิปรายต้องมีคุณสมบัติหลายอย่าง ซึ่งนายมิ่งขวัญ ก็ถือว่ามีความเหมาะสม แต่ก็ยอมรับว่า ไม่มีใครมีคุณสมบัติดีครบ ที่ผ่านมานายมิ่งขวัญ และร.ต.อ.เฉลิม ไม่เคยแข่งบารมีกัน เพราะร.ต.อ.เฉลิม เล่นการเมืองมาก่อนนายมิ่งขวัญ ซึ่งในวันที่ 24 ม.ค. พรรคเพื่อไทย จะมีมติแต่งตั้งผู้นำอภิปราย ส่วนเงื่อนไข 3 ข้อของร.ต.อ.เฉลิม ที่เสนอนั้น ยอมรับว่ายังมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน
**ยุส่งเหลิมตั้งพรรคจะได้ 20-30 เสียง
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ร.ต.อ.เฉลิม ได้ยื่นเงื่อนไข 3 ข้อต่อพรรคเพื่อไทย หากไม่รับจะออกไปตั้งพรรคใหม่ ว่า เป็นเงื่อนไขเพื่อหวังผลการเมือง และเป็นการต่อรองกับพรรคเพื่อไทย เพราะร.ต.อ.เฉลิม ต้องคิดหนักหากต้องออกจากพรรคเพื่อไทย แล้วมาตั้งพรรคการเมืองของตัวเอง เพราะที่ผ่านมาชีวิตทางการเมืองของร.ต.อ.เฉลิม อยู่กับใครก็อยู่ยาก จะมาตั้งพรรคของตัวเอง ก็ไปไม่รอด วิธีดังกล่าวน่าจะเป็นวิธีการซื้อเวลาออกไปอีก 3 เดือน เพราะจะเห็นว่าในพรรคเพื่อไทย มีการออกมาเรียกร้องให้ผู้ใหญ่มาไกล่เกลี่ย
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ ร.ต.อ.เฉลิม คิดว่าการตั้งพรรคใหม่น่าจะเป็นเรื่องอนาคตทางการเมืองมากกว่า เพราะได้ผ่านร้อนหนาวมาหลายครั้ง จึงน่าจะรู้ว่าอนาคตของพรรคเพื่อไทย จะเป็นอย่างไร หากจับมือกับนายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ และนายนิติภูมิ นวรัตน์ ก็มีความเป็นไปได้ ที่จะทำพรรคการเมืองที่ได้ที่นั่งประมาณ 20-30 เสียง และอาจจะมาร่วมรัฐบาลกับขั้วใดขั้วหนึ่ง และอาจเป็นตัวแปรสำคัญทางการเมือง เลยก็ว่าได้ เพราะหากร.ต.อ.เฉลิม คิดว่าจะอยู่กับพรรคเพื่อไทย คงอีกนานกว่าที่จะได้กลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง
ทั้งนี้ ตนมองว่าผู้นำการอภิปรายต้องมีคุณสมบัติหลายอย่าง ซึ่งนายมิ่งขวัญ ก็ถือว่ามีความเหมาะสม แต่ก็ยอมรับว่า ไม่มีใครมีคุณสมบัติดีครบ ที่ผ่านมานายมิ่งขวัญ และร.ต.อ.เฉลิม ไม่เคยแข่งบารมีกัน เพราะร.ต.อ.เฉลิม เล่นการเมืองมาก่อนนายมิ่งขวัญ ซึ่งในวันที่ 24 ม.ค. พรรคเพื่อไทย จะมีมติแต่งตั้งผู้นำอภิปราย ส่วนเงื่อนไข 3 ข้อของร.ต.อ.เฉลิม ที่เสนอนั้น ยอมรับว่ายังมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน
**ยุส่งเหลิมตั้งพรรคจะได้ 20-30 เสียง
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ร.ต.อ.เฉลิม ได้ยื่นเงื่อนไข 3 ข้อต่อพรรคเพื่อไทย หากไม่รับจะออกไปตั้งพรรคใหม่ ว่า เป็นเงื่อนไขเพื่อหวังผลการเมือง และเป็นการต่อรองกับพรรคเพื่อไทย เพราะร.ต.อ.เฉลิม ต้องคิดหนักหากต้องออกจากพรรคเพื่อไทย แล้วมาตั้งพรรคการเมืองของตัวเอง เพราะที่ผ่านมาชีวิตทางการเมืองของร.ต.อ.เฉลิม อยู่กับใครก็อยู่ยาก จะมาตั้งพรรคของตัวเอง ก็ไปไม่รอด วิธีดังกล่าวน่าจะเป็นวิธีการซื้อเวลาออกไปอีก 3 เดือน เพราะจะเห็นว่าในพรรคเพื่อไทย มีการออกมาเรียกร้องให้ผู้ใหญ่มาไกล่เกลี่ย
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ ร.ต.อ.เฉลิม คิดว่าการตั้งพรรคใหม่น่าจะเป็นเรื่องอนาคตทางการเมืองมากกว่า เพราะได้ผ่านร้อนหนาวมาหลายครั้ง จึงน่าจะรู้ว่าอนาคตของพรรคเพื่อไทย จะเป็นอย่างไร หากจับมือกับนายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ และนายนิติภูมิ นวรัตน์ ก็มีความเป็นไปได้ ที่จะทำพรรคการเมืองที่ได้ที่นั่งประมาณ 20-30 เสียง และอาจจะมาร่วมรัฐบาลกับขั้วใดขั้วหนึ่ง และอาจเป็นตัวแปรสำคัญทางการเมือง เลยก็ว่าได้ เพราะหากร.ต.อ.เฉลิม คิดว่าจะอยู่กับพรรคเพื่อไทย คงอีกนานกว่าที่จะได้กลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง