xs
xsm
sm
md
lg

ท่าไม้ตาย “อดข้าว” ล็อกคอ-ตีเข่ารัฐบาล

เผยแพร่:   โดย: อัญชะลี ไพรีรัก

หลังสองแกนนำกลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติ “ ไชยวัฒน์ สินสุวงศ์” และ “สมบูรณ์ ทองบุราณ” ถูกตำรวจ 30 นายรวบตัวคาหม้อสุกี้ในห้างโลตัส พระราม 1 ก็ไม่ได้ทำให้อุณหภูมิการชุมนุม “ทวงคืนดินแดน” หน้าทำเนียบรัฐบาลถึง “จุดเดือด”

ถ้าจะว่าตามภาษาม็อบก็เรียกว่า “จุดไม่ติด” แม้สองแกนนำยอมเสียสละอิสรภาพ คอม็อบชนิดลึกสุดใจวิเคราะห์ว่า สองแกนนำยังมีบารมี-แฟนคลับ และแม่ยก ไม่มากพอสำหรับ “มุกโดนจับ” ยิ่งทำซ้ำมากเท่าไร ความขลังยิ่งถอยห่างมากเท่านั้น

ของอย่างนี้เกจิการชุมนุมเขาแนะว่า ถ้าไม่ใช่ยี่ห้อ “จำลอง” หรือ “สนธิ” อย่าได้คิดทำเชียว จะเสียของเปล่าๆ ปลี้ๆ สู้อยู่ข้างนอกทางนี้จะช่วยเหลือเฟือไฟการชุมนุมได้มากกว่าไปนั่งหว่าวหาวเรออยู่ในคุกในตาราง

ส่วนสถานการณ์ด้าน “ทำเนียบรัฐบาล” เหตุการณ์ไม่เปลี่ยนแปลง ฟากสันติอโศกยังปักกลด กางเต็นท์ชุมนุมเรียกร้องทวงคืนดินแดนกันต่อไปด้วยสันติ อหิงสา ซื่อสัตย์ จากแนวคิด “Neo Protest”

ชุมชนอโศกจัดเต็นท์ออกเป็นสัดส่วน ราวยกอโศกสถานมาไว้ที่ฟุตปาธข้างทำเนียบรัฐบาล ตอนนี้มีคนให้ความสนใจเยอะแยะยุ่บยั่บ

มีทั้งเต็นท์อาหารมังสวิรัติสด สะอาด อร่อย ทั้งข้าวกล้องและกับข้าวนับสิบชนิด มาแจกฟรีแก่ผู้ชุมุนมและผู้คนที่สัญจรไป-มาสามมื้ออาหาร “ฟรี”

มีทั้งเต็นท์สุขภาพด้วยวิธีธรรมชาติบำบัด ภายใต้การควบคุมดูแลของ “หมอเขียว” เจ้าของรางวัลคน ค้น คน อวอร์ด ที่ให้คำปรึกษาด้านการรักษาโรคฟรีไม่เกี่ยงสีเสื้อ

มีเต็นท์จำหน่ายสินค้าที่ผลิตจากฟ้า-ดินราคาถูก ไม่ทำลายสุขภาพ และยังช่วยซ่อมแซมสิ่งแวดล้อมที่สูญเสีย

มีเต็นท์จำหน่ายผักสด ผลไม้ และข้าวของราคาถูกมากจากชุมชนอโศกทั่วประเทศ

มาร่วมกิจกรรมกับสันติอโศกที่ด้านข้างทำเนียบรัฐบาล ด้าน ปปช.แล้ว นอกจากจะอิ่มอกอิ่มใจในชุมชนบุญนิยมแล้ว ยังได้ความรู้ด้วยว่า ไทยกำลังจะเสียดินแดนด้านชายแดนไทย-เขมร

เพราะการปักหมุดปักปันเขตแดนโดยใช้แผนที่ในมือเขมรอัตราส่วน 1 ต่อ 2 แสน จะทำให้เสียดินแดนไทย 1.8 ล้านไร่ใน 7 จังหวัดบริเวณชายแดนไทย-เขมร

ในจำนวนที่ดินคนไทยที่ต้องสูญเสียหลายครัวเรือน มีบ้านของคนดีที่ศีรษะอโศก และบ้านราชธานีอโศกด้วย

สันติอโศกถึงยกเอาชุมชน “คนสะอาด” มาไว้ที่หน้าทำเนียบรัฐบาลและบอกกับนายกรัฐมนตรีว่าเขามาเพื่อ “ทวงคืนแผ่นดิน” ไม่ได้มาปลิ้นปล้อนใส่ความใคร หรือล้มรัฐบาลเพื่อใคร และไม่เห็นด้วยกับท่าทีใช้ความรุนแรงของใครด้วย

คำถามคือ แล้วสันติอโศกกับกลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติเกี่ยวกันอย่างไร พ่อท่านโพธิรักษ์ตอบว่า เป็นคนไทยมีเป้าหมายทวงคืนดินแดนเหมือนกัน แต่ไม่ได้เห็นเหมือนกันเรื่องความรุนแรง

ถามต่อไปว่า แล้วสันติอโศกกับพันธมิตรฯ ที่จะออกมาเคลื่อนไหวในวันที่ 25 ม.ค. นี้เกี่ยวกันอย่างไร? พ่อท่านของสันติอโศกตอบทันทีว่า หน่อเนื้อเชื้อไขเดียวกัน ออกก่อนออกหลังไม่สำคัญ “แต่เราจำเป็นต้องออกโรงก่อน รอไม่ได้แล้ว”

มีคนถามอีกว่าแล้วพันธมิตรฯ แตกกันหรือ? พ่อท่านตอบว่า พันธมิตรฯ คือคนดีรักชาติ รักแผ่นดิน พันธมิตรฯ ไม่ชอบวิธีเผด็จการ ไม่ชอบความรุนแรง และวิธีรุนแรงเสียเลือดเสียเนื้อ และทุกหน่วยคนดีมารวมกันเป็นหนึ่งพันธมิตรฯ เพื่อพันธกิจของแผ่นดิน

งั้นมีคนสงสัยอีกว่า แม่ยกส่วนใหญ่คือมวลชนประชาธิปัตย์ ลองถ้าพันธมิตรฯ กับสันติอโศกออกโรงโดยไม่มีมวลชน ปชป.เข้าร่วมจะมีพลังพอหรือ? พ่อท่านตอบได้อีกว่า มาก-น้อยไม่สำคัญเท่ากับคุณภาพคนมาร่วม

แปลว่า? “คนน้อยก็ดี คนมากก็ดี ไม่สำคัญเท่ากับหัวใจ” พ่อท่านฯ ตอบสั้นๆ ยิ้มๆ

แล้วจะเอาอะไรไปสู้? กับคำถามนี้หัวหน้าสำนักสันติอโศกบอกว่า “วิธีการคนดี วิถีคนดี ไม่มีอาวุธใดจะแหลมคมได้เท่ากับจิตใจของคนสะอาดมาร่วมชุมชนบุญนิยม”

งั้นข่าวลือว่าสุดท้ายท่าไม้ตาย “อดอาหาร” จะถูกนำมาใช้ถ้าคนมาชุมนุมน้อย

“พ่อท่านโพธิรักษ์” ไม่ตอบเอาแต่อมยิ้มและนั่งอ่านหนังสือที่โต๊ะทำงานข้างประตู 4 ทำเนียบรัฐบาลต่อไป ไม่ทุกข์ไม่ร้อน ไม่รีบ ไม่รุนแรง ไม่แข็งกร้าว แต่ไม่ตอบเรื่อง “คนบุญ” จะพร้อมใจกัน นั่งตากแดด “อดข้าว” ประท้วงรัฐบาลเพื่อ “ทวงคืนดินแดน” ทำนองว่า “แม้ตายก็ยอม”

สุดกระดานด้วยกันทั้งหมด ไม่แคล้วต้องล้างไพ่ใหม่

อย่าลืมว่า ศักดิ์ศรี และจิตใจคนบุญจากสันติอโศกและพ่อท่านโพธิรักษ์ต่างจาก “ฉลาด วรฉัตร” เทียบกันไม่ติด

ตอนนี้คนหัวเราะฟันโยกคือ ทักษิณ ที่ซุ่มโป่งคอยโอกาสเสียบ เพราะต่อสายคุยกับพรรคร่วมเรียบร้อย ไม่ว่า รัฐธรรมนูญจะออกมาหน้าตาเป็นอย่างไร ทักษิณพร้อมลุยมากกว่าใคร แม่ทัพนายกอง น้องรัก และกระสุนพร้อมกว่าใคร

ไม่มีใครรายงานเลยหรือไรว่า นักการเมืองที่จงรักภักดีกับนายใหญ่ สลับกันมาเริงร่าที่สิงคโปร์ทุกสัปดาห์ ทั้งอัพเดตและอัพบุ๊กอิ่มหมีพีมันกันเงียบๆ ถ้วนหน้า

คิดว่าจะชนะทักษิณได้ง่ายๆ หรือ? ไปหลงเชื่ออะไรกับวาทกรรมเสแสร้งว่า “ก้าวข้ามผ่านทักษิณ”

เขาคงยอมนี่…ไก่อ่อนสอนขันยังฉลาดเฉลียวกว่านี้เลย.
กำลังโหลดความคิดเห็น