xs
xsm
sm
md
lg

พืชเกษตรราคาดี-ท่องเที่ยวเฟื่อง ดันยอดขายรถยนต์เมืองเลยพุ่งเท่าตัว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

การท่องเที่ยวเป็นอีกภาคธุรกิจหนึ่งที่ทำเม็ดเงินสะพัดในจ.เลย แต่ละปีจำนวนมาก
เลย- ยอดขายรถยนต์เมืองเลยพุ่งกว่าเท่าตัว หลังจากชาวบ้านมีรายได้เพิ่มจากการขายพืชผลทางการเกษตรได้ราคาดี ประกอบกับเงินสะพัดจากการท่องเที่ยวต่อเนื่อง นักท่องเที่ยวแห่เที่ยวเมืองเลย เฉลี่ยวันละ 6หมื่นคน ส่งผลต่อกำลังซื้อชาวบ้านมีมากขึ้น

นายเกรียงศักดิ์ ตันกิจเจริญ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเลย เปิดเผยว่า ในฐานะที่ตนเป็นหนึ่งในผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ในจ.เลย บริษัท มิตซูเลย พบว่าตลอดปีที่ผ่านมาจนเข้าสู่ต้นปี 2554เฉพาะโชว์รูมของตนมียอดขายรถยนต์เพิ่มขึ้นกว่า 100 %หรือเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ลูกค้าส่วนใหญ่ เป็นเกษตรกร และเป็นที่น่าสังเกตว่า ผู้ซื้อมีอายุเฉลี่ยประมาณ 30-40 ปี ต่างจากในอดีตคนที่จะซื้อรถมีอายุมากกว่านี้ โดยเก็บเงินที่ได้จากผลผลิตทางการเกษตรมาตลอดเกือบทั้งชีวิตกว่าจะออกรถคันใหม่ได้

ปัจจุบันกลุ่มผู้ซื้อรถยนต์โดยมากจะเป็นคนหนุ่มอายุไม่มากนัก บางคนก็ซื้อรถเป็นคันที่สองเก็บไว้ใช้ในภารกิจที่ต่างกัน ตั้งแต่ที่ตนมาทำธุรกิจรถยนต์ ก็เพิ่งเคยเห็นปีที่ผ่านมา ที่ยอดขายพุ่งขึ้นสูงสุด ทั้งนี้ เป็นเพราะในรอบปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจของจ.เลยดีขึ้น ผลผลิตทางการเกษตรหลักทั้ง 4 ชนิดมีราคาดี คือ ข้าว อ้อย มันสำปะหลัง และยางพารา ได้ผลผลิตอย่างดี เพราะไม่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ

โดยเฉพาะยางพารา กลายเป็นพืชหลักอันดับ 1 ของจังหวัด มีพื้นที่ปลูกเป็นอันดับ2 ของภาคอีสาน ปัจจุบันมีราคากิโลกรัมละ 145-160 บาท

นอกจากนี้ ยังเป็นผลจากรายได้จากการท่องเที่ยวภายในจังหวัด ช่วงปลายปีที่ผ่านมามี นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาประมาณวันละ 60,000 คน รวมทั้งปีมากถึง 1.3 ล้านคน จากปี 2552 มีเพียงประมาณ 1 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้น 30% มีเม็ดเงินสะพัดจากนักท่องเที่ยวในจังหวัดราวปีละ 1,500 ล้านบาท โดยเฉพาะที่อ.เชียงคานได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ทำให้อำเภออื่นๆ พลอยได้รับอานิสงส์นี้ด้วย รายได้จึงกระจายไปสู่ประชาชนทุกภาคส่วน

ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเลย กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม การเติบโตของเศรษฐกิจของจ.เลยในช่วงนี้ ทั้งภาครัฐ และเอกชนต้องมาช่วยกันคิดว่า จะทำอย่างไรให้เศรษฐกิจยั่งยืน มั่นคง เพราะหวั่นว่าจะเป็นฟองสบู่ เกษตรกร หรือชาวบ้านใช้จ่ายเกินตัว อาจเกิดหนี้เสียขึ้นได้ในอนาคต ทั้งนี้ ภาครัฐควรจัดสรรงบประมาณลงมาพัฒนาด้านถนนหนทาง ความสะอาด สัญญาณจราจร ป้ายต่างๆ ทั้งในชุมชนและแหล่งท่องเที่ยว ตลอดจนสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานควรมีให้ครบ รวมถึงการบังคับใช้กฎจราจรอย่างเคร่งครัดด้วย การอนุรักษ์ซ่อมแซมพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเดิมและเพิ่มแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ผู้ประกอบการต้องพัฒนาที่พัก ร้านอาหาร ให้มากขึ้นเพื่อ รองรับกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น พัฒนาเพิ่มทักษะความรู้แก่นักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการควรมีการรวมกลุ่มกันทำกิจกรรมการตลาดร่วมกัน

“การบริหารการจัดการและบริการด้านการท่องเที่ยวต้องมีคุณภาพ มีความปลอดภัย ที่สำคัญเมื่อเห็นว่านักท่องเที่ยวเข้ามามากก็อย่าฉกฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าและบริการ ต้องให้บริการด้วยราคาที่เป็นธรรมเพื่อสร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยว ให้กลับมาเที่ยวซ้ำหรือบอกกล่าวปากต่อปาก หากทำกันได้อย่างนี้จะทำให้การขายการท่องเที่ยวเมืองเลยมีความยั่งยืน”นายเกรียงศักดิ์กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น