ASTVผู้จัดการรายวัน–บางจากทุ่มงบการตลาดปีนี้ 500 ล้านบาท ลุยรีแบรนดิ้งปั๊มและทำปั๊มใหญ่ 300 ล้านบาท ที่เหลือขยายธุรกิจNon Oil ทั้งร้านกาแฟและคาร์แคร์ ตั้งเป้าปี 56 มีส่วนแบ่งการตลาดน้ำมันอันดับ 2 แซงหน้าเอสโซ่ หลังจากปีที่แล้วมีมาร์เก็ตแชร์ทิ้งห่างเชลล์เป็นครั้งแรก
นายยอดพจน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ รักษาการผู้อำนวยการอาวุโสสายการตลาดอุตสาหกรรม บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปีนี้ตั้งงบการตลาด 500 ล้านบาท เพื่อใช้ในการการปรับโฉมสถานีบริการน้ำมัน (รีแบรนดิ้ง)และสร้างปั๊มใหม่ วงเงิน 300 ล้านบาท และอีก 200 ล้านบาท ใช้ในการขยายธุรกิจNon oil อาทิ ร้านกาแฟอินทนิน คาร์แคร์และน้ำมันเครื่อง
ในปีนี้วางเป้าหมายรีแบรนดิ้งปั๊มเพิ่มขึ้นอีก 100 แห่ง จากปัจจุบันที่ได้รีแบรนดิ้งไปแล้ว220 แห่ง และมีปั๊มใหม่เพิ่มขึ้นอีก 15 แห่ง และส่วนธุรกิจnon Oil จะมีการขยายร้านกาแฟอินทนินเพิ่มขึ้น นอกเหนือจากขยายภายในในปั๊มบางจากแล้ว โดยจะขยายไปในห้างสรรพสินค้า สถาบันศึกษาและอาคารสำนักงานทั่วไป เพื่อให้ผู้บริโภครู้จักแบรนด์อินทนินมากขึ้น ขณะเดียวกันก็จะเพิ่มสัดส่วนการขายน้ำมันเครื่องผ่านช่องทางการตลาดไม่ว่าจะเป็นOEM โมเดิร์นเทรด ร้านค้าย่อย และตลาดส่งออก
ทั้งนี้ บางจากวางเป้าหมายรายได้จากธุรกิจNon Oil เพิ่มขึ้นเป็น 30%ในอีก 3ปีข้างหน้าจากปัจจุบันมีรายได้คิดประมาณ 10% ของรายได้รวม
นายยอดพจน์ กล่าวว่า ปี 2553 ยอดการใช้น้ำมันรวมของประเทศลดลง 0.3-0.5% เนื่องจากประชาชนหันไปใช้พลังงานทดแทน ทั้งก๊าซเอ็นจีวี และแอลพีจี รวมทั้งเอทานอลและไบโอดีเซลมากขึ้น แต่ยอดขายน้ำมันบางจากเพิ่มขึ้น 5% หรือประมาณ 2,400ล้านลิตร คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาด 13.8-14% ขึ้นเป็นอันดับ 3 รองจากปตท. และเอสโซ่ นับเป็นปีแรกที่มีมาร์เก็ตแชร์น้ำมันแซงหน้าเชลล์ และวางเป้าหมายมีมาร์เก็ตแชร์เป็นอันดับ 2 รองจากปตท.ในปี 2556
"ปีนี้ตั้งเป้าหมายยอดขายน้ำมันเติบโตขึ้น 5% คิดเป็นยอดขายน้ำมันรวม 2,520 ล้านลิตร ซึ่งเป้าหมายครองมาร์เก็ตแชร์น้ำมันเป็นอันดับ 2 จำเป็นต้องมีปั๊มน้ำมันขนาดใหญ่และทำเลที่ดี โดยปี 2554 บางจากเตรียมเปิดสถานีบริการน้ำมันโฉมใหม่ขนาดใหญ่ 2แห่ง โดยแห่งแรกเป็นปั๊มบริเวณวิภาวดี ใช้เงินลงทุน 60 ล้านบาท"
ส่วนการตลาดน้ำมันเครื่องในปีนี้ ตั้งเป้ายอดขาย 30 กว่าล้านลิตร เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วยอดขายน้ำมันเครื่อง 26 ล้านลิตร ซึ่งปี 2553 ยอดขายน้ำมันเครื่องบางจากเติบโตขึ้น 18% สูงกว่าตลาดรวมโตเพียง 6-7% ด้วยมูลค่าตลาดน้ำมันเครื่อง 4.5 หมื่นล้านบาท บางจากมีส่วนแบ่งการตลาดน้ำมันเครื่องเป็นอันดับ 5 คิดเป็นมาร์เก็ตแชร์ 6.4% สาเหตุที่ยอดขายน้ำมันเครื่องบางจากเติบโตขึ้นรวดเร็ว มาจากการมีเน็ตเวิร์คเองทั้งปั๊มน้ำมัน และคาร์แคร์ในนามกรีน เซิร์ฟและกรีนวอช ที่มีอยู่ 160สาขา โดยปีนี้ตั้งเป้าเพิ่มขึ้นเป็น 200 สาขา
นอกจากนี้ จะบุกตลาดขยายร้านค้าย่อยเพิ่มมากขึ้น รวมถึงการเจาะตลาดภาคอุตสาหกรรม ที่ผ่านมา บางจากมีลูกค้าที่ใช้น้ำมันเตาอยู่ 600 ราย ก็จะเสนอขายน้ำมันเครื่องไปด้วย ทำให้การขายผ่านช่องทางการตลาดนี้โตถึง 30% รวมทั้งบุกตลาดส่งออกไปยังจีน ลาว พม่า ล่าสุดเตรียมทำตลาดที่ออสเตรเลียภายใต้แบรนด์บางจาก คาดว่าปีนี้มียอดส่งออกน้ำมันเครื่อง 5 ล้านลิตรเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วส่งออก 3.5 ล้านลิตร ทั้งนี้ บางจากตั้งเป้าหมายมาร์เก็ตแชร์น้ำมันเครื่อง 10% ในปี 2556 โดยปีนี้ตั้งเป้ามาร์เก็ตแชร์อยู่ที่ 8%
นายยอดพจน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ รักษาการผู้อำนวยการอาวุโสสายการตลาดอุตสาหกรรม บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปีนี้ตั้งงบการตลาด 500 ล้านบาท เพื่อใช้ในการการปรับโฉมสถานีบริการน้ำมัน (รีแบรนดิ้ง)และสร้างปั๊มใหม่ วงเงิน 300 ล้านบาท และอีก 200 ล้านบาท ใช้ในการขยายธุรกิจNon oil อาทิ ร้านกาแฟอินทนิน คาร์แคร์และน้ำมันเครื่อง
ในปีนี้วางเป้าหมายรีแบรนดิ้งปั๊มเพิ่มขึ้นอีก 100 แห่ง จากปัจจุบันที่ได้รีแบรนดิ้งไปแล้ว220 แห่ง และมีปั๊มใหม่เพิ่มขึ้นอีก 15 แห่ง และส่วนธุรกิจnon Oil จะมีการขยายร้านกาแฟอินทนินเพิ่มขึ้น นอกเหนือจากขยายภายในในปั๊มบางจากแล้ว โดยจะขยายไปในห้างสรรพสินค้า สถาบันศึกษาและอาคารสำนักงานทั่วไป เพื่อให้ผู้บริโภครู้จักแบรนด์อินทนินมากขึ้น ขณะเดียวกันก็จะเพิ่มสัดส่วนการขายน้ำมันเครื่องผ่านช่องทางการตลาดไม่ว่าจะเป็นOEM โมเดิร์นเทรด ร้านค้าย่อย และตลาดส่งออก
ทั้งนี้ บางจากวางเป้าหมายรายได้จากธุรกิจNon Oil เพิ่มขึ้นเป็น 30%ในอีก 3ปีข้างหน้าจากปัจจุบันมีรายได้คิดประมาณ 10% ของรายได้รวม
นายยอดพจน์ กล่าวว่า ปี 2553 ยอดการใช้น้ำมันรวมของประเทศลดลง 0.3-0.5% เนื่องจากประชาชนหันไปใช้พลังงานทดแทน ทั้งก๊าซเอ็นจีวี และแอลพีจี รวมทั้งเอทานอลและไบโอดีเซลมากขึ้น แต่ยอดขายน้ำมันบางจากเพิ่มขึ้น 5% หรือประมาณ 2,400ล้านลิตร คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาด 13.8-14% ขึ้นเป็นอันดับ 3 รองจากปตท. และเอสโซ่ นับเป็นปีแรกที่มีมาร์เก็ตแชร์น้ำมันแซงหน้าเชลล์ และวางเป้าหมายมีมาร์เก็ตแชร์เป็นอันดับ 2 รองจากปตท.ในปี 2556
"ปีนี้ตั้งเป้าหมายยอดขายน้ำมันเติบโตขึ้น 5% คิดเป็นยอดขายน้ำมันรวม 2,520 ล้านลิตร ซึ่งเป้าหมายครองมาร์เก็ตแชร์น้ำมันเป็นอันดับ 2 จำเป็นต้องมีปั๊มน้ำมันขนาดใหญ่และทำเลที่ดี โดยปี 2554 บางจากเตรียมเปิดสถานีบริการน้ำมันโฉมใหม่ขนาดใหญ่ 2แห่ง โดยแห่งแรกเป็นปั๊มบริเวณวิภาวดี ใช้เงินลงทุน 60 ล้านบาท"
ส่วนการตลาดน้ำมันเครื่องในปีนี้ ตั้งเป้ายอดขาย 30 กว่าล้านลิตร เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วยอดขายน้ำมันเครื่อง 26 ล้านลิตร ซึ่งปี 2553 ยอดขายน้ำมันเครื่องบางจากเติบโตขึ้น 18% สูงกว่าตลาดรวมโตเพียง 6-7% ด้วยมูลค่าตลาดน้ำมันเครื่อง 4.5 หมื่นล้านบาท บางจากมีส่วนแบ่งการตลาดน้ำมันเครื่องเป็นอันดับ 5 คิดเป็นมาร์เก็ตแชร์ 6.4% สาเหตุที่ยอดขายน้ำมันเครื่องบางจากเติบโตขึ้นรวดเร็ว มาจากการมีเน็ตเวิร์คเองทั้งปั๊มน้ำมัน และคาร์แคร์ในนามกรีน เซิร์ฟและกรีนวอช ที่มีอยู่ 160สาขา โดยปีนี้ตั้งเป้าเพิ่มขึ้นเป็น 200 สาขา
นอกจากนี้ จะบุกตลาดขยายร้านค้าย่อยเพิ่มมากขึ้น รวมถึงการเจาะตลาดภาคอุตสาหกรรม ที่ผ่านมา บางจากมีลูกค้าที่ใช้น้ำมันเตาอยู่ 600 ราย ก็จะเสนอขายน้ำมันเครื่องไปด้วย ทำให้การขายผ่านช่องทางการตลาดนี้โตถึง 30% รวมทั้งบุกตลาดส่งออกไปยังจีน ลาว พม่า ล่าสุดเตรียมทำตลาดที่ออสเตรเลียภายใต้แบรนด์บางจาก คาดว่าปีนี้มียอดส่งออกน้ำมันเครื่อง 5 ล้านลิตรเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วส่งออก 3.5 ล้านลิตร ทั้งนี้ บางจากตั้งเป้าหมายมาร์เก็ตแชร์น้ำมันเครื่อง 10% ในปี 2556 โดยปีนี้ตั้งเป้ามาร์เก็ตแชร์อยู่ที่ 8%